thaiall logomy background

กฎหมาย ระเบียบ จริยธรรม ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

my town
ธรรมะ | ครู | สื่อ | ผู้บริหาร | พยาบาล | สาธารณสุข | เทคนิคการแพทย์ | ทันตแพทย์ | กฎหมายไอที | ศีล 5 | ผลกระทบ PDPA | งานมอบหมาย
บทนำ
ริยธรรม (Moral Philosophy) หมายถึง ธรรมที่เป็นข้อประพฤติ ศีลธรรมอันดี ตามธรรมเนียม
จริยธรรม มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต 2 คำคือ จริย กับ ธรรม
จริย แปลว่า ความประพฤติ การปฏิบัติ กิริยาที่ควรประพฤติ
ธรรม แปลว่า คุณความดี คำสั่งสอนในศาสนา หลักปฏิบัติในทางศาสนา ความจริง ความยุติธรรม ความถูกต้อง กฎเกณฑ์
เมื่อนำ จริยะ มาต่อกับ ธรรม เป็น จริยธรรม ได้ความหมายว่า
1. กฎเกณฑ์แห่งความประพฤติ หรือ
2. หลักความจริงที่เป็นแนวทางแห่งความประพฤติปฏิบัติ หรือ การแสดงออกทางการประพฤติปฏิบัติของบุคคลที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง #
หัวข้อที่น่าสนใจ
กิจกรรมศีล 5 เพื่อสอนนิสิต ตระหนักในศีล 5 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ได้นำนิสิตมหาวิทยาลัยเนชั่น ออกทำกิจกรรมให้บริการทางวิชาการ กับเยาวชนที่ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบลบ้านดง ประเด็นศีล 5 ให้เยาวชนพิมพ์ศีลทั้งหมด 5 ข้อ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ อันที่จริงแล้วศีล 5 ประกอบด้วย ข้อพึงละเว้น แต่การสื่อสารกับเยาวชน มักใช้คำที่เข้าใจง่าย คือคำว่า ห้าม ซึ่งฟังง่ายกว่า ข้อพึงละเว้น หรือ ข้อพึงงดเว้น ซึ่งศีล 5 ประกอบด้วยข้อพึงละเว้น ดังนี้ 1) ห้ามฆ่าสัตว์ 2) ห้ามลักทรัพย์ 3) ห้ามประพฤติผิดในกาม 4) ห้ามพูดปด 5) ห้ามดื่มสุรา ซึ่งศีล 5 เรียกอีกอย่างว่า กัลยาณธรรม หมายถึง ธรรมเป็นเครื่องบำรุงจิตใจให้งดงาม
ดยขั้นตอนการทำกิจกรรม ประกอบด้วย การให้ความรู้ ให้ลงมือปฏิบัติ พี่เข้าช่วยเหลือให้งานลุล่วง แล้วคัดเลือกเพื่อให้รางวัลแก่นักเรียนที่ปฏิบัติได้รวดเร็วถูกต้อง จากนั้นทบทวนด้วยการนำเสนอหน้าห้อง เป็นกิจกรรมหนึ่งส่งเสริมความมีคุณธรรมจริยธรรมของเยาวชน
บรรยายเรื่องศีล 5 โดย ภสุ นิสิต
ธรรมะในศาสนาพุทธ

ประเด็นที่สังคมสนใจ และวิพากษ์ความถูกผิด
- ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ชี้สาวแบงค์ ผิดพรบ.
- ปรับ 5 หมื่น ขโมยมะพร้าว 3 ลูกให้เมียท้อง ยอมติดคุก
- ระดมบริจาคให้ครูจอมทรัพย์ ทะลุ 1 ล้าน
- ถูกหวย 30 ล้าน แม่ค้ายัน 1000 เปอร์เซ็นขายให้ครู
- หนอ พระเอกละคร นักร้อง และนักธุรกิจ
- เห็นด้วย : อยากให้มีไฟแดงเข้าเกาะคา
- ผิดไหม กับ "ยาเพื่อเป็นนิรันดร์" 5000 บาท
- พรรคการเมืองไม่ใช่บริษัท กู้เงินมาใช้หาเสียง (ได้/ไม่ได้)

ประเด็นด่าทอโดยลูก ใน pantip.com
ประกาศ .. ให้มี iqa ของตนเอง
การใช้ชีวิตในสังคมอย่างสงบสุข
การใช้ชีวิตตามกฎ .. ว่ายากแล้ว
แต่ การใช้ชีวิตที่ไม่มีกฎ .. นั้นยากกว่า
https://goo.gl/erGV9i (/ethics)
เกณฑ์การพิจารณา
ถูก/ผิด ดี/ชั่ว ผ่าน/ตก
มักตัดสินด้วย
1. กฎเกณฑ์ระเบียบแนวปฏิบัติ
2. ผลประโยชน์ส่วนรวม
3. หลักจริยธรรม/จรรยาบรรณ
4. ค่านิยมของสังคม



DOC: บัณฑิตไทยไม่โกง
เบี้ยวหนี้ กยศ. 80%
จี้ ศธ.แก้หนี้สิน-ขาดกำลังใจ
จริยธรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Ethics)
จริยธรรมคอมพิวเตอร์ คือ หลักศีลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ
หรือควบคุมการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตัวอย่างการกระทำผิดจริยธรรมคอมพิวเตอร์
1. การใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่นให้เกิดความเสียหายหรือก่อความรำคาญ
2. การใช้คอมพิวเตอร์ในการขโมยข้อมูล
3. การเข้าถึงข้อมูลหรือคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
ขอบเขตของจริยธรรมคอมพิวเตอร์ มีดังนี้
Ethics of information technology using = PAPA [7]p.358
1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
เช่น แอบดูเมล เก็บบันทึกจราจร ข้อมูลลูกค้า หรือ Single Sign On
2. ความถูกต้อง (Information Accuracy)
เช่น Bank, Grade, Wiki, Blog
3. ความเป็นเจ้าของ (Intellectual Property)
เช่น ทรัพย์ที่จับต้องและจับต้องไม่ได้ การคุ้มครองสิทธิ
4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)
เช่น DoS, Security, Bandwidth, Priority, Method
Four Ethical Issues of the Information Age
by Richard O. Mason in MIS Quarterly [O'Brien 1996:599]
Mar86, Vol. 10 Issue 1, p5
http://www.gdrc.org/info-design/4-ethics.html
http://misq.org/misq/downloads/download/editorial/336/
พระราชบัญญัติ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีดังนี้
1. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ (บังคับใช้ 19 ก.ค.50)
2. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐ (บังคับใช้ 31 พ.ค.60)
3. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ (บังคับใช้ 21 มี.ค.38)
4. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๘ (บังคับใช้ 4 ส.ค.58)
5. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๘ (บังคับใช้ 6 เม.ย.58)
6. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔ (บังคับใช้ 3 เม.ย.45)
7. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของข้าราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ (บังคับใช้ 9 ธ.ค.40)
8. พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 (บังคับใช้ 4 มี.ค.51)
9. พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
(PDPA = Personal Data Protection Act)
เดิมจะ บังคับใช้ 27 พ.ค.63 / เลื่อน บังคับใช้ 27 พ.ค.64
ประเด็นพูดคุยเรื่องจริยธรรมคอมพิวเตอร์
ความรู้เปรียบเสมือนดาบสองคม
เวลามีแฟ้ม pdf ที่ตนเองเผลอ lock
ก็มีวิธี unlock ที่ p d f u n l o c k . c o m
แต่ถ้าไม่ใช่แฟ้มของเรา ไม่ควร unlock นะครับ
เพราะตามหลักคุณธรรมจริยธรรม ไม่ควรกระทำเช่นนั้น
ควรปรึกษาเจ้าของแฟ้มว่าจะนำไปทำอะไร
และอนุญาตให้เรียบร้อย จะได้สบายใจทุกฝ่าย
thaiall.com/blog/burin/5417
ตัวอย่างการส่งเสริมเยาวชน

เทศบาลนครลำปาง ขอมอบเกียรติบัตรนี้ไว้เพื่อแสดงว่า นายธนาวัฒน์ พุทธวงค์ เป็นผู้มีความประพฤติดี มีคุณธรรม สมควรยกย่องให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2556 ให้ไว้ ณ วันที่ 20 ก.ย.2556
เปรียบเทียบกับ [หนังสองพัน]
พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
#1 แนวคิดเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรม
ความหมาย
ความหมายของ ธรรมชาติ สัจธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรม
อ้างอิงจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตโต ) มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน้า 105
ธรรมชาติ คือ สภาพที่ทรงไว้, ธรรมดา, ธรรมชาติ สภาวะธรรม, สัจธรรม, ความจริง, เหดุ, ต้นเหตุ, สิ่ง, ปรากฏการณ์ ฯลฯ
จริยศาสตร์ คือ ปรัชญาสาขาหนึ่งว่าด้วยความประพฤติและการครองชีวิตว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรผิด อะไรถูก หรืออะไรควรอะไรไม่ควร ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน (2525 : 217)
ศีลธรรม คือ ความประพฤติดีที่ชอบ ธรรมในระดับศีล ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน (2525 : 771)
จรรยาบรรณ คือ ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างที่กำหนดขั้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียง และฐานะของสมาชิก อาจเกิดเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้ ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน (2525 : 771)
สัจธรรม คือ ความจริงที่มีอยู่ตามธรรมดา เป็นภาวะของธรรมชาติ
จริยธรรม คือ ข้อผูกพันที่โยงสัจธรรมนั้นเข้ากับชีวิตและสังคมมนุษย์
วัฒนธรรม คือ รูปแบบการปฏิบัติตามจริยธรรมที่ปรากฏในวิถีชีวิตของสังคมมนุษย์ (วัฒนธรรมไทย สู่ยุคเป็นผู้นำและเป็นผู้ให้ พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต) สำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ โรงพิมพ์การศาสนา พ.ศ. 2538 หน้า 10)
คุณธรรม (Moral)
คุณธรรมเป็นสารที่สื่อออกมา หรือบทเรียนที่เรียนรู้จากเรื่องราวหรือเหตุการณ์ ซึ่งคุณธรรมอาจติดไปกับผู้ฟัง ผู้อ่าน ผู้ชมที่จะอยู่ในพวกเขา หรือถูกสังเคราะห์เป็นชุดความคิดในรูปของคติพจน์ เช่น ทำดีย่อมได้ดี น้ำขึ้นให้รีบตัก
จริยธรรม (Ethics)
จริยธรรม หรือปรัชญาคุณธรรม ที่เกี่ยวกับการประมวล การปกป้อง ชี้แนะแนวทาง หรือพฤติกรรมว่าอะไรถูกอะไรผิด

ประเด็นที่น่าสนใจ
สื่อลามก
แฮกเกอร์ (Hacker) คือใคร
ความปลอดภัย
พรบ.คอมพิวเตอร์ ๒๕๕๐
การป้องกัน และรักษาความปลอดภัย
ประเด็นกตัญญู
เห็นข่าวเรื่อง .. ความกตัญญู
ที่พระท่านมีเมตตาต่อฆราวาส
ฆราวาสที่ได้เมตตาจากท่านก็รู้สึกดี
เป็นความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดจากความรู้สึกกตัญญู
คำสอน = ทำดี ย่อมได้ดี + เมตตาธรรม ค้ำจุนโลกา
http://bit.ly/1j5eDgp
facebook.com/buddha.isara
ปล. พบบทความเชิงข่าวในเว็บไซต์
ของกรุงเทพธุรกิจ กลุ่มข่าวการเมือง

