thaiall logomy background

กระดานแสดงความคิดเห็น

my town
กิ๊กเหมาจ่าย จ๊อบใหม่นศ. ขอเดือนละ3พัน บริการไม่จำกัด
http://talk.sanook.com/hot/hot_03059.php
http://www.komchadluek.net/news/2005/09-16/p1-18618594.html
กิ๊กเหมาจ่าย จ๊อบใหม่นศ. ขอเดือนละ3พัน บริการไม่จำกัด

แฉ นศ.สาวหาเงินเรียน-เที่ยว ลงประกาศทางอินเทอร์เน็ต หาเสี่ยรับเลี้ยงรายเดือนถูกแค่ 3 พันบาท เรียกใช้บริการได้ไม่จำกัด โจ๋วัย 20 มีกิ๊กทีเดียวพร้อมกันสี่คน สร้างรายได้ตกเดือนละ 1.7 หมื่น ชี้ นศ.ยุคใหม่หลายคนหันหาเงินแนวนี้เพียบ

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น สังคมนิยมวัตถุจึงเข้ามาแทนที่วัฒนธรรมดีงาม ล่าสุดมีนักศึกษาหญิงกลุ่มหนึ่งที่หารายได้พิเศษด้วยการโพสข้อความตามอินเทอร์เน็ต ประกาศหาเสี่ยรับเลี้ยงรายเดือน เดือนละ 3,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเวบไซต์ยอดนิยมของเมืองไทยเวบหนึ่งพบว่า ในแต่ละวันจะมีผู้หญิงเข้ามาโพสข้อความ พร้อมกับรูปภาพไม่ต่ำกว่า 300 ข้อความ ในจำนวนนี้มีมากกว่า 40 ข้อความ ที่มีเนื้อหาเสนอขายบริการทางเพศ ตลอดจนหาเสี่ยรับเลี้ยงรายเดือน โดยทิ้งอีเมลแอดเดรสไว้ให้ติดต่อ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกลับไปยังอีเมลแอดเดรสในจำนวน 40 ข้อความข้างต้น ส่วนใหญ่เป็นการกลั่นแกล้งกันเอง แต่ในจำนวนนี้มีถึง 12 ข้อความ ที่เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงและเป็นคนลงข้อความไว้ด้วยตัวเอง "น้องเหมียว" วัย 20 ปี นักศึกษาปีสาม คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต หนึ่งในผู้โพสข้อความหาเสี่ยรับเลี้ยงติดต่อกลับมายังผู้สื่อข่าวผ่านทางช่องสนทนา "เอ็มเอสเอ็น" ว่า เดือดร้อนเรื่องเงินมาก จึงต้องหารายได้พิเศษลักษณะนี้ จากนั้นได้ส่งรูปถ่ายครึ่งตัวใส่เสื้อสายเดี่ยวสีเขียวรัดรูปมาให้พิจารณา โดยยืนยันว่าหากมาพบตัวจริงแล้วหน้าตาไม่ตรงกับรูปสามารถปฏิเสธได้

ผู้สื่อข่าวได้นัดเจอ "น้องเหมียว" ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งพบว่ารูปร่างหน้าตาเหมือนกับในรูปที่ส่งมาให้ โดยประโยคแรกที่พูดเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนตัว สถานที่ทำงาน เพื่อพิจารณาว่าจะมีเงินจ่ายเป็นรายเดือนหรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงเปิดเผยความจริงและบอกให้รู้ถึงวัตถุประสงค์ของการนำเสนอความเปลี่ยนแปลงในสังคม โดยเฉพาะประเด็นพฤติกรรมวัยรุ่นที่เปลี่ยนไป ทำให้นักศึกษาสาววัย 20 ปี ถึงกับตกใจ แต่ไม่นานก็ยอมเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ของตัวเอง

"น้องเหมียว" เปิดเผยว่า เป็นเด็กต่างจังหวัดพ่อแม่ส่งมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ โดยเช่าหออยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจะได้ไปมาสะดวก ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นประสบการณ์ใหม่ เพื่อนใหม่ และการใช้ชีวิตแบบคนเมืองสมัยใหม่ ทั้งเรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัว รองเท้า โทรศัพท์มือถือ ทำให้เงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ไม่พอใช้จ่าย ประกอบกับช่วงนั้นมีคนเข้ามาจีบเยอะ และเริ่มมีแฟนจึงย้ายเข้ามาอยู่หอพักเดียวกันลดค่าใช้จ่ายลง แต่พออยู่ไปอยู่มาก็เกิดปัญหาขึ้น ต่างคนต่างเที่ยวสี่เดือนต่อมาจึงเลิกรากันไป

