กระดานแสดงความคิดเห็น
Home
Contents
Articles
Quiz
Members
Sponsor
Print-friendly
MENU
ปรับปรุง : 2566-10-15 (กระดานแสดงความคิดเห็น)
เว็บเพจหน้านี้สำหรับผู้ดูแลเท่านั้น
รหัส secure
=>
นำตัวอักษร สีขาวบนพื้นแดง มาป้อนในช่องนี้
edit_topic_password =>
มนุษย์เราประเสริฐกว่าสิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่นบนโลกด้วยหลายปัจจัย สำหรับพุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่าการมีพรหมวิหารเป็นหนึ่งในเครื่องแยกความแตกต่างข้างต้นได้อย่างชัดเจน แล้วหนึ่งในพรหมวิหารได้แก่ มุทิตา คือ การยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นเป็นสุข เป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในหลายองค์กรที่ผู้น้อยรวมตัวกันจัดงานมุทิตาจิตให้ผู้ใหญ่ที่น่าเครารพเมื่อถึงวาระต้องอำลาองค์กรตามเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ปลายเดือนพฤษภาคม 2552 ผู้เขียนร่วมงานมุทิตาจิตของ รศ.จินตนา สุนทรธรรม เป็นการเกษียณรอบที่ 2 สำหรับองค์กรที่ 2 ของท่านด้วยวัย 75 ปี แม้ใจยังสู่แต่ด้วยอุปสรรคของสังขารที่เป็นไปตามวัย จึงเป็นเวลาที่ท่านต้องทำตามเป้าหมายอีกประการหนึ่งในฐานะพุทธศาสนิกชนที่เข้มแข็งด้วยการวางแผนไปปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง เจริญภาวนาอย่างสงบเป็นความสุขที่แท้จริงตามทางสายธรรม ดังที่ชาวพุทธทุกคนใฝ่ฝันไว้แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ก้าวไปถึงจุดที่ท่านกำลังยืนอยู่
รูปแบบงานมุทิตาจิตดำเนินไปด้วยความรัก ความสุข ความชื่นชม โดยศิษย์เก่าแต่ละรุ่นผลัดกันออกมาแสดงความปิติยินดี เล่าความหลังที่น่าประทับใจ รำลึกในคุณงามความดีของอาจารย์แม่หรืออาจารย์ย่าของผม มีนักศึกษาปัจจุบันมาแสดงศิลปล้านนาประกอบเพลง พร้อมฉายสไลด์ประกอบการแสดง และศิษย์เก่าผลัดกันออกไปร้องเพลงคาราโอเกะโดยใช้โปรแกรมนิกคาราโอเกะ (NICK Karaoke)
ในอดีตการจัดงานมุทิตาจิตก็คงไม่มีการใช้แสง สี หรือเสียงให้เห็นมากนัก แต่ปัจจุบันงานแสดงความชื่นชมเช่นนี้มักแจกหนังสือประวัติย่อ หนังสือธรรมะ และสร้างสื่อมัลติมีเดียที่สมบูรณ์ ในงานนี้ใช้วีดีทัศน์ถึง 3 ชุดใน 3 วาระผ่านเครื่องฉาย Projector 2 ตัวไปยังด้านข้างของเวทีทั้งสองด้าน และจอคอมพิวเตอร์สำหรับร้องคาราโอเกะอีกตัวหนึ่ง มีการปรับใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับการแสดงจินตลีลาได้อย่างลงตัวเป็นการใช้เทคโนโลยีนำเสนอได้อย่างสมบูรณ์จากความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนที่ต้องการชื่นชมปูชนียบุคคลขององค์กร
จากคุณ :
บุรินทร์
.
09:20am (1/06/09)