ประเด็นประชดด้วยการทำร้ายตนเอง
ชอบที่ อ.tipaya เขียนครับ
แสดงว่าการประชดพ่อแม่มีมานายหลายสิบปีแล้ว
บางคนก็บอกว่ามีมาหลายร้อยหลายพันปีแล้ว
อันที่จริง .. การประชดนั้นไม่ได้มีเฉพาะในครอบครัว
ระหว่างลูกกับพ่อแม่เท่านั้น .. นะครับ
น่าจะเป็นเพราะขาดคุณธรรมจริยธรรม
1. เห็นคนงาน walmart ที่อเมริกานู้น
หยุดงานให้บริษัทเจ้งไปเลย ถ้าไม่เพิ่มผลตอบแทน
ภาษานักข่าวเขาเรียกว่า "ผละงานประท้วง"
ค้นคำนี้ใน google พบไป 4 แสนลิงค์ครับ
2. อยากให้แฟนรัก แล้วแฟนไม่รัก
ยังไม่มีอารมณ์รักตอนนั้น
ประชดด้วยการทำร้ายตัวเอง
บางคน "ฆ่าตัวตายประชดแฟน"
ค้นคำนี้ใน google พบไป 2 แสนลิงค์ครับ

เอกสารนำเสนอ
คุณธรรม จริยธรรม
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
จรรยาบรรณ
ระเบียบบริษัท ขนส่ง จำกัด ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของกรรมการและพนักงาน พ.ศ. 2553
หนังสือ จริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์ คุณค่าของจริยธรรม p.5
1. จริยธรรมช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ในทางที่ดีขึ้น
2. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์รู้จักตนเอง มีความรับผิดชอบ สำนึกในหน้าที่ ที่พึงมีต่อครอบครัว สังคมและประเทศชาติ
3. จริยธรรมช่วยให้เกิดสติปัญญา รู้จักใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาโดยถูกวิธี
4. จริยธรรมช่วยให้เกิดความสงบในสังคม
5. จริยธรรมช่วยให้อยู่ร่วมกันอย่างมีระเบียบ
6. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์รู้จักปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้
7. จริยธรรมช่วยป้องกันการเบียดเบียนและเอาเปรียบกันในสังคม
8. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์มีความหนักแน่น ขยัน อดทน ต่อสู้เพื่อเอาชนะอุปสรรคและปัญหา
9. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์สามารถกำหนดเป้าหมายของชีวิต และดำเนินไปสู่เป้าหมายได้
ประโยชน์ของจริยธรรม p.6
1. สร้างแบบแผนให้บุคคลสามารถปฏิบัติตนและดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง
2. สร้างความมั่นใจในการดำเนินชีวิตของบุคคลได้
3. สร้างความมีระเบียบวินัยให้กับสังคม
4. สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติได้อย่างมากมาย
5. สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่บุคคลทุกสาขาอาชีพ
6. สร้างมาตรฐานและความยุติธรรมในด้านคุณภาพและบริการของสินค้า
7. สร้างมาตรฐานในการประกอบอาชีพ
องค์ประกอบของจริยธรรม (ประภาศรี สีหอำไพ : 2540, 48) p.7
1. ระเบียบวินัย (Discipline)
2. สังคม (Society)
3. อิสระเสรี (Autonomy) คือ เสรีภาพในการปกครองตนเอง
ประเภทของจริยธรรม (พิภพ วซังเงิน : 2545, 5) p.7
1. จริยธรรมภายนอก
2. จริยธรรมภายใน
คุณลักษณะของจริยธรรม p.7
1.ความรับผิดชอบ (Responsibility)
2.ความซื่อสัตย์ (Probity)
3.ความมีเหตุผล (Rationality)
4.ความกตัญญูกตเวที (Gratitude)
5.ความอุตสาหะ (Perseverance)
6.ความสามัคคี (Harmony)
7.ความมีระเบียบเรียบร้อย (Discipline)
8.ความเสียสละ (Sacrifice)
9.ความประหยัด (Parsimony)
10.ความยุติธรรม (Impartiality)
11.ความเมตตากรุณา (Clemency)
แหล่งที่มาของจริยธรรม p.10
1. ปรัชญา
2. ศาสนา
3. วรรณคดี
4. สังคม
5. การเมืองการปกครอง
ซิกมันด์ ฟรอยด์ ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ กับ บุคลิก 3 ส่วน p.27
1. อิด (id) คือ พลังที่แสวงหาความพึงพอใจ ความอยากได้
2. อีโก้ (ego) คือ พลังแห่งการใช้เหตุผลตามข้อเท็จจริง
3. ซูเปอร์อีโก้ (super ego) คือ พลังที่เป็นตัวควบคุมทั้งอิด และอีโก้
หนังสือ จริยธรรมทางธุรกิจ ปัจจัยที่มาของจริยธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว p.4
1. ตามประเพณี
2. ตามกฎหมาย
3. ตามหลักศาสนา
4. ตามหลักปรัชญา
5. ตามหลักการใช้วิจารณญาณ
องค์ประกอบของจริยธรรม (เนตร์พัณณา ยาวิราช : 2556 , 6) p.6
1. ด้วยความรู้เหตุผล
2. ด้วยอารมณ์ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
3. ด้วยพฤติกรรมการแสดงออก
นอกจากนี้ยังมีคำที่น่าสนใจ ได้แก่ ความประพฤติ (Conduct) ที่มีมโนธรรมกำกับ , พฤติกรรม (Behavior) , มโนธรรม (Conscience) , คุณธรรม (Virtue)
คุณธรรมขั้นพื้นฐาน 8 ประการ (นโยบายปฏิรูปการศึกษาปีงบประมาณ 2550-2551) p.7
1. ขยัน
2. ประหยัด
3. ซื่อสัตย์
4. มีวินัย
5. สุภาพ
6. สะอาด
7. สามัคคี
8. มีน้ำใจ
[บทที่ 2 ทฤษฎีทางจริยธรรมและวิชาชีพสารสนเทศ .doc]
คุณค่าของจริยธรรมต่อชีวิตมนุษย์ (พิภพ วชังเงิน : 2545 , 22) p.8
1. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์รู้จักตนเอง
2. จริยธรรมเป็นวิถีแห่งปัญญา
3. จริยธรรมช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต
4. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นระบบ
5. จริยธรรมช่วยสร้างสันติภาพในสังคมและในโลก
6. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์สามารถปรับตัวเข้าได้กับผู้อื่น
7. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์มีเครื่องมือยึดเหนี่ยวและเป็นหลักปฏิบัติ
8. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์เป็นคนหนักแน่น อดทน ขยัน ต่อสู้
9. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์สามารถกำหนดเป้าหมายของชีวิต
10. จริยธรรมช่วยให้มนุษย์สามารถแก้ปัญหาชีวิตและสามารถทำให้ความทุกข์หมดได้
การบริหารคุณภาพและจริยธรรมการวิจัย

อ่านบทที่ 9 บทเรียนจากอดีต
เพื่อศึกษาเรื่อง จริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์
พบ 9 กรณีศึกษา อ่านเพลิน ๆ
+ 1932 - 1972 The Tuskegee Spyhilis Study
+ 1956 Willowbrook Hepatitis Study
+ 1961 The Milgram Obedience Experiments
+ 1960s TEAROOM TRADE
+ 1963 Jewish Chronic Ddisease Hospital Study
+ 1999 The Jesse Gelsinger Gene Therapy
+ 2001 The Asthma Study
+ 2006 The TGN1412 Study
+ 2010 The Havasupai Indian Tribe Case
# 2023 ซื้องานวิจัย ใส่ชื่อตัวเอง

[chapter 9.pdf]
ตัวอย่าง SOPs
+ sop_wtu_ethics.pdf
+ sop_mucirb_1-27_mahidol.pdf
ข้อมูลจากโฮมเพจ จริยธรรมการวิจัย Research Integrity
เรื่อง การบริหารคุณภาพและจริยธรรมการวิจัย
1. กำหนดโจทย์วิจัย และคำนึงถึงการนำไปใช้
2. ไม่ผิดกฎหมาย และหลักความปลอดภัยทางชีวภาพ
3. คำนึงถึงมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
4. มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญการวิจัยและการวิเคราะห์ทางสถิติ
5. มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน
6. รับรองโครงการด้านการใช้สัตว์ทดลองและการวิจัยในมนุษย์
7. มีความตระหนักและปฏิบัติตามจริยธรรมและจรรยาบรรณการวิจัย
8. มั่นใจว่าวัตถุดิบวิจัยมีลักษณะที่ต้องการ
9. บันทึกข้อมูลอย่างถูกต้อง
10. มีระบบบริหารข้อมูล Data Management
11. มั่นใจว่างานวิจัยสามารถทำซ้ำได้
12. มีระบบ Mentoring แก้ไขปัญหาพัฒนาความสามารถ
Mentor = ที่ปรึกษา
13. มีการรีวิวผลงานวิจัยที่เหมาะสม
และตรวจสอบการคัดลอกผลงานวิจัย (Plagiarism)
14. มีการพิจารณา Authorship เหมาะสม
Author = ผู้เขียนบทความวิชาการ
15. ส่งมอบข้อมูลครบถ้วนให้กับผู้ใช้
16. มีการสื่อสารต่อมวลชนและผู้รับประโยชน์อย่างรับผิดชอบ
17. มีหลักฐานแสดงการดำเนินงาน
กรณีมีข้อร้องเรียนการประพฤติมิชอบในการวิจัย
18. มีระบบพัฒนา ประเมิน และตรวจสอบคุณภาพและจริยธรรมการวิจัย

