กระดานแสดงความคิดเห็น

รวมพลคนโอเพนซอร์ส หาทิศทางพัฒนาที่เหมาะสม


นายเจมส์ คลาร์ค ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโอเพนซอร์ส สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ องค์การ (มหาชน) หรือ ซิป้า กล่าวในงานสัมมนา "การส่งเสริมซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในประเทศไทย" ว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ นับเป็นการรวบรวมชุมชนโอเพนซอร์สครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง โดยเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง ซิป้า และ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็คทรอนิกส์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ เนคเทค เพื่อแจ้งให้แก่คนไอทีทราบว่า แนวทางการส่งเสริมโอเพนซอร์ส ของไทยจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด และมีโครงการอะไรบ้างที่กำลังจะเกิดขึ้น

ผจก.ฝ่ายพัฒนาโอเพนซอร์ส ซิป้า กล่าวต่อว่า ซิป้าต้องการให้ภาครัฐปรับปรุง ได้แก่ ไม่ควรบังคับเลือกใช้โอเพนซอร์ส การแข่งขันที่เป็นธรรมระหว่างซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและซอฟต์แวร์อื่น การกำหนดมาตรฐานแบบเปิด ด้วยการทำให้ข้อมูลสาธารณะอยู่ในรูปแบบที่เป็นกลาง และการทำให้ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ตระหนักถึงปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากทำให้ไม่เกิดแรงจูงใจในการใช้โอเพนซอร์สเพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงต้องทำให้ผู้ใช้เคารพในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา โดยการค่อยๆให้ผู้ใช้ทั่วไปเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมโอเพนซอร์ส เช่น ใช้วินโดวส์เป็นระบบปฏิบัติการ แต่เลือกโปรแกรมที่ใช้งานลีนุกซ์ได้ด้วย เช่น โปรแกรมชุดสำนักงาน Open Office หรือ บราวเซอร์ ไฟร์ฟ็อกซ์

นายเจมส์ กล่าวอีกว่า ทางซิป้ายังได้จัดทำชุดโปรแกรม "จันทรา" ที่รวบรวมโปรแกรมแนะนำ ในรูปแบบแผ่นซีดีสำหรับใช้งานบนวินโดวส์ เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ใช้ทั่วไปอย่างกว้างขวางคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 2548 นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับทีมพัฒนาโปรแกรมต้นฉบับในการแก้ปัญหาการใช้งานภาษาไทย และการว่าจ้างนักออกแบบสร้างฟอนต์ตัวอักษรภาษาไทยในตระกูล Bitstream Vera ให้เสร็จใน 1 ปี อีกทั้ง ยังจะพัฒนาลีนุกซ์ทะเลเวอร์ชันใหม่จากเอนจิ้น ดีเบียน (Debian) โดยที่ผ่านมานั้น ลีนุกซ์ทะเลใช้เอนจิ้น "ฟีโดร่า" ของเรดแฮทมาตลอด เนื่องจากซิป้าและเนคเทคต้องการพัฒนาโปรแกรมที่มีความเป็นกลางไม่เอนไปค่ายใดค่ายหนึ่ง

ผจก.ฝ่ายพัฒนาโอเพนซอร์ส ซิป้า กล่าวด้วยว่า การใช้งานลีนุกซ์บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ก็มีชุดโปรแกรม "สุริยันต์" ที่ใช้ดีเบียนเป็นแกนหลักเพราะมีความเสถียรและคุณภาพ อีกทั้ง มีซอฟต์แวร์ร่วมมากกว่า 1,000 แพ็คเกจ เหมาะสำหรับการใช้ในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ทั้งนี้ ซิป้าจะสนับสนุนการสร้างชุมชนโอเพนซอร์สด้วยการเปิดเว็บไซต์ www.thaiopensource.org ที่จะเป็นศูนย์กลางชุมชนโอเพนซอร์สออนไลน์ในประเทศ ที่อัพเดทข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมงทำให้ลกการใช้แบนด์วิธไปต่างประเทศ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปรับปรุงทักษะของนักพัฒนาชาวไทย สร้างซอฟต์แวร์ที่สอดคล้องกับความต้องการ และประเทศไทยควรเป็นผู้ให้เทคโนโลยีบ้าง ไม่ใช่รับอย่างเดียว

ด้าน นายกำธร ไกรรักษ์ หัวหน้างานวิจัยซอฟต์แวร์พื้นฐานทั่วไป เนคเทค กล่าวว่า ทิศทางการส่งเสริมโอเพนซอร์สของเนคเทค จะเป็นการร่วมมือกับซิป้า มหาวิทยาลัยและภาคเอกชน ด้วยการส่งเสริมโอเพนซอร์สสำหรับวินโดวส์ในปี 2548-2549 เพื่อสร้างความคุ้นเคยแก่ผู้ใช้ทั่วไป ส่วน นักวิจัยของเนคเทคจะเน้นเรื่องการ Localization โปรแกรมลีนุกซ์มากขึ้น โดยการร่วมพัฒนากับโครงการต้นน้ำเพื่อเพิ่มคุณสมบัติ หรือแก้บั๊กเกี่ยวกับภาษาไทย เช่น Openoffice.org การเปลี่ยนฐานพัฒนาของลีนุกซ์ทะเลเป็นดีเบียนสำหรับเดส์กท็อปที่ใช้ Ubuntu ขณะเดียวกัน ก็จะสนับสนุนลีนุกซ์ทะเลเวอร์ชัน 7 ไปเรื่อยๆจนกว่า จะออกลีนุกซ์ตัวใหม่ในปี 2549

หัวหน้างานวิจัยซอฟต์แวร์พื้นฐานทั่วไป เนคเทค กล่าวด้วยว่า เหตุผลของเนคเทคที่พัฒนาลีนุกซ์บนพื้นฐานของดีเบียน เนื่องจากเป็นเจตนารมย์ที่ตั้งไว้แต่แรก เพราะลีนุกซ์เดิมใช้พื้นฐานของฟีโดร่าที่มีความเสถียรภาพต่ำกว่า เรดแฮท เอ็นเตอร์ไพรซ์ แต่เนคเทคไม่สามารถพัฒนาบนนั้นได้ และการการส่งเสริมฟีโดร่าก็เป็นการส่งเสริมเอกชนเพียงรายเดียวไม่ใช่ชุมชนนักพัฒนา เพราะผู้อยู่เบื้องหลังฟีโดร่าคือเรดแฮท จึงไม่เหมาะที่องค์กรของรัฐจะทำเช่นนั้น นอกจากนี้เดิมที่ดีเบียนขาดความเป็นมิตรกับผู้ใช้ แต่ขณะนี้ Ubuntu มีระบบเดส์กท็อปและเครื่องมือปรับแต่งที่ดีเทียบเท่ากับฟีโดร่าแล้วนั่นเอง