รับเหมาเทศบาลหนี้ท่วม ชนวนประธานยิงนายกฯ
http://www.komchadluek.net/news/2006/01-24/p1--66453.html
สุดยื้อชีวิตนายกเทศมนตรีตำบลศรีเชียงใหม่ ส่วนเทศมนตรีฝ่ายช่างยังโคม่า พบจดหมายลาตายเขียนก่อนลงมือยิง 1 วัน ชี้เสียรู้คนเพราะ "โง่" สร้างหนี้สินท่วมตัวทั้งเปียแชร์ และปลอมลายเซนต์ภรรยาถอนเงินมาลงทุน แต่โครงการก่อสร้างโรงยิม 12 ล้านนายกเทศมนตรีลีลาไม่ยอมเซนต์รับ แถมยังปรับค่าก่อสร้างล่าช้านับล้าน
ความคืบหน้าเหตุนายพงศ์ศักดิ์ จันทร์ชม อายุ 46 ปี ประธานสภาเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ใช้อาวุธปืนขนาด .22 จ่อยิงนายจุฬา ชานันโท อายุ 39 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ และนายมงคล เกสรพรหม อายุ 53 ปี เทศมนตรี ฝ่ายการช่างเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ก่อนการประชุมสภาเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ สมัยวิสามัญ ครั้งที่ 2 เพื่อเลือกเทศมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่าง ทำให้นายกเทศมนตรีและเทศมนตรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นนายพงศ์ศักดิ์ ได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตอยู่ในห้องประชุม
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 มกราคม นายจุฬา ชานันโท นายกเทศมนตรี เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลเอกอุดร จ.อุดรธานี ส่วนนายมงคล เกสรพรหม ยังอาการสาหัสและยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ดังกล่าว ส่วนที่ สภ.อ.ศรีเชียงใหม่ พ.ต.ต.อำนวย เพียรเสมอ สารวัตร ฯ สภ.อ.ศรีเชียงใหม่ สารวัตรเวรฯ และเจ้าของคดี ได้เชิญนายประยุทธถี คำภูแก้ว ส.ท. เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม และได้เชิญ ส.ท.ทั้งหมดเข้าให้ปากคำ โ
นายประยุทธถี ซึ่งเป็นคนที่เข้าไปห้ามไม่ให้นายพงษ์ศักดิ์ ยิงตัวเองและให้การว่า ที่กล้าเข้าไปห้ามเพราะตนกับนายพงศ์ศักดิ์เป็นคนสนิทกัน อย่างไรก็คงต้องตายไปด้วยกัน ก่อนหน้านี้นายพงษ์ศักดิ์เคยเล่าให้ฟังถึงปัญหาเรื่องการเงินและการประมูลงานก่อสร้างโรงยิมภายในเขตเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ รวมทั้งปัญหาการถูกโกงเงินด้วย ซึ่งตนได้แต่ปลอบใจไปเท่านั้น
จากการสอบสวนของตำรวจได้ตั้งประเด็นสาเหตุการตัดสินใจฆ่าผู้บริหารกลางที่ประชุม โดยมุ่ง 2 ประเด็น คือ การกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนร่วมหุ้นประมูลงานก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ รวม 12 ล้านบาท ปรากฏว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จก็ถูกร้องเรียนว่างานไม่ได้สเปก เป็นเหตุทำให้ สตง.ต้องเข้ามาตรวจสอบ สั่งให้แก้ไข เมื่อแก้ไขแล้วเสร็จปรากฏว่าคณะผู้บริหารไม่เซ็นผ่านงาน เป็นเหตุทำให้ต้องถูกปรับเป็นเงินหลายล้านบาท