สามารถศึกษาเพิ่มเติม
หลักสูตรหลักจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ สำหรับนักศึกษา/นักวิจัย
ที่ http://www.ohrs.nrct.go.th/e-learning
มีบทเรียนออนไลน์ 3 ส่วน
คือ บทเรียน เอกสาร และแบบทดสอบหลังเรียน ดังนี้
บทที่ 1 วิวัฒนาการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์
บทที่ 2 การวิจัยและหลักจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์
บทที่ 3 ความยินยอม (Informed consent)
บทที่ 4 ความเสี่ยงและประโยชน์
บทที่ 5 ความยุติธรรม
บทที่ 6 กลุ่มเปราะบาง (Vulnerable group)
บทที่ 8 แนวทางการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับการพิจารณา
บทที่ 9 บทเรียนจากอดีต
บทที่ 10 ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest)
ถ้าทำแบบสอบถามท้ายบทครบทุกบท และได้ไม่ต่ำกว่า 80% ทุกบท ก็จะขอใบรับรองออนไลน์ได้
หลักสูตร GCP online training (GPC = Good Clinical Practice) มื่อวาน (20 ก.พ.2565) ชวนนิสิต M.Ed. เข้าสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรหลักสูตร GCP online training (Computer based) ตามความสมัครใจ หลังทุกคนนำเสนอโครงงานประจำวิชาช่วงกลางวันแล้ว ในช่วงเย็น พบว่า กลุ่มนิสิต M.B.A. แชร์ประกาศนียบัตร ซึ่งนิสิตจะผ่านได้ ต้องเข้าสอบและผ่านการสอบ ตามเกณฑ์อย่างน้อยถูก 24 จาก 30 ข้อ แล้วก่อนหน้านี้ เคยทราบว่ากลุ่มนิสิตสาธารณสุขศาสตร์ก็ผ่านหลักสูตรนี้แล้ว เมื่อได้เข้าไปทำข้อสอบ ทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับ "แนวทางการปฏิบัติการวิจัยทางคลินิกที่ดี" เพิ่มขึ้น
ลักสูตร GCP online training (Computer based) “แนวทางการปฎิบัติการวิจัยทางคลินิกที่ดี (ICH-GCP:E6(R2))” โดย คณะอนุกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย ICH ย่อจาก The International Conference on Harmonization of Technical Requirements for Registration of Pharmaceuticals for Human Use และ GCP ย่อจาก Good Clinical Practice
คำชี้แจง ที่น่าสนใจ
1. ควรอ่านเนื้อหาทั้งหมดให้จบก่อนทำแบบทดสอบ
2. แบบทดสอบมีทั้งหมด 30 ข้อ เกณฑ์ผ่านคือ ตอบถูกอย่างน้อย 24 ข้อ (240 จาก 300 คะแนน)
3. หลังจากท่านทำข้อสอบทั้งหมดแล้ว ท่านจะได้รับประกาศนียบัตรอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบไฟล์ pdf ทางอีเมล์
4. ท่านสามารถหยุดทำข้อสอบชั่วคราว แล้วกลับมาทำต่อคราวหลังได้ โดยระบบจะเริ่มต่อจากข้อล่าสุด
https://www.medtu.org/GCP/
คู่มือใน nur.psu.ac.th (gcp_handbook.pdf)
สุจริตไทย

Chrome browser
aboutus.mhtml
สุจริต หมายถึง ความประพฤติดี ความประพฤติตามคลองธรรม ความประพฤติซื่อตรงต่อหน้าที่ ซึ่งคำว่า "สุจริตไทย" พบการเล่าในเฟสบุ๊คอย่างต่อเนื่อง โดย ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ เป็นการเล่าเรื่อง #ความสุจริต สลับกับ #คิดสร้างสรรค์ ที่แสดงออกอย่างหลากหลาย เน้นไปด้านคิดบวก และมีความสุข ชื่นชมพฤติกรรมที่ดีของผู้คนในสังคมที่นำมาเป็นต้นแบบสุจริตได้
นวทางการจัดทำหลักสูตร "สุจริตไทย" ใช้งานวิจัยทางจิตวิทยา และบทความทางวิชาการ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำหลักสูตรแบบ E-Learning ที่มีมาตรฐานทางวิชาการ ซึ่งผู้วิจัยและออกแบบหลักสูตร คือ ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ และทีมงานอาจารย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของคนไทย ด้านการคอร์รับชัน เพื่อนำมาพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาวะทางสังคม ทั้งนี้ หลักสูตร "สุจริตไทย" ได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิเพื่อคนไทย และ กองทุนรวมคนไทยใจดี (BKIND) โดยสำนักงานใหญ่ของ บริษัทสุจริตไทย จำกัด ตั้งอยู่ที่อาคารเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว กทม.
จริยธรรมไทย
รวบรวมจาก "การประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับจริยธรรมไทย" (saroach29)
ในส่วนนโยบายและการพัฒนาเด็กระยะยาวด้านคุณธรรมจริยธรรม ตามแนวคิดของ ศ.ดร.สาโรช บัวศรี และพระราชวรมุนี มีหัวข้อดังนี้
1. ความมีเหตุผล (Rationality)
2. ความซื่อสัตย์สุจริต (Honesty)
3. ความอุตสาหะ หรือการมีความตั้งใจแน่วแน่ (Resolution)
4. ความเมตตากรุณา (Compassion)
5. ความเสียสละ (Sacrifice)
6. ความสามัคคี (Cooperation)
7. ความรับผิดชอบ (Responsibility)
8. ความกตัญญูกตเวที (Gratitude)
9. ความประหยัด (Moderation)
10. ความรู้จักพอ (Satisfaction)
11. ความมีสติสัมปชัญญะ (Awareness)
12. ความมีระเบียบวินัย (Discipline)
13. ความยุติธรรม (Fairness)
14. ความอดทนอดกลั้น (Endurance)
15. ความเคารพนับถือผู้อื่น (Consideration)
16. ความไม่เห็นแก่ตัว (Selflessness)
17. ความถ่อมตัว (Modesty)
18. ความกล้าทางคุณธรรม (Courage)
19. ความเคารพตนเอง (Self-respect)
(เพลง ไม่รักตัวเอง : ".. ก็ไม่ใช่เธอนั้นผิด แต่เธอลองคิดให้ดี ..")
เดิมมี 29 ข้อ ได้ลดความซ้ำซ้อนเหลือ 19 ข้อ
นิยามทั้ง 19 ข้อ ใน trueplookpanya.com
#

ภาพนี้มีความสอดคล้องกับหลายหัวข้อในเรื่องของจริยธรรม

http://www.slideshare.net
http://beenoi341.blogspot.com
ความสามัคคี (Cooperation) และ ความถ่อมตัว (Modesty)
The biggest received all the praise
while the smallest being blamed

จริยธรรมที่คนไทยเราขาดมี 19 เรื่อง
ยุติธรรมเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องแก้ไข
ภาพนี้น่าสนใจ มักจะนำไปเล่า และแลกเปลี่ยนกับนิสิต
เผื่อว่าความเท่าเทียม/ยุติธรรมในสังคมจะเพิ่มขึ้น .. ต่อไป
- เวลาได้รับสิ่งที่ดีมา ก็จะนำมาแบ่งกัน
- เวลาได้รับปัญหามา ก็จะนำมาแบ่งกัน

ปล. เคยมีการถกกันเรื่องความเท่าเทียม กับความยุติธรรม
ว่าไม่ใช่เรื่องเดียวกัน .. แต่ก็ขึ้นกับมุมมองผู้พิจารณาเป็นสำคัญ

pinterest.com/pin/447545281690966106/
นิยาม ๑. ความมีเหตุผล (Rationality) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจดำเนินการใดอย่างมีเหตุผล คำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำอย่างรอบคอบ ใช้หลักเหตุผลตามความพอเพียง ตามหลักวิชาการ กฎหมาย ศีลธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมที่ดีงาม
ต.ย. ๑. ความมีเหตุผล - ปลอมว่าผ่าน ไปสอน และตัดสินคน ว่าผ่านหรือไม่
อ่านข่าว ดร.เก๊ .. แล้วก็รู้สึกใจหาย ที่ มทร.ล้านนา
การมีใบรับรองว่า สำเร็จการศึกษาระดับสูงสุด และมีตำแหน่งทางวิชาการระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ย่อมรู้สึกไม่ธรรมดา ซึ่ง คนธรรมดา คงทำไม่ได้ หรือ มีเหตุและผลที่จะทำได้ ก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล .. น่าอ่าน
นึกถึงนักศึกษา ว่า
ถ้าไม่อ่านหนังสือ ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ฝึกฝน ก็ไม่รู้ ไม่เชี่ยวชาญ และทำข้อสอบไม่ได้ เค้าก็ออกใบผ่านให้ไม่ได้
เมื่อเวลาล่วงเลยไป ในเวลาต่อมา อยากทำงาน หาเงินเลี้ยงชีพ อยากมีวุฒิการศึกษา แต่ไม่มีใบ อยากเป็นหมอผ่านม แต่ไม่มีใบ ก็หาทางออกกัน ที่ไม่ซับซ้อนเหมือนตอนเรียน และไม่ซับซ้อนที่จะตรวจสอบ
อีกเรื่อง สภาฯ ถอนปริญญาบัณฑิตลอก ม.ศิลปากร
"หนุ่มนครศรีฯยอมติดคุก ขโมยมะพร้าวอ่อน 3 ลูกให้เมียท้อง 5 เดือน เจ้าของแจ้ง ตร.จับเรียก 5 หมื่น" อย่าอ่านแค่หัวข้อข่าวแล้วเชื่อทันที ให้คิดอย่างมีเหตุผล เมื่ออ่านข่าว เหมือน คุณบุ๋ม ปนัดดา
นิยาม ๒. ความซื่อสัตย์สุจริต (Honesty) ความซื่อสัตย์ หมายถึง แง่มุมหนึ่งของศีลธรรม แสดงถึงคุณลักษณะทางบวกและคุณธรรม อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความจริงใจ และความตรงไปตรงมา พร้อมด้วยความประพฤติตรง ตลอดจนการ งดเว้นการโกหก การคดโกง หรือการลักขโมย เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น ความซื่อสัตย์ยังหมายถึง ความน่าไว้วางใจ ความภักดี ความเป็นธรรม และความบริสุทธิ์ใจ อีกด้วย
ต.ย. ๒. ความซื่อสัตย์สุจริต - โครงการบัณฑิตไทยไม่โกง นายวิรัช โหตระไวศยะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ร่วมลงนามความร่วมมือใน โครงการ "บัณฑิตไทยโตไปไม่โกง" และเครือข่ายความร่วมมือเสริมสร้างค่านิยมความรับผิดชอบต่อสังคมแก่นิสิตนักศึกษา ณ ห้องประชุมสิริวัฒนภักดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
นิยาม ๓. ความอุตสาหะ (Resolution) ความอุตสาหะ หมายถึง ความประพฤติที่กระทำการงานอันเป็นหน้าที่ของตนอยู่เสมอ ไม่กระทำการแต่พอจุใจ ชั่วครั้งหนึ่ง คราวหนึ่ง แล้วหน่ายหนีไปเสีย ไม่ทำโดยมักง่าย ไม่ทำอย่างเกียจคร้าน
ต.ย. ๓. ความอุตสาหะ - ปัญหาการศึกษา เหมือนร้านโชห่วย

หลักการที่ใช้เป็นแนวตัดสินใจ "ให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ส่วนรวมเป็นกิจที่หนึ่ง"