นักศึกษาสาวผู้นี้ กล่าวต่อว่า หลังจากเลิกกับแฟนทำให้มีอิสระมากขึ้น เที่ยวเตร่มากกว่าเดิม เมื่อเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้หมดก็หยิบยืมจากเพื่อนรอบข้าง หมุนเงินลงทะเบียนเรียนเทอมสองมาใช้จ่ายก่อน พอถึงเวลาลงเรียนก็ต้องวิ่งหาเงินมาใช้ ทั้งเงินกู้นอกระบบและเงินกู้ยืมเรียนของภาครัฐ แต่ชีวิตก็ยังเหมือนเดิม จึงปรึกษาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งแนะนำวิธีหาเงินด้วยการลงประกาศข้อความหาผู้ส่งเสียเลี้ยงดูทางอินเทอร์เน็ต

"เพื่อนคนที่ให้คำปรึกษาก็ทำอยู่บอกว่ารายได้ดี แรกๆ ก็กล้าๆ กลัวๆ ขอเงินไปเดือนละ 15,000 บาท แต่พอเจอกันจริงๆ เขาไม่มีเงินให้มากขนาดนั้น เลยพาไปเที่ยวสุดท้ายก็ขอมีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียว โดยจ่ายค่าตัวให้ 5,000 บาท ตอนนั้นเมามากเลยรับงานนั้นมา" น้องเหมียว กล่าว

ปัจจุบัน "น้องเหมียว" ปรับเปลี่ยนวิธีด้วยการขอเงินเดือนละ 3,000-5,000 บาท แทนเดือนละหมื่นกว่า เนื่องจากเข้าใจว่าในยุคที่เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้คงมีผู้ชายน้อยคนที่จะยินดีจ่ายเงินมากมายขนาดนั้น จึงยอมมีอะไรกับผู้ชายหลายคน เพื่อให้ได้เงินตามจำนวนที่ต้องการ ดีกว่าไม่มีคนติดต่อเข้ามาเลย ทุกวันนี้มีรายได้ประจำตกเดือนละ 17,000 บาท จากผู้ชายสี่คน ไม่รวมค่าทิปที่บางคนให้ตอนนัดเจอเพื่อมีอะไรกัน ซึ่งไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อเดือน หากอยากเจอเมื่อไร หรือมีเวลาว่างตรงกันวันไหนก็มาพบกัน โดยมีข้อแม้ว่าห้ามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และทุกครั้งก่อนจะรับค่าเลี้ยงดูจากคนใหม่ก็จะบอกกติกานี้ให้ทราบก่อนทุกครั้ง

"ฉันเลือกคนที่จะไปด้วยนะ ไม่ใช่ใครมีเงินเยอะก็พาไปได้ บางคนอ้วนก็ปฏิเสธไป หลังเรียนจบมีงานทำก็คงเลิกหากินด้วยวิธีนี้ เท่าที่รู้มาเพื่อนๆ ในกลุ่มทำกันเกือบทุกคน เรื่องแบบนี้เขาไม่เปิดเผยกันหรอกนะ แต่สังเกตไม่ยากดูที่การแต่งตัว ข้าวของเครื่องใช้มีราคา หากเป็นนักศึกษาทั่วไปที่ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยคงหาซื้อไม่ได้" น้องเหมียว สรุปส่งท้าย

เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ "น้องเหมียว" ไม่ได้แตกต่างจาก "น้องแพรว" วัย 21 ปี นักศึกษาปีสี่ มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งใน กทม. ซึ่งโพสข้อความเชิญชวนหาผู้เลี้ยงดูด้วย โดยให้เหตุผลความจำเป็นของครอบครัวที่มีภาระรับผิดชอบเยอะ จึงไม่มีเงินพอส่งเสียให้เล่าเรียน ต้องไปกู้ยืมเงินมาให้ แต่ก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลังเลยตัดสินใจหาเงินด้วยวิธีดังกล่าว เป็นการลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวลง

"ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ ในกลุ่มให้ทำแบบนี้ ที่ผ่านมาเปลี่ยนคนเลี้ยงดูมาแล้วสามคน แต่มีคนเลี้ยงดูครั้งละคนเท่านั้น ไม่ได้รับหลายทางเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เรียกเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือน เดือนละ 1 หมื่นบาท บางคนก็จ่ายครบบ้างขาดบ้าง พอมีคนใหม่เข้ามาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนที่ทำก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องปกปิดไม่ให้เขารู้ เป็นใครก็คงทนไม่ได้หากรู้ว่าแฟนตัวเองมีพฤติกรรมอย่างนี้" น้องแพรว ระบุ