และยังต้องรับภาระหนี้สินเงินกู้นอกระบบอีกจำนวนมากจึงเกิดความเครียดจัด และประเด็นการแต่งตั้งเทศมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องสภาเทศบาลแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มก็มีคนของตัวเองเสนอเข้าแข่งขัน มีการล็อปบี้กันอย่างหนักซึ่งมีทีท่าว่าคนที่ตัวเองจะสนับสนุนมีสิทธิ์แพ้คะแนนเสียงในสภาฯ ก็ยิ่งมีความกดดันมากขึ้น จึงอาจเป็นสาเหตุตัดสินใจยิงเพื่อน ส.ท.บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวส่วนประเด็นอาวุธนั้น จะมีการสืบสวนสอบสวนเช่นเดียวกันว่าเป็นอาวุธปืนของผู้ตายหรือของใครกันแน่
สำหรับหลักฐานของตำรวจที่คาดว่าเป็นชนวนของการบุกยิงนายกเทศมนตรีและส.ท.ของนายพงษ์ศักดิ์ ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบจดหมายที่นายพงษ์ศักดิ์ เขียนถึงบุคคลหลายคน ใน 3 ฉบับ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. โดย ข้อความในจดหมายส่วนใหญ่ระบุถูกเพื่อนหลอก ตำรวจเตรียมเรียกชื่อคนใน จดหมายสอบปากคำ คาด 2 ประเด็นการเมืองและโครงการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์
ล่าสุด พ.ต.ต.อำนวย เพียรเสมอ สารวัตเวร สภ.อ.ศรีเชียงใหม่ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เรียกนายประยุทธถี และ น.ส.จิราวรรณ จันทร์ชม น้องสาวนายพงศักดิ์ จันทรืชม ผู้ตาย และนายเผด็จ ทองสอดแสง ปลัดเทศบาล มาทำการสอบปากคำในวันที่ 23 ม.ค. เพื่อต้องการทราบถึงสาเหตุที่นายพงษ์ศักดิ์ก่อเหตุขึ้นครั้งนี้ โดยทั้ง 3 คน ต่างก็ให้การว่าไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
คาดว่าน่าจะมาจากความขัดแย้ง เรื่องการเมือง เพราะนายพงษ์ศักดิ์และนายจุฬา ต่างคนต่างสนันสนุนคนของตัวเองในการเลือกเทศมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างและความขัดแย้งโครงการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนตายนางพงพ์ศักดิ์ ได้เขียนจดหมายลาตายไว้ 3 ฉบับ โดยฝากไว้กับหลานที่บ้านเพื่อมอบต่อให้กับนางจิราวรรณ จันทร์ชม น้องสาวผู้ตาย โดยทั้ง 3 ฉบับ มีข้อความต่างกัน แต่ส่วนใหญ่เนื้อความในจดหมายจะเป็นการระบายเรื่องการถูกโกง เรื่องการลงทุน
พ.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่าโดยจดหมายที่นายพงษ์ศักดิ์ ได้เขียนไว้ก่อนที่จะลง มือก่อเหตุจำนวน 3 ฉบับ เบื้องต้นมองตามรูปการแล้วคาดว่าสาเหตุที่นายพงษ์ศักดิ์ลงมือก่อ เหตุครั้งนี้น่าจะมาจากความขัดแย้งการเมืองและธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเนื้อหาในจดหมายทั้ง 3 ฉบับ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนทั้งหมด และมีเนื้อหาผิดหวังกับการกระทำของบุคคลใกล้ชิดและถูกโกงในการลงทุน จนทำให้ตัวเองไม่มีเงินลงทุน ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ ตั้งไว้สองประเด็น
"เบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นได้มากนัก เพราะต้องรอสอบ ปากคำผู้ที่มีรายชื่อในจดหมายทั้ง 3 ฉบับที่นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงทุกคน โดยในวันที่ 24 ม. ค.นี้ได้เรียกทุกคนมาสอบปากคำอย่างละเอียด โดยเฉพาะคนชื่อนายสมพรหรือ แอร์ นางพนารัตน์ หรือหญิง มาให้ปากคำ ซึ่งคาดว่าหลังจากสอบปากคำเสร็จแล้วคงจะทราบถึง สาเหตุที่แท้จริง ส่วนรูปคดีนั้นจากการตรวจสอบหลักฐานวีดีโอและสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่านายพงษ์ศักดิ์ก่อเหตุจริงและยิงตัวเองตาย ซึ่งต่อไปเจ้าหน้าที่เพียงแต่จะได้นำหัว กระสุนจากโรงพยาบาลเอกอุดร มาตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นกระสุนที่ยิงออกจากปืนกระบอก เดียวกันหรือไม่เท่านั้น " พ.ต.ต.อำนวยกล่าว
โดยจดหมายทั้ง 3 ฉบับ นายพงษศักดิ์ผู้ตายได้เขียนไว้ให้ น.ส.จิราวรรณ จันทร์ชม น้องสาว ,น.ส.อนงค์ลักษณ์ ผิวนวล ส.ท.คนสนิท และนายสมพร แก้วแก้ว นางพนารัตน์ แก้วเกิด 2 สามีภรรยา ที่ร่วมลงทุนกับนายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งแต่ละฉบับมีเนื้อหาต่างกัน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า โครงการประมูลงานสร้างอาคารเอนกประสงค์ ที่มูลค่า ประมาณ 12 ล้านบาท ที่คาดว่านายพงษศักดิ์ ได้ร่วมลงทุนกับนายสมพรและนางพนารัตน์ โดยมีบริษัทอรุณีก่อสร้าง อ.ท่าบ่อ เป็นคู่สัญญากับทางเทศบาล ที่ผ่านมาตามสัญญาจะต้อง เสร็จภายใน 6 เดือน แต่หลังจากดำเนินการก่อสร้างมีการสร้างผิดแบบ คณะบริหารเทศบาล ให้ทำการตรวจสอบ จนทำให้การก่อสร้างล่าช้า และเทศบาลต้อง ปรับเงินค้าล้าช้าประมาณ 1 ล้านบาทเศษ
ส่วนประเด็นการเมืองภายในเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ แหล่งข่าวระบุว่า ที่เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ 3 ปี มีการเปลี่ยนนายกเทศมนตรีถึง 3 คน เนื่องจากว่ารูปแบบนายกและสมาชิกยังเป็นกฏหมายเดิมอยู่ โดยเป็นรูปแบบของคณะเทศมนตรี ซึ่งหลังจากเทศมนตรีได้รับเลือกเข้ามาก็จะมาเลือกผู้เป็นนายกเทศมนตรีอีกที โดยในปีแรกมีนายพรชัย ปุริวัฒน์ เป็นนายกเทศมนตรี ปีที่ 2 มี น.ส.อนงลักษณ์ ผิวนวล เป็นนายกเทศมนตรี ปีที่ 3 ได้นายจุฬา ชานันโท เป็นนายกเทศมนตรี ซึ่งทั้ง 3 ปี มีนายพงษศักดิ์ จันทรชม เป็นประธานสภาตลอด
แหล่งข่าวระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้นายจุฬาเคยอยู่ในกลุ่มของนายพงษ์ศักดิ์และ นายพงษ์ศักดิ์ ก็ให้การสนับสนุนจนได้เป็นนายกเทศมนตรี นอกจากนี้นายพงษ์ศักดิ์ และ นายจุฬายังเป็นญาติห่าง ๆ กันอีกด้วย แต่ระยะหลังทั้ง 2 เริ่มแตกคอกัน ซึ่งชนวนเหตุในครั้ง นี้อาจเป็นเพราะว่านายจุฬา ไม่ยอมเซนต์รับงานโครงการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ ทำให้นายพงษ์ศักดิ์ ที่ร่วมหุ้นดำเนินงานต้องสูญเงินค่าปรับล่าช้า 1 ล้านบาทเศษ โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่ของนายพงษ์ศักดิ์ที่ลงหุ้นกับนายสมพร เป็นเงินจากวงแชร์และปลอมลายมือภรรยาที่ทำงานอยู่ต่างประเทศมาลงทุน
ส่วนบรรบากาศที่บ้านของนายพงษ์ศักดิ์ จันทร์ชม ประธานสภาเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ และที่บ้านของนายจุฬา ชานันโท นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ได้มีญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานไปแสดงความเสียใจอย่างต่อเนื่อง และมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไป .
|