เรือจ้าง ต้องการลิงไปปีนต้นไม้ แล้วปลาไม่มีทักษะ มาสมัครได้ไง
คลิป "ปัญหาการศึกษาไทย อยู่ตรงไหน"
พบในนาทีที่ 1.27 จาก 10.52 ว่ามีปัญหาสำคัญ 1 เรื่อง แต่ 3 มุมมอง ดังนี้
1) มุมมองนายจ้าง คือ หาบุคลากรที่มีศักยภาพขึ้นเรือไม่ได้
2) มุมมองลูกจ้าง คือ ไม่มีความถนัดหรือทักษะ ที่จะนำไปสมัครงาน
3) มุมมองประเทศ คือ จัดอันดับตามผลสอบเด็ก พบว่าต่ำกว่าประเทศอื่น
ในคลิปก็แนะนำวิธีแก้ไขไว้มากมายอย่างเป็นระบบ
เมื่อมีคนพูดถึง "ปัญหาด้านการศึกษา"
ทำให้นึกถึงเรื่อง "เม็ดทรายในมหาสมุทร"
หยิบเม็ดไหนขึ้นมา ก็แทนเม็ดทรายในมหาสมุทรได้
แต่ใช้เม็ดทราย 1 เม็ด แทนมหาสมุทรทั้งหมดไม่ได้
อาทิ เม็ดทรายสีดำ สีของมหาสมุทรน่าจะสีดำ หรือ เม็ดทรายทุกเม็ดสีดำ ไม่ได้
อุปมาอุปไมย ว่า ปัญหาด้านการศึกษาเหมือนเม็ดทรายในมหาสมุทร หยิบตรงไหนก็เป็นปัญหา
ส่วนอีกเรื่อง "ร้านโชห่วย คือ ร้านของชำ"
เจ้าของร้านโชห่วย บ่นว่า ตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา ยอดขายลดลงมากกว่าครึ่ง อยู่ไม่ได้ล่ะ
ต้องการให้ นายก มาช่วยแก้ปัญหา ร้านในระแวกนี้เดือดร้อนเหมือนกัน
เมื่อ นายก ได้ ทบทวนวรรณกรรม/เอกสารอ้างอิง
พบว่า 7-11 มาเปิด เมื่อมกราคมที่ผ่านมา
ที่สำคัญ นายกก็ไปเป็นประธานเปิดงาน พร้อมกับทีมสมาชิกทั้งหมด
และยังอวยพรให้ 7-11 ขายดี และเป็นที่พึ่งของชุมชนตลอดไป
คำร้องเรียนที่ตามมา คือ ร้านโชห่วยในระแวกนั้น มาร้องเรียนกันหมด
สะท้อนว่า "ปัญหาของร้านโชห่วยทุกร้าน ไม่ใช่ปัญหาของ 7-11 ร้านเดียว"

คลิปน่าดู : I just sued the school system.
ในคลิปน่าจะสื่อว่า ทำไมโรงเรียนสอนให้ทุกชีวิตปีนต้นไม้ ทำไมไม่สอนสิ่งที่เค้าถนัด
นิยาม ๔. ความเมตตากรุณา (Compassion) ความเมตตากรุณา หมายถึง การปฏิบัติเพื่อต้องการช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข ให้พ้นจากทุกข์ มีความสุขความเจริญ ด้วยการแสดงความมีน้ำใจ เอื้ออาทรต่อผู้อื่นด้วยความเต็มใจ
ต.ย. ๔. ความเมตตากรุณา - กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า ปลุกสติสำนึกรักสัตว์ป่า อ่านเพิ่มเติม change.org สืบ นาคะเสถียร เกิด 31 ธันวาคม พ.ศ. 2492 และเสียชีวิต 1 กันยายน พ.ศ. 2533
มีร้องกรองบทหนึ่ง ปลุกกระแสสำนึกรักสัตว์ป่า ขึ้นมาอีกครั้ง
"โทษไหนจึงประหาร ศาลไหนพิพากษา
ถ้าลูกท่านเป็นสัตว์ล่ะ ใครเข่นฆ่าท่านยอมไหม
ชีวิตใครใครก็รัก ท่านประจักษ์บ้างหรือไม่
โปรดเถิดจงเห็นใจ สัตว์นั้นไซร้ก็เหมือนกัน
"
กรณีศึกษา เมื่อ 4 ก.พ.2561 .. พกอาวุธ เข้าป่าสงวน ตั้งแคมป์ ล่าสัตว์ ซุกซ่อนซากสัตว์ที่ชำแหละแล้ว มีความผิดตามกฎหมาย และมีการตั้งข้อหา 6 ข้อหา และ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล (Prinya Thaewanarumitkul) ได้โพสต์ #ขอเรียกร้องความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทอิตาเลียนไทย "บริษัทภิบาลอิตาเลียนไทย 2561 ข้อ 1.6 เขียนไว้ว่า ผู้บริหารต่อสังคมส่วนรวม (ต้อง) ไม่กระทำการใด ๆ ที่จะมีผลเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม ข้อ 6 (หน้าที่ต่อ) สังคมส่วนรวม ยังเขียนไว้อีกว่า บริษัทจะไม่กระทำการใด ๆ ที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม อีกทั้งต้อง .. ปลูกจิตสาธารณะของความรับผิดชอบต่อสังคม ให้เกิดในหมู่พนักงานทุกระดับอย่างจริงจัง .."
ต.ย. ความกรุณาของคนขายหนังสือพิมพ์ ที่รวยกว่า

ตอนเรียน อาจารย์คือผู้ให้
ตอนทำงาน เจ้านายคือผู้รับ
ดังนั้น
ตอนเรียน นิสิตคือผู้รับ
ตอนทำงาน นิสิตคือผู้ให้
ความรู้สึกเบื่อ ย่อมแตกต่างกันไป
อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ ย่อสรุป จาก candle light
ตอนที่บิล เกต เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก
มีคนถามเขาว่า คิดว่าจะมีใครรวยกว่าเขาไหม เขาตอบว่า "มี"
ตอนที่เขา ยังไม่รวย และไม่มีชื่อเสียง เขาอยากอ่านหนังสือพิมพ์ แต่ไม่มีเหรียญ คนขายหนังสือพิมพ์ บอกเขาว่า “ไม่เป็นไร คุณเอาไปอ่านได้ ฉันให้คุณฟรี” บิล เกต ขอบคุณและรับหนังสือพิมพ์ไป และด้วยความบังเอิญ หลังจากนั้นสองสามเดือน เขาลงที่สนามบินเดิม และเจอคนขายคนเดิม บิล เกต ไม่มีเหรียญเหมือนเดิม คนขายบอกว่า ไม่เป็นไรคุณเอาไปเถอะ บิล เกต ปฏิเสธ แต่คนขายบอกว่า “ไม่เป็นไรจริง ๆ ผมให้คุณได้ เพราะผมมีกำไรจากการขายหนังสือพิมพ์ อยู่แล้ว
หลังจากนั้น 19 ปี บิล เกต มีชื่อเสียง และรวยที่สุดในโลก เขาตามหาคนขายหนังสือพิมพ์คนนั้น ใช้เวลาเดือนครึ่ง ก็ได้เจอ บิลเกต ถามเขาว่า คุณรู้จักผมไหม เขาตอบว่า รู้ คุณ คือ บิล เกต บิล เกต ถามต่อว่า คุณจำผมได้ไหมเขาบอกว่าจำได้ เขาให้หนังสือพิมพ์ไปอ่านฟรี สองครั้ง บิล เกต บอกว่า “ผมอยากตอบแทนคุณ คุณอยากได้อะไร บอกผมได้เลย ผมเต็มใจให้คุณทุกอย่าง” คนขายหนังสือพิมพ์ ตอบว่า “คุณคงไม่คิดว่า สิ่งนี้จะเทียบเท่า ที่ผมให้คุณ หรอกนะ“ บิล เกต สงสัย “ทำไม หรือครับ
คนขายหนังสือพิมพ์ บอกว่า “ตอนที่ผมให้คุณผมเป็นแค่ คนขายหนังสือพิมพ์เร่ จน ๆ แต่ตอนนี้ คุณเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก คุณจะมาเทียบผมได้ยังไง” บิล เกต คิดได้ ในวันนั้น ว่าคนที่รวยจริง คือคนที่มีหัวใจใหญ่ที่สุด ไม่ใช่มีเงินมากที่สุด และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการมี หัวใจที่รวย rich heart เพื่อช่วยเหลือผู้คน
นี่อาจเป็นแรงบันดาลใจ ให้ บิล เกต กลายเป็นบุคคล ที่บริจาคเงินให้การกุศล ช่วยเหลือคนทั่วโลก เขาเป็นผู้บริจาคมากที่สุดในโลก ครับ และยังชักชวนให้ คนรวยในอเมริกา บริจาคเงินอีกมากมาย
นิยาม ๕. ความเสียสละ (Sacrifice) ความเสียสละ หมายถึง การสละสิ่งของหรือความสุขส่วนตัว เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น ยังหมายรวมถึง การสละละทิ้งกิเลส ละความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ และการเลิกละนิสัย
ต.ย. ๕. ความเสียสละ - ผู้บริจาคโลหิต อวัยวะ และร่างกาย

บริจาคโลหิต
บริจาคโลหิต
ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์
Give blood. Give life

บริจาคอวัยวะ
1 ลมหายใจหมดลง 8 คนมีชีวิตใหม่
1. หัวใจ 2. ตับ 3. ไต (มี 2 ข้าง)
4. ดวงตา (มี 2 ข้าง) 5. ลิ้นหัวใจ (มี 2 ข้าง)

บริจาคร่างกาย
อาจารย์ใหญ่
ครูผู้ไร้ลมหายใจ
อุทิศร่างกายให้วงการแพทย์
นิยาม ๖. ความสามัคคี (Cooperation) ความสามัคคี หมายถึง ความพร้อมเพรียงกัน ความกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง วิวาทบาดหมางซึ่งกันและกัน
ต.ย. ๖. ความสามัคคี - ตูน วิ่งผ่านเกาะคา 19 ธ.ค.60 โครงการก้าวคนละก้าว (kaokonlakao.com) โดย ตูน บอดี้แสลม เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม ให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นที่ชัดเจนของตูน ที่ตั้งเป้าหมายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของสังคม ด้วยการระดมทุนจำนวนหนึ่ง ช่วยเหลือจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบให้กับโรงพยาบาลศูนย์ จำนวน 11 แห่งทั่วประเทศ โดยวิ่งจากใต้สุด ถึงเหนือสุด เป็นเวลา 55 วัน ระหว่าง 1 พ.ย.2560 - 25 ธ.ค.2560 และ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม และประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้ยกตัวอย่างว่า ".. ผลสัมฤทธิ์ของ "โครงการก้าวคนละก้าว" โดย "ตูน บอดี้แสลม" เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม .."
นิยาม ๗. ความรับผิดชอบ (Responsibility) ความรับผิดชอบ หมายถึง การยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำใด ทั้งที่ตนเองกระทำ หรือผู้อื่นกระทำไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ จะสำเร็จหรือไม่ เช่น ความรับผิดชอบต่องานหรือหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง ตามที่ได้รับมอบหมายหรือที่ได้กำหนดไว้
ต.ย. ๗. ความรับผิดชอบ - ผู้ว่าลงนามในหนังสือ ที่พิมพ์ผิด ส่งหนังสือลาออก
มีข้อคิดน่าสนใจว่า
ยอมรับผิดชอบอย่างหนึ่ง
ย่อมหมายถึง
ปฎิเสธรับผิดชอบอีกอย่างหนึ่ง

เป็นกรณีศึกษาว่า
บางเรื่องผิดแล้วแก้ไขได้
พระท่านยังปลงอาบัติได้เลย
ทุกเรื่องราวมีหลายมุมมอง
กรณีมีข่าว ผู้ว่าราชการ จังหวัดจันทบุรี ลาออก
ปรากฎในสื่อสังคม เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ต่อการพิมพ์เอกสารผิด 1 ฉบับ
แล้วชื่นชมในประเด็นความรับผิดชอบกันมากนั้น