ด้าน พ.ต.อ.สุรัศมิ์ อุดมรัตน์ ผู้กำกับการศูนย์สวัสดิภาพเด็กและเยาวชน (ผกก.ศดส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาวัยรุ่นค้าประเวณีบนอินเทอร์เน็ตทวีความรุนแรงมาก ตรงกันข้ามกลับจับกุมได้ยากเพราะลงประกาศเป็นข้อความไว้แล้วไปติดต่อกันเองทีหลัง และเป็นความพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย ตำรวจเข้าไปตรวจสอบและดูแลได้ไม่ทั่วถึง เรื่องนี้เกิดขึ้นในสังคมไทยมานานแล้ว แต่ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง แต่ปัจจุบันมันรุนแรงขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีและการสื่อสารมันทันสมัย สามารถสื่อสารกันได้อย่างไม่มีขีดจำกัด การจะแก้ไขปัญหาจะต้องมุ่งเน้นไปที่จิตใต้สำนึกของวัยรุ่น ซึ่งเป็นเรื่องยากและทุกหน่วยงานต้องเข้ามาร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขอย่างจริงจัง


http://203.150.224.131/hilight/main/259.html
"กิ๊ก" พฤติกรรมสอนวัยวุ่นริมี "ชู้" สู่ชีวิตครอบครัวล่ม

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
ช่วงเทศกาลความรักที่อบอวลไปด้วยสีชมพูเช่นนี้ แม้จะเพิ่งผ่านพ้นไปไม่กี่วันดี ก็ยังมีกลิ่นอายจางๆ ของความสุขเหลือไว้ให้ชื่นใจ บรรดาองค์กรเอกชนและภาครัฐบาล ต่างใช้โอกาสนี้ออกมารณรงค์พูดถึงเรื่องความรัก โดยเฉพาะรักในวัยเรียนที่อาจทำให้วัยวุ่นบางคนหน้ามืดตาบอดจนทำ อะไรเกินขอบเขตกว่าคำว่า "เหมาะสม"

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จับมือกับเหล่าดารา ดีเจ และอาจารย์ชื่อดัง จัดงานเสวนา "มหกรรมรักอย่างไรให้ถูกทาง" ภายใต้หัวข้อ "รักบริสุทธิ์หยุดเซ็กส์...รอไว้เมื่อถึงเวลาอันควร" มุ่งเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรให้กับนักเรียน นักศึกษาที่มีความสนใจเข้าร่วมเสวนา โดยมี สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข มาเป็นประธานในพิธี ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา

น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จิตแพทย์ นายแพทย์ใหญ่กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวคือ ตัวเลขการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเพิ่มสูงขึ้น แต่ทุกผลการสำรวจผู้หญิงยังคงรักนวลสงวนตัว แต่ผู้ชายกลับมองการมีเพศสัมพันธ์วัยเรียนเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น ผู้ชายต้องแก้ไขปรับทัศนคติของตัวเอง เช่นเดียวกับผู้หญิงที่ต้องรู้จักปฏิเสธมากขึ้น

"เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทุกคน ไม่ต่างจากกินข้าว แต่ใช่ว่าเกิดมาแล้วก็จะเกิดข้าวได้เลย มันต้องผ่านการกินนมมาก่อน เรื่องเพศก็เช่นเดียวกัน ถ้าเพียงแต่มีความต้องการแต่เรารู้จักรอได้ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ปัญหาต่างๆ ก็ไม่เกิดขึ้น" จิตแพทย์หนุ่มกล่าว

นอกจากนี้จิตแพทย์ใหญ่ ให้ทัศนะถึงการมี "กิ๊ก" ในวัยเรียนที่กำลังนิยมในหมู่วัยรุ่นว่า ถ้าการมีกิ๊กในที่นี้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ และหมายถึงการมีแฟนหลายคนพร้อมๆ กัน สามารถมองได้ 2 แง่ หากแง่ดีถือเป็นพฤติกรรมเรียนรู้พัฒนาความรักของวัยรุ่น เพราะบุคคลผู้เป็นที่รักของหลายๆ คน แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นมีบางสิ่งบางอย่างดีๆ อยู่ในตัวที่สามารถทำให้เป็นที่รักได้ จะเป็นความภาคภูมิใจของคนๆ นั้น แต่ถ้านำเอาความพิเศษนั้นมาใช้ดึงให้ใครต่อใครรัก กลายเป็นว่าเป็นโรคไม่รู้จักพอ โรคหิวรัก และกลายปัญหาสุขภาพจิตตามมา