แต่ .. ความรับผิดชอบพัฒนาจังหวัด
ในบทบาทของผู้ว่าราชการล่ะ
ตามความสามารถ ตามประสบการณ์ ตามทักษะที่หาได้ยาก
ต้องยุติลง เลิกไปในทันที เป็นเรื่องที่ชอบแล้ว
จริงหรือ .. ชวนคุยครับ

เห็นแห่ชื่นชมในความรับผิดชอบ
นี่นะ ถ้าถามแรงว่า "ทำไมผู้ว่าคิดอย่างนั้น" คงถูกด่าแน่
แต่คาดว่า ท่าน "ใช้กฎ ความรับผิดชอบ"
ต่อความผิดพลาดที่ไม่ควร ที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม
อันเกิดจาก human error ที่อาจเป็นของคนอื่น แต่ท่านลงนาม
(ซึ่งรายละเอียดจริง ๆ ไม่รู้ ที่รู้ก็ออกมาตามสื่อเท่านั้น)

ปล. มีคำถาม เพิ่ม
ทำไมผู้คนชื่นชมการกระทำ ของผู้ว่าฯ ที่ลาออกจากคำผิด
แล้วถ้าเป็นตัวท่าน จะทำอย่างไร ตามหลักใจเขา ใจเรา
นิยาม ๘. ความกตัญญูกตเวที (Gratitude) กตัญญู หมายถึง บุคคลผู้รู้คุณของคนอื่น กตเวที หมายถึง บุคคลที่ตอบแทนผู้มีคุณแก่ตน ดังนั้น กตัญญูกตเวที จึงหมายถึง บุคคลผู้รู้คุณที่คนอื่นกระทำแล้ว และทำตอบแทนผู้มีคุณแก่ตน
ต.ย. ๘. ความกตัญญูกตเวที - "ให้เหล้า=แช่ง" "ให้เหล้า=แช่ง"
เป็นคำที่ใช้รณรงค์ ของ สสส. ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และ ภาคีเครือข่ายฯ มาตั้งแต่ปี 2551 แล้วปี 2556 ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ระบุว่า ประชาชน 61% มองว่าไม่ควรนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นของขวัญ เพราะเป็นการให้สิ่งที่เป็นโทษแก่ผู้อื่น
คลิป : youtube.com คุณลุงให้เหล้า
คลิป : youtube.com คุณมาทำร้ายฉันทำไม
แสดงว่าผู้คนในปัจจุบัน
มีความเข้าใจ เรื่องความเสี่ยง (Risk) จากเหล้า เบียร์ หรือบุหรี่ ดีขึ้น
อาทิ
- กลัวอันตรายต่อสุขภาพของตนเอง
- กลัวอันตรายต่อสุขภาพของคนรอบข้าง
- กลัวคนที่รักจะเสียใจเมื่อเราล้มป่วย หรือจากไป
แต่ประชาชนอีก 39% ก็ยังไม่เข้าใจ
นิยาม ๙. ความประหยัด (Moderation) ความประหยัด หมายถึง การใช้เงินตามฐานะของตนเอง รู้จักประมาณตน รู้จักการวางแผนการใช้เงิน รู้จักออมใช้อย่างประหยัด
ต.ย. ๙. ความประหยัด - เก็บเข่งของปู่ ไว้ใช้กับพ่อ ครอบครัวหนึ่ง .. มีผู้อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 วัย คือ ปู่ พ่อ และลูกชาย ปู่ มีอายุ 83 ปี ป่วยเป็นอัมพาตมาหลายปีแล้ว ไม่มีรายได้ นอกจากเงินที่รัฐบาลจ่ายไห้เดือนละ 500 บาท เท่านั้น พ่ออายุ 40 ปี มีอาชีพรับจ้าง ภรรยาตายด้วยอุบัติเหตุ แต่ยังครองตัวเป็นโสด เพราะเป็นห่วงลูกชายวัย 10 ขวบ พ่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายรับ จึงมีปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างมาก
จึงวางแผนกับลูกชายว่า ปู่อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะสร้างปัญหาให้ครอบครัว รายได้มีน้อยอยู่แล้ว ยังต้องเสียค่ายาค่าอาหารดูแลปู่อีก "เอาอย่างนี้ดีกว่า เราพาปู่ไปทิ้งน้ำเสีย จะได้หมดภาระเสียที"
พ่อมอบหมายให้ลูกชายไปหาเข่งมาใบหนึ่ง สำหรับใส่ปู่ลงเรือไปทิ้งปากน้ำ พอได้เวลาประมาณ 2 นาฬิกา ขณะที่ปู่กำลังหลับ สองคนพ่อลูกช่วยกันหามปู่ใส่เข่งลงเรือ แล้วพายเรือไปยังปากน้ำทันที เมื่อถึงที่หมายพ่อบอกลูกชายว่า
"มาช่วยกันยกทั้งปู่ทั้งเข่งโยนลงน้ำเลย"
"เอาแต่ปู่โยนลงน้ำ เข่งไม่ต้อง" ลูกชายแย้ง
"เอาน่า ทิ้งทั้งปู่ทั้งเข่งนั่นแหละ" พ่อยืนยัน
"เอาเข่งไว้ โยนแต่ปู่ลงน้ำ" ลูกชายว่า
"เอ็งจะเอาเข่งไว้ทำไมอีกวะ" พ่อชักฉุน
"เอาไว้ใส่พ่อตอนแก่ไง" ลูกชายตอบ
ท่านอาจจะเป็น "คุณปู่" ในนิทานเรื่องนี้ไปอีกคนก็ได้ ถ้าไม่ได้ดูแลผู้สูงวัยให้ดี หรือไม่เตรียมตัวให้ถูกวิธีเสียบัดนี้
https://www.gotoknow.org *
http://www.thammasatu.net
http://www.sri.cmu.ac.th
http://lessons-in-my-life.exteen.com
นิยาม ๑๐. ความรู้จักพอ (Satisfaction) ความรู้จักพอ หมายถึง การรู้จักยับยั้งความอยากของตนให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมแก่ภาวะและฐานะของตน รู้จักควบคุมความอยากไว้ให้พอดี
ต.ย. ๑๐. ความรู้จักพอ - เด็กติดเกม เป็นสับเซตของ เกมเมอร์ ถ้านิยามว่า เกมเมอร์ คือ ผู้เล่นเกม
ก็จะแบ่งผู้เล่นเกมได้ 2 แบบ คือ ผู้เล่นที่ติดเกม กับ ผู้เล่นที่ไม่ติดเกม
ผู้เล่นเกมที่ไม่ติดเกม เป็นกลุ่มที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเด็กติดเกม กับ เด็กที่ไม่เล่นเกม
ผู้เล่นเกมที่ไม่ติดเกม มีลักษณะอย่างไร
1. เล่นเกม เพื่อเรียนรู้เกม และเข้าใจบทบาทของผู้เกี่ยวข้อง
2. ไม่ชวนเพื่อนมาเล่นเกม เพราะรู้ปัญหาของการติดเกม
3. ไม่เล่นเกมขณะอยู่กับเพื่อนในโลกความเป็นจริง แยกแยะได้
4. ควบคุมการเล่นเกมของตนได้ ตามกาลเทสะ
สาเหตุที่เด็กติดเกม - http://taamkru.com
1. พ่อแม่ไม่ดูแล - เด็กอยากเล่น ก็ได้เล่น
2. เด็กคุมตัวเองไม่ได้ - ไม่กำหนดขอบเขตให้ตนเอง
3. เกมสนองความต้องการ - ความรุนแรง เพศ ยกย่อง เสมือนจริง
สาเหตุเด็กติดเกม - https://www.dek-d.com
1. ปัจจัยทางชีวภาพ
เมื่อเล่นเกม จะมีสมองจะหลั่งสารแห่งความสุข (dopamine)
อยากให้สารนี้หลั่งก็ต้องไปเล่นเกม ก็เหมือนติดบุหรี่ เหล้า
2. จิตใจไม่มั่นคง
วัยรุ่นมักมีปัญหาการเข้าสังคม มีความนับถือตัวเองต่ำ (Low self-esteem)
ไม่ค่อยมีความมั่นคงทางอารมณ์ อยู่ในเกมแล้วคุมทุกอย่างได้
3. มีปัญหาครอบครัว
เพราะไม่มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไปเล่นเกมจะมีเพื่อนเป็นที่ยึดเหนี่ยว
ได้รับการยอมรับในกลุ่ม ชวนกันสนุก ชวนกันหัวเราะ
สาเหตุเด็กติดเกม - http://www1.si.mahidol.ac.th
จากปัจจัยภายในตัวเด็ก
1. ไม่มีงานอดิเรก ไม่มีอะไรต้องทำ
2. ขาดระเบียบวินัยในตนเอง
3. ขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง
4. เครียดกับปัญหา แต่ขาดทักษะในการจัดการความเครียดที่ถูกวิธี
5. ไม่มีกิจกรรมกับผู้อื่น ขาดทักษะทางสังคม
6. ได้รับการยอมรับในโลกออนไลน์ มากกว่าโลกความเป็นจริง
ข้อเสียของการติดเกม - https://www.it24hrs.com
1. ต่อตนเอง
รับรู้เรื่องราวในเกม เกิดการเลียนแบบ ก้าวร้าว
ร่างกายปวดเมื่อย และไม่ได้ออกกำลังกาย
2. ต่อครอบครัว
ปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวลดลง ห่างเหินกันไป
มีเวลาให้กัน ทำกิจกรรมร่วมกันลดลง
3. ต่อสังคม
ให้เวลากับการเรียนรู้ เพื่อนในสังคม การทำงานลดลง
นิยาม ๑๑. ความมีสติสัมปชัญญะ (Awareness) สติ หมายถึง ความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ความไม่เผลอ ฉุกคิดขึ้นได้ การคุมจิตไว้ในกิจ และ สัมปชัญญะ หมายถึง ความรู้ตัวทั่วพร้อม เป็นธรรมที่มีอุปการะ คู่กับสติ เป็นธรรมที่เอื้อกับสติ ที่มี 4 ลักษณะ คือ รู้พิจารณาก่อนทำ, รู้ปัจจุบัน, ไม่มีทุกขเวทนามาก และ รู้สิ่งที่ผ่านมา
ต.ย. ๑๑. ความมีสติสัมปชัญญะ - การตอบโต้ด้วยอมรมณ์ ทำให้ถอยห่างเหตุผลทุกขณะ
มีตัวอย่างการตัดสินใจ ปรากฎเป็นการกระทำ ที่เรียกได้ว่า "ขาดจริยธรรม" ให้เห็นได้บ่อย ตัวอย่างการจอดขวางทางเข้าออกหน้าบ้านคนอื่น การตอบสนองด้วยอารมณ์ เคยมีคำพิพากษาคดีจอดรถขวางหน้าบ้าน ตาม คำพิพากษาฏีกา 1908/2518 พบใน posttoday.com
เฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด
การจอดรถขวางประตูบ้านของผู้อื่น หรือแม้แต่การจอดขวางทางคนอื่นในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ซึ่งถือว่า เป็นที่สาธารณะสถาน ถือว่า เป็นการกระทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ เพราะไม่สามารถนำรถเข้าหรือออกจากบ้าน หรือออกจากลานจอดไม่ได้
ข้ออ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นที่สาธารณะ หรือ เจ้าของบ้านไม่ควรใช้รถ เมื่อเขาจอดรถบนถนนหน้าบ้าน ใช้อ้างไม่ได้และไร้สาระ เนื่องจากเจ้าของรถใช้สิทธิไปก่อความเดือดร้อนของผู้อื่นทั้งที่รู้แก่ใจ ถึงความเสียหายนั้น เยี่ยงวิญญูชนพึงรู้กัน จึงถือว่า กระทำความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญใจตามมาตรา 397 หมวดลหุโทษ
นิยาม ๑๒. ความมีระเบียบวินัย (Discipline) ความมีระเบียบวินัย หมายถึง ความยึดถือในแบบแผน กฎเกณฑ์ ที่กำหนดไว้เป็นแนวปฏิบัติ คนที่มีระเบียบวินัยเป็นคนที่สามารถควบคุมตนเองให้ประพฤติปฏิบัติตนได้ตามแบบแผนกฎเกณฑ์ และข้อบังคับของสังคมนั้น
ต.ย. ๑๒. ความมีระเบียบวินัย - ปลูกฝังได้ ภาพรองเท้าของสามเณร 100 รูป
มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมาก
เป็นบรรยากาศการปฏิบัติธรรมของสามเณร ที่มาศึกษาและปฎิบัติธรรม
ณ ที่พักสงฆ์ สถาบันธรรมาภิวัฒน์บ้านสบเติ๋น ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
เมื่อ 17-20 มกราคม 2561
โพสต์โดย พระสาธิต ธีรปญฺโญ มีนักวิชาการแชร์ข้อความว่า
"ยุโรปไม่ต้องบังคับเด็ก แต่ทำไม โตมา เขามีวินัย"
เป็นประเด็นน่าสนใจ ชวนให้คิดย้อนแย้งได้หลายมุม
1. ยุโรปไม่บังคับเด็ก
2. ใครบังคับเด็ก
3. ทำไมเขามีวิจัย
4. ทำไมคนอื่นไม่มีวินัย
5. วินัย กับ บังคับ เกี่ยวกันอย่างไร
ไปอ่านเมนท์ ที่มาแลกเปลี่ยน ก็จะเป็นอีกมุมหนึ่ง ที่น่าสนใจ
นิยาม ๑๓. ความยุติธรรม (Fairness) ความยุติธรรม คือ การยุติปัญหา ยุติความขัดแย้ง ไม่ใช่ยุติที่กฎหมาย แต่เป็นการนำการปกครอง นำกฎหมาย และนำอำนาจอธิปไตย อันเป็นสิทธิ และหน้าที่ของประชาชน เข้ามาประมวลผล เพื่อหาข้อยุติปัญหา ยุติความขัดแย้ง และให้ความเป็นธรรม หรือสมดุลย์ในผลของประโยชน์ และผลของโทษ
ต.ย. ๑๓. ความยุติธรรม - กฎหมาย : การสอบสวน คือ กระบวนหาข้อเท็จจริง พบใน CSI บ่อยครั้ง ที่การสอบสวนข้อเท็จจริง ทำให้รู้ความจริงได้ ดังนั้น พึงระวัง ด่วนสรุป ก่อนสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อ 6 ธ.ค.60 ถามตรง ๆ กับจอมขวัญ ณ 31.10น. (#ไทยรัฐทีวี32 #ThairathTV) พบข่าว ตำรวจ กับ ครู ใคร คือ เจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท เรื่องราวของลุงข้าราชการตำรวจเกษียณที่บอกว่าตนเองถูกหวย 30 ล้านบาท กลายเป็นมหากาพย์ เพราะวันที่ 28 พ.ย. 2560 ลุงถูกตำรวจเชิญไปพบ ในฐานะผู้ต้องสงสัยขโมยลอตเตอรี่จากคุณครูท่านหนึ่งไป จนลุงถูกอายัดเงินไป 20 ล้านบาท ขณะที่ฝั่งคุณครูก็ยืนยัน พร้อมมีพยานว่าตนเองเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านนี้ ผมคือตัวจริง ไม่ใช่ลุงตำรวจหวยอลเวง
อีกกรณีที่น่าสนใจ เมื่อ 13 มี.ค. 2559 .. คลิป กนก-ธีระ ซัก ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา คดีเบนซ์พุ่งชนฟอร์ด
อีกกรณีที่น่าสนใจ การถาม-ตอบ ชวนคิด .. ผู้ที่ถูกตั้งคำถาม ก็เหมือนถูกสอบสวน เมื่อต้องตอบหลายคำถาม ในเรื่องเดียวกันวนไปมา อาจได้แนวคิดใหม่ มี 10 คำถาม ใน /games
ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร : "ข้าราชการพลเรือนดีเด่น" ที่ถูก "ปลดออก" (มิใช่ไล่ออก) เพราะ "ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" เมื่อ 26 มี.ค.2564 ซึ่งที่มาของเหตุปลดออก ข้อมูลจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (BBC) ระบุว่า ระหว่าง 5-9 พ.ค. 2554 ชัยวัฒน์ และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ ได้เข้ารื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินอื่น ๆ ของนายโคอิหรือคออี้ มีมิ และของชาวบ้านอีกหลายราย ซึ่งเป็นชาวไทยพื้นเมืองดั้งเดิมเชื้อสายกะเหรี่ยงที่หมู่บ้านบางกลอยบนและใจแผ่นดินเสียหายราว 100 หลัง ซึ่งมีรายละเอียดพรบ. ในเนื้อข่าว
นิยาม ๑๔. ความอดทนอดกลั้น (Endurance) ความอดทนอดกลั้น หมายถึง การข่มใจ การอดกลั้น อดใจ เมื่อเจอกับเหตุการณ์อันไม่ชอบใจ สุภาษิต อาทิ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" หรือ "ฝนทั่งให้เป็นเข็ม" ข้อคิด อาทิ "เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร โดยทำสิ่งดี ๆ ให้เขา" "แม้จะไปไม่ถึงจุดหมายที่ใฝ่ฝัน ขอจงก้าวต่อไปอย่าท้อถอย" หรือ "แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยหลังจากภารกิจในแต่ละวันเพียงใด จงยืนหยัดที่จะก้าวไปข้างหน้า"
ต.ย. ๑๔. ความอดทนอดกลั้น - โรคซึมเศร้า พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือคุณหมอเบิร์ท
เล่าว่ามีส่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้า จนปลิดชีพตนเอง
อย่าง Robin William อย่างน้อย 9 ข้อ
1. อารมณ์ซึมเศร้า หงุดหงิด ก้าวร้าว
2. ขาดความสนใจสิ่งรอบข้าง
3. สมาธิเสีย คือ ไม่ค่อยมีสมาธิเวลาทำสิ่งต่าง ๆ
4. รู้สึกอ่อนเพลีย
5. เชื่องช้า ทำอะไรก็เชื่องช้าไปหมด
6. รับประทานอาหารมากขึ้น หรือรับประทานน้อยลง
7. นอนมากขึ้น หรือนอนน้อยลง
8. ตำหนิตัวเอง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่พบได้มากในคนเป็นโรคซึมเศร้า
9. ฆ่าตัวตาย หากมีความพยายามฆ่าตัวตาย ก็อาจเป็นโรคซึมเศร้า
9 พฤติกรรมบ่งบอกซึมเศร้า โดย หมอเบิร์ท
สถิติซึมเศร้า ไทย 3000 เกาหลี 15000 ญี่ปุ่น 30000
เตาถ่าน แก้หนาวในรถ จักรพันธ์ โสมะเกษตริน
คิมจงฮยอน ก่อไฟให้เกิดควันภายในบ้าน
Leaving Las Vegas (1995) : กินเหล้าไปจนตาย
นิยาม ๑๕. ความเคารพนับถือผู้อื่น (Consideration)
ความเคารพนับถือผู้อื่น หมายถึง ตระหนักซาบซึ้งรู้ถึงคุณความดีที่มีอยู่จริงของบุคคลอื่น ยอมรับนับถือความดีของเขาด้วยใจจริง
ต.ย. ๑๕. ความเคารพนับถือผู้อื่น - กรณีพระคุณที่สาม
บทความเรื่อง เรือที่ไม่ได้เรื่อง


บันไดมีหลายขั้น ค่อยก้าว
ลังอ่านนิทานของ อ.ชีวิน สุนสะธรรม เรื่อง "เรือที่ไม่ได้เรื่อง" ทำให้นึกถึง TQF = กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ที่กำหนดว่าทุกหลักสูตรต้องสอนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม โดยแทรก คุณธรรม จริยธรรม (Morality and Ethics) เข้าไปในทุกรายวิชา (มคอ.3)
1. ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต
2. มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
3. มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีม และสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ
4. เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
5. เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม
6. สามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ต่อบุคคลองค์กรและสังคม
7. มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
เมื่อได้อ่านดูทั้ง 7 ข้อแล้ว
.. ถ้าทำให้ นิสิต ไม่ด่าใครออกสื่อสังคมจนตนเดือดร้อนได้ ถือว่าสำเร็จไปหลายข้อแล้ว
เรื่อง เรือที่ไม่ได้เรื่อง หากหนุ่มสาวคนใดทำไป
อาจไม่ผิดกฎหมาย แต่น่าจะผิดกฎหมู่ น่ะครับ
บข่าวในสื่อสังคม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ว่ามีการสื่อสารโต้ตอบทางความคิด ระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน ในประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก และพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับ ศิลปะ กับการเมือง ซึ่งการสื่อสารกันอาจกระทบเรื่องความเคารพนับถือผู้อื่นไม่มากก็น้อย รวมถึงเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งในสถาบันการศึกษา และในระดับชาติ ทำให้นึกถึงบทความของ ผศ.ดร.กฤษฎา ตันเปาว์ เรื่องที่ 7 - คนเรามี "พฤติกรรม" เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไป เพราะอะไร ซึ่งมีคำว่า ศรัทธาจริต หมายถึง มีความเชื่อผ่านอารมณ์เป็นหลัก นับถือตนเอง เสียสละ มีศรัทธาแรงกล้าในสิ่งที่เชื่อถือ ชอบรวมกลุ่ม เชื่อในพลังกลุ่ม บางครั้งหากมากไปก็ไม่มีเหตุผลรองรับ
นิยาม ๑๖. ความไม่เห็นแก่ตัว (Selflessness) ความไม่เห็นแก่ตัว หมายถึง การแบ่งปัน เอื้อเฟื้อให้กับผู้อื่น ใจกว้าง ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตน ไม่โยนความผิดไปให้ผู้อื่น ดังสุภาษิตว่า "พูดดีเข้าตัว พูดชั่วให้คนอื่น" หรือ "ความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดเราเท่าเส้นผม"
ต.ย. ๑๖. ความไม่เห็นแก่ตัว - การขโมยความคิด (Plagiarism)