มองในทางกลับกัน ถ้าพฤติกรรมเช่นนี้ฝังรากเข้าไปในจิตใจ เมื่อเข้าสู่ชีวิตคู่การมีครอบครัว พฤติกรรมนี้จะติดไปใช้ จะนำพาไปสู่ปัญหาชีวิตครอบครัวได้

"การมีแฟนทีละคน ค่อยๆ ดูใจกันไปนี่ล่ะดีที่สุด ผมว่าเหนื่อยนะการมีแฟนหลายๆ คนพร้อมกัน ต้องปิดปังกัน โกหกกัน ซึ่งมันเป็นบ่อเกิดของสุขภาพจิตเสียด้วย เพราะไม่รู้ว่าเราโกหกอะไรไปบ้าง แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์กันในวัยเรียนเมื่อยังไม่พร้อม นั้นคือผิดทันที"

ด้าน "ครูลิลลี่" กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ อาจารย์ภาษาไทยชื่อดัง ให้มุมมองประเด็นเดียวกันนี้ว่า แม้ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จะเป็นบ่อเกิดนิสัยไม่ได้ให้กับเด็กเมื่อถึงวัยมีครอบครัว พฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นแฟชั่น สมัยนิยม ซึ่งวันหนึ่งเมื่อเด็กคิดได้จะรู้เองว่าพฤติกรรมนี้ไม่ใช่สิ่งดี ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าไทยเป็นสังคมเปิด เยาวชนอยู่ท่ามกลางกระแสสังคม การทำให้วัยรุ่นเปลี่ยนความคิดต้องมีเทคนิค

"การมีกิ๊ก ก็ไม่ต่างจากการมีชู้ เป็นธรรมดาที่เด็กๆ จะต้องกระชุ่มกระชวย แต่ถ้ามันมีมากเกินไป เกินขอบเขตมากไป มันก็จะกลายเป็นคิก (kick : เตะ) ถ้าจะให้เขาเปลี่ยนความคิด คือเราอย่าสอนเขาว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ เพียงแต่แนะว่าถ้าทำอย่างนี้จะเป็นอย่างไร แล้วให้เขาเลือกเอง มันยากที่จะเปลี่ยนแต่ถ้าทำได้ ผลที่ตามมาก็จะดี" คุณครูอารมณ์ดีเล่า

ตามภาษาวัยรุ่นไม่ใช่สิ่งผิด "กิ๊ก" ถ้ารู้จักวางตัวให้สมกับคำว่า "สุภาพสตรี" และ "สุภาพบุรุษ" ตามที่เคยมีมา ปัญหาต่างๆ ย่อมไม่เกิด หากคำว่า "กิ๊ก" เป็นเพียงพฤติกรรมแฟชั่นที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่จะถูกพัฒนาเป็นอย่างไรต่อไป ผู้ใหญ่อย่างเราๆ คงต้องตามกันให้ทัน



จากคุณ : บุรินทร์ .
09:32am (18/09/05)
ทความเกี่ยวกับไอทีในชีวิตประจำวัน (Information Technology in Life) ถูกเขียนลงในหนังสือพิมพ์ฅนเมืองเหนือ เป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ เริ่มเขียนปลายปีพ.ศ. 2549 จนถึงมิถุนายน พ.ศ.2560 รวมได้ 611 บทความมีโฮมเพจอยู่ที่ http://www.thaiall.com/itinlife และ http://www.thaiall.com/opinion เพื่อเป็นแหล่งแบ่งปันเรื่องราวที่ได้พบ ได้อ่าน ได้ปฏิบัติ แล้วนำมาเรียบเรียงแบ่งปันแก่เพื่อนชาวไทย และส่งให้กองบรรณาธิการนำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของจังหวัดลำปาง
Opinion แปลว่า ความคิดเห็น วาทะ ความเชื่อ ที่สามารถสะท้อนออกมาให้อยู่ในรูปของวรรณกรรม หรืองานเขียน ที่เรื่องราวจะถูกร้อยเรียงเป็นตัวอักษร ไล่เรียงตามลำดับให้ได้รู้และเข้าใจความคิดความเห็น ที่ไม่เลือนหายไปตามเวลาเหมือนความทรงจำ
version 1.3 (15 ตุลาคม 2566)
Thaiall.com
Thaiall.com