ระบบตรวจสอบ
การคัดลอกบทความทางวิชาการ
plagiarismcheck.org
การขโมยความคิด (Plagiarism) คือ การคัดลอกผลงาน หรือการกระทำที่เข้าข่ายขโมยความคิดของผู้อื่น โดยไม่อ้างอิงอย่างถูกต้อง อาจเรียกว่า การโจรกรรมทางวิชาการ
การสืบค้นผลงานจากอินเทอร์เน็ต ที่ค้นจาก google.com หรือนำมาจาก wikipedia.org แล้วคัดลอก ไปวางในงานเอกสารของตน ที่นักเรียนมักคัดลอกผลงานจากอินเทอร์เน็ตส่งครู มักเรียกว่า Cyber-plagiarism
ประเภทการคัดลอกผลงาน พบว่ามี 3 ลักษณะ 1) Plagiarism คือ คัดลอกผลงานของคนอื่น 2) Self-plagiarism หรือ Duplication คือ คัดลอกผลงานของตนเอง 3) Co-submission คือ เขียนร่วมกันหลายคน แต่ระบุชื่อผู้เขียนคนเดียว
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สภาจุฬาฯ ถอนปริญญาเอก
http://facstaff.swu.ac.th/walta/Plagiarism_Ver2.pdf
https://en.wikipedia.org/wiki/Plagiarism
นิยาม ๑๗. ความถ่อมตน (Modesty) ความถ่อมตน หมายถึง การไม่แสดงออกถึงความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ให้ผู้อื่นทราบเพื่อข่มผู้อื่น หรือเพื่อโอ้อวด การไม่อวดดี เย่อหยิ่งจองหอง แต่แสดงตนอย่างสงบเสงี่ยม
ต.ย. ๑๗. ความถ่อมตน - ต้องรู้จักตน กรณีทำไมไม่ปัดเศษ 1.2 เพราะไม่อยากสอบตก ต้องเรียนอีก
อาจารย์ ลูกศิษย์ .. ต้องอ่านเรื่องนี้
ประเด็นที่อาจารย์ที่กำแพงแสน ท่านให้เหตุผล 5 ข้อ ดังนี้
1. มีแนวปฏิบัติที่ทุกคนใช้ร่วมกันแล้ว
2. ความยุติธรรม หรือเลือกปฏิบัติ
3. เกรดสะท้อนความเข้าใจเนื้อหา
4. ปริญญาคือใบรับรองว่ามีความรู้ตามหลักสูตร
5. มารยาทของศิษย์ และอาจารย์
เหตุการณ์เมื่อ 13 ธันวาคม 2560
ตัวอย่างภาพประกอบ เรื่อง "คะแนนประเมินวิดีโอ"
ต้องการสื่อว่าทุกช่องทางสำคัญหมด ทิ้งไม่ได้แม้แต่ช่องเดียว
นาย a ทิ้งเรื่องนักแสดง คะแนนหายไปอย่างน่าเสียดาย
ต้นเหตุมาจากอะไร .. "แก๊สโซฮอล์" รึเปล่า
อัตลักษณ์ (Identity) ของน.ศ.
ที่หลักสูตรคาดหวัง ในเบื้องต้น
1. รักตนเอง = รักอนาคต
2. เคารพกฎเกณฑ์
3. มีคุณธรรมจริยธรรม
4. มีความรู้
5. มีปัญญา


Love = รัก
รักดี หามจั่ว รักชั่ว หามเสา
รักดี หรือรักชั่ว มีผลลัพธ์ต่างกัน
นิยาม ๑๘. ความกล้าทางคุณธรรม (Courage) ความกล้าทางคุณธรรม หมายถึง การแสดงความกล้าหาญในทางที่ถูกที่ควร อาทิ "กล้ายอมรับผิด เมื่อกระทำผิด" หรือ "กล้าต่อสู้กับความอยุติธรรม" หรือ "กล้ายอมรับผลของการกระทำ"
ต.ย. ๑๘. ความกล้าทางคุณธรรม - กล้าเลือกข้างคุณธรรม หรือไม่ คำถาม "สอนอย่างไรให้เด็ก ๆ มีคุณธรรมจริยธรรม"
ยกตัวอย่าง น้องพลอย ที่ขับรถชน แล้วแสดงความรับผิดชอบ [PPTX] แล้วเคยตั้งคำถามกับเด็กในชั้นเรียน ว่าถ้าเลือกได้ จะเลือกอะไรระหว่าง glory กับ money ก็มีคำตอบไปทางหนึ่ง แต่ถ้าไปถามอาจารย์มหาวิทยาลัยตามโพสต์ เรื่อง เกียรติ กับเงิน ก็จะได้คำตอบอีกอย่างหนึ่ง
ผศ.ดร.โกวิทย์ พิมพวง มีบทความเรื่อง "การศึกษาไทยจะเอา คุณภาพ หรือ คุณธรรม" ใน dailynews.co.th
มี 2 ย่อหน้าที่ขอยกมาเกี่ยวกับคุณธรรม
ย่อหน้าแรก .. ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้อง "เลือกข้างการศึกษา" เลือกปฏิรูปในสิ่งที่เหมาะกับบริบทการศึกษาไทย ถ้าท่านเป็นผู้บริหารสถาบันการศึกษา ท่านจะเลือกอย่างไหนระหว่าง "คุณภาพแบบสุดซอย" หรือ "คุณธรรมแบบสุดติ่ง" แต่อย่าลืมสำนวนไทยที่ว่า "จับปลาสองมือ" (จะไม่ได้อะไรเลย) ยังคงใช้ได้แม้อยู่ในยุคดิจิทัล (Digital) ปัจจุบัน
ย่อหน้าที่สอง .. ผมว่าการศึกษาไทยควรเปลี่ยนวิธีการคิดและการจัดการได้แล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากให้ย้อนกลับไปคิดถึงคำขวัญเก่า ๆ แต่ยังใช้ได้ดีในปัจจุบัน คือ "คุณธรรมนำความรู้"  โดยขอให้ถือหลักตามลำดับความสำคัญ ดังนี้ 1) การศึกษา   2) คุณธรรม   3) ความรู้   4) คุณภาพ   และ 5) การบูรณาการ
ข้อมูลจาก https://www.dailynews.co.th/education/393198
คำถาม - ทะเลาะกับแฟนมา แล้วโดดน้ำ ให้รู้ไว้ .. จะใช่ไหม
คำถาม - รบมาแพ้ ซามูไร เลือกคว้านท้อง รักษาเกียรติ .. กล้า
คำถาม - คุณหมอ ทำการุณฆาต น้องหมาแมว ถูกประณาม ซึมเศร้า
นิยาม ๑๙. ความเคารพตนเอง (Self-respect) ความเคารพตนเอง หมายถึง ความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง เรียนรู้และฟังตัวของตัวเอง เอาใจใส่ตัวเอง รักษาสุขภาพ รู้จักบริโภคเพื่อตนเอง
ต.ย. ๑๙. ความเคารพตนเอง - ไม่ดูถูก ไม่โกหกตนเอง ไม่รักตัวเอง (เพลง)

เคยอ่านเม้นสเตตัสของคุณครูท่านหนึ่ง ท่านพบว่า นักเรียน หลายคนเข้าใจผิด เรื่องเกณฑ์การให้คะแนน 70% ถ้าถามว่า "มีด้วยเหรอ" ก็คงตอบว่า "มีนะ" จึงนำเรื่องนี้ไปเขียน blog
เคยอ่าน งานวิจัย ของ นางฐานิตา ลอยวิรัตน์ แลเพื่อน ๆ เรื่อง การศึกษาสาเหตุและปัจจัยที่ส่งผลต่อการพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ม.สงขลา พบว่า ข้อมูล 14 คณะ ที่ ม.สงขลา ระหว่างปีการศึกษา 2554 – 2556 ได้ยื่นคำร้องขอลาออกทั้งหมด 600 คน คณะวิทยาศาสตร์ ยื่นคำร้องมากถึงร้อยละ 27.67 ตามมาด้วยคณะวิทศวกรรมศาสตร์ ร้อยละ 19.50 และนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ยื่นคำร้องมากถึงร้อยละ 73.00 นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ร้อยละ 21.67 โดยไปสถาบันอื่นมี 57.12 และ ไม่ถนัดในสาขาวิชาที่เรียนมีร้อยละ 28.79 pdf + bak
นักศึกษาที่ออกจากสถาบัน มีหลายประเภท อาทิ ย้ายที่เรียน ไม่ถนัด และผลการเรียนไม่ดี แล้วก็ชวนคิดในหลายกรณี ดังนี้ กรณี 1 ถ้าคิดว่าเข้าห้อง 70% แสดงว่า เข้าเรียนทุกครั้ง เกรดคงเป็น C ลอยมาเห็น ๆ ส่งงานอีกนิดหน่อย A ลอยมาที่หน้าตัก กรณี 2 เคยอ่านเม้นของ อาจารย์ที่กำแพงแสน แสดงว่า นักเรียนไม่รู้ว่าทำไม F และไม่เข้าใจว่าทำไม อาจารย์ไม่บวกคะแนนตนไม่ติด F แล้วยังมีอีกกรณีอีกมากมาย สงสัยต้อง ชวนคิดด้วยการสวมหมวก 6 ใบ และมีประเด็นน่าสนใจชวนคิด ดังนี้ 1) ครูเคยบอกไหมว่า เกณฑ์เท่าไรได้ A เท่าไรได้ F 2) ครูเคยบอกไหมว่า คะแนนเต็ม 100 จะเก็บอะไรบ้าง 3) ครูเคยบอกไหมว่า คะแนนแต่ละช่องได้เท่าไรกันบ้าง 4) ครูเคยบอกไหมว่า ตั้งใจเรียนนะ ไม่ถึง 50% ได้ F นะ ครูบางคนเค้าก็คงไม่เคยบอกครับ ฟันธงได้เลย เพราะต้องรู้ บางสถาบัน นักเรียนเค้าถาม แต่เกียรตินิยม เพราะ A คือ ผ่าน B คือ ตกใจล่ะ ตามไม่ทันเพื่อน 5) ครูเคยบอกไหมว่า สอบตก แล้วติด P ไม่ต้อง F แก้ไขจนกว่าจะผ่าน เคยเห็นในหนังเรื่อง Swing girl เป็นกลุ่มเด็กที่ตกคณิต ได้เลือกว่าจะเรียน หรือ ดนตรี เป็นเด็ก หันไปเอาดีทางดนตรี สมองซีกขวาดนตรี ส่วนครูสอนคณิต กลับสอบตกทางดนตรี สมองซีกซ้ายคณิต แต่ในระดับที่สูงขึ้น เกณฑ์บอกว่าสอบตก ต้องเรียนใหม่
คุณลักษณะของจริยธรรม [5]p.7
คุณลักษณะของจริยธรรม (The characteristics of ethics) มี 12 ข้อ คือ ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความมีเหตุผล ความกตัญญูกตเวที ความอุตสาหะ ความสามัคคี ความมีระเบียบวินัย ความเสียสละ ความประหยัด ความยุติธรรม ความเมตตา ความกรุณา โดยมีความหมายดังนี้
1. ความรับผิดชอบ (Responsibilities) หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจ มีความละเอียดรอบคอบ มีความพากเพียรพยายาม เพื่อให้งานหรือภาระที่รับผิดชอบอยู่บรรลุสำเร็จตรงตามเป้าหมาย
2. ความซื่อสัตย์ (Honesty) หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนอย่างตรงไปตรงมา ตรงต่อความเป็นจริง ทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
3. ความมีเหตุผล (Rationality) หมายถึง การรู้จักใช้สติปัญญา ไตร่ตรอง คิดใคร่ครวญ หรือพิสูจน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประจักษ์ โดยไม่ผูกพันกับอารมณ์ และความยึดมั่นในความคิดของตนเอง
4. ความกตัญญูกตเวที (Gratitude) หมายถึง ความรู้สึกสำนึกในบุญคุณของบุคคลผู้มีอุปการะคุณ หรือสิ่งอันมีคุณต่อมนุษย์เรา และแสดงออกถึงความสำนึกในบุญคุณนั้นด้วยการตอบแทนคุณอาจกระทำด้วยสิ่งของหรือการกระทำอย่างนอบน้อม
5. ความอุตสาหะ (Perseverance) หมายถึง ความพยายามอย่างยิ่งยวด เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในการงานหรือกิจกรรมที่ทำ ด้วยความขยันขันแข็งกระตือรือร้น อดทนอดกลั้น ถึงแม้จะประสบปัญหาหรืออุปสรรคขัดขวางก็ไม่ยอมแพ้และไม่ย่อท้อ
6. ความสามัคคี (Unity) หมายถึง ความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว การให้ความร่วมมือในการกระทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว รวมทั้งมีความรักในหมู่คณะของตน
7. ความมีระเบียบวินัย (Discipline) หมายถึง การควบคุมความประพฤติของตนเองให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม กับจรรยามารยาททางสังคม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายและศีลธรรม
8. ความเสียสละ (Sacrifice) หมายถึง การลดละความเห็นแก่ตัว การแบ่งปันแก่คนที่ควรให้ด้วยทรัพย์สิน กำลังกาย และกำลังปัญญาของตนเอง
9. ความประหยัด (Economy) หมายถึง การใช้สิ่งของหรือใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและพอเหมาะ พอควร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยจนเกินฐานะของตน
10. ความยุติธรรม (Justice) หมายถึง การปฏิบัติตนด้วยความเที่ยงตรง การพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่มีความลำเอียงหรือเข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
11. ความเมตตา (Mercy) หมายถึง ความรักใคร่ปรารถนาจะให้ผู้อื่นมีความสุข
12. ความกรุณา (Kindness) หมายถึง ความสงสารอยากจะช่วยให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์
คุณฮัทแชร์ข่าวเรื่อง มนุษย์ที่ไม่มีจริยธรรม
ตามข่าวว่า คนในประเทศอื่น (ขอไม่เอ่ยชื่อประเทศ)
อยากให้ไทยรับผู้อพยพ จากอีกประเทศหนึ่ง
เข้าไปเป็นผู้อาศัยในประเทศ
เมื่อไทยปฏิเสธ ก็จะถูกประนามจากประเทศเหล่านั้น
แต่เมื่อคนประเทศหนึ่งขอเข้าประเทศเหล่านั้นบ้าง
กลับปฏิเสธจากประเทศเหล่านั้น
เป็นการพิจารณาแบบสองมาตรฐาน
น่าจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมหัวข้อ "เห็นแก่ตัว"
[อะไรที่ดีกับตัวเองจะทำ อะไรที่ไม่ดีกับตัวเองก็ให้คนอื่นทำ]
.. จะไปเล่าให้นักศึกษาฟังว่า อย่าทำตัวแบบคนประเทศนั้น
http://www.dailynews.co.th/foreign/338505
โรฮิงญาถูกอังกฤษพามาช่วยยึดพม่า
สหรัฐก็แถลง ชี้ขัดพันธกรณี กรณีชาวอุยกูร์
ความกรุณา เป็นคุณลักษณะของจริยธรรม (The characteristics of ethics) [5]p.7 ในเครือข่ายสังคม พบเพื่อน ๆ เปลี่ยนภาพ profile ร่วมกิจกรรม Pray for Paris จาก เหตุการณ์โจมตีกรุงปารีส 6 จุดพร้อมกัน และทำให้มียอดผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่ต่ำกว่า 153 คน เกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ (13 พ.ย.58) แล้ว FB จัดทำบริการเปลี่ยนภาพ Profile ที่มีธงชาติบนภาพ แบบกำหนดเวลา ซึ่งแสดงว่าผู้ที่เปลี่ยนภาพโปรไฟร์ต้องการแสดงออกถึงการให้กำลังใจ และตีความได้ว่าเป็นจริยธรรมหนึ่ง คือ "ความกรุณา" ที่ปรารถนาให้ความทุกข์ของคนฝรั่งเศสได้คลี่คลาย ดังคำว่า "Change your profile picture to support France and the people of Paris." ที่อยู่ติดกับคำว่า Try it
เล่าสู่กันฟัง .. พนักงานดีเด่น ก็ต้องมีจริยธรรมดีเป็นเลิศ 12 ก.ย.57 ไปธนาคารโอนเงินค่าสินค้าให้กับญาติ ระยะหลังท่านฝากมาบ่อยครับ ได้พบพนักงานที่ธนาคารบริการรวดเร็ว ไปถึงก็ไม่ต้องเขียนอะไร ยื่นชื่อกับเลขบัญชีที่ญาติฝากมา น้องสาวที่บริการสามารถก็ทำให้ได้เลย เพราะผมสายตายาวแล้ว จะไปยืนเขียนก็ลำบาก จะก้ม ๆ เงย ๆ ชักแว่นเข้าแว่นออก เหมือนนั่งที่ทำงานก็ดูไม่ดี เมื่อเสร็จธุระแล้วจะออกปากชมก็เกรงใจลูกค้าในธนาคาร พอเดินมาดูป้ายด้านข้าง เห็นว่าธนาคารนี้มีการประกาศเกียรติคุณ แก่พนักงานที่บริการดี ผมว่าเป็น incentive อย่างหนึ่ง เป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ที่จะทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข บางครั้งความสุขก็ไม่ต้องเป็นเงินเป็นทอง เป็นแค่ป้ายบอกว่าเราทำดีประจำเดือนก็พอ .. เหมือนเคยเห็นแบบนี้ที่ BigC ซึ่งเป็น good practice ในการรักษาพนักงานที่ใช้งบประมาณน้อย แต่ได้ผลชัดเจน เพียงแต่มีระบบและกลไกที่ชัดเจน เท่านั้นก็พอ
หลักธรรมาภิบาล หลักธรรมาภิบาล เป็นแนวทางในการบริหารจัดการที่ดี
ผู้บริหารสถาบัน/คณะวิชา/หน่วยงานยึดเป็นแนวปฏิบัติก็เชื่อได้ว่าจะมีการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการบริหารจัดการการศึกษาที่ดี ซึ่งเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านคุณภาพทางวิชาการและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาค
หลักธรรมาภิบาล หมายถึง การปกครอง การบริหาร การจัดการ การควบคุม ดูแลกิจการต่าง ๆ ให้เป็นไปในครรลองธรรม นอกจากนี้ ยังหมายถึงการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน ธรรมที่ใช้ในการบริหารงานนี้มีความหมายอย่างกว้างขวาง กล่าวคือ หาได้มีความหมายเพียงหลักธรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่รวมถึงศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมและความถูกต้อง ชอบธรรมทั้งปวง ซึ่งวิญญูชนพึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ อาทิ ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การปราศจากการแทรกแซงจากองค์การภายนอก เป็นต้น
หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance) ที่เหมาะสมมี 10 องค์ประกอบ ดังนี้
1. หลักประสิทธิผล (Effectiveness) คือ ผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของแผนการปฏิบัติราชการตามที่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการรวมถึงสามารถเทียบเคียงกับส่วนราชการหรือหน่วยงานที่มีภารกิจคล้ายคลึงกันและมีผลการปฏิบัติงานในระดับชั้นนำของประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชน โดยการปฏิบัติราชการจะต้องมีทิศทางยุทธศาสตร์ และเป้าประสงค์ที่ชัดเจน มีกระบวนการปฏิบัติงานและระบบงานที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงมีการติดตามประเมินผลและพัฒนา ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
2. หลักประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ การบริหารราชการตามแนวทางการกำกับดูแลที่ดีที่มีการออกแบบกระบวนการปฏิบัติงานโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือการบริหารจัดการที่เหมาะสมให้องค์การสามารถใช้ทรัพยากรทั้งด้านต้นทุน แรงงานและระยะเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติราชการตามภารกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
3. หลักการตอบสนอง (Responsiveness) คือ การให้บริการที่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด และสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ รวมถึงตอบสนองความคาดหวังหรือ ความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความหลากหลายและมีความแตกต่าง
4. หลักภาระรับผิดชอบ (Accountability) คือ การแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่และผลงานต่อเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยความรับผิดชอบนั้นควรอยู่ในระดับที่สนองต่อความคาดหวังของสาธารณะ รวมทั้งการแสดงถึงความสำนึกในการรับผิดชอบต่อปัญหาสาธารณะ
5. หลักความโปร่งใส (Transparency) คือ กระบวนการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงได้เมื่อมีข้อสงสัยและสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันไม่ต้องห้ามตามกฎหมายได้อย่างเสรี โดยประชาชนสามารถรู้ทุกขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรมหรือกระบวนการต่าง ๆ และสามารถตรวจสอบได้
6. หลักการมีส่วนร่วม (Participation) คือ กระบวนการที่ข้าราชการ ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มมีโอกาสได้เข้าร่วมในการรับรู้ เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ร่วมแสดงทัศนะ ร่วมเสนอปัญหาหรือประเด็นที่สำคัญที่เกี่ยวข้อง ร่วมคิดแนวทาง ร่วมการแก้ไขปัญหา ร่วมในกระบวนการตัดสินใจ และร่วมกระบวนการพัฒนาในฐานะหุ้นส่วนการพัฒนา
7. หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization) คือ การถ่ายโอนอำนาจ การตัดสินใจ ทรัพยากร และภารกิจจากส่วนราชการส่วนกลางให้แก่หน่วยการปกครองอื่น ๆ (ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น) และภาคประชาชนดำเนินการแทนโดยมีอิสระตามสมควร รวมถึงการมอบอำนาจและความรับผิดชอบในการตัดสินใจและการดำเนินการให้แก่บุคลากร โดยมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจใน การให้บริการต่อผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มผลิตภาพเพื่อผลการดำเนินงานที่ดีของส่วนราชการ
8. หลักนิติธรรม (Rule of Law) คือ การใช้อำนาจของกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับในการบริหารราชการด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
9. หลักความเสมอภาค (Equity) คือ การได้รับการปฏิบัติและได้รับบริการอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่มีการแบ่งแยกด้าน ชายหรือหญิง ถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษา การฝึกอบรม และอื่น ๆ
10. หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented) คือ การหาข้อตกลงทั่วไปภายในกลุ่ม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เกิดจากการใช้กระบวนการเพื่อหาข้อคิดเห็นจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงซึ่งต้องไม่มีข้อคัดค้านที่ยุติไม่ได้ในประเด็นที่สำคัญ โดยฉันทามติไม่จำเป็นต้องหมายความว่าเป็นความเห็นพ้องโดยเอกฉันท์
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (2554). คู่มือการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์.
http://www.opdc.go.th/content.php?menu_id=5&content_id=2442
http://share.psu.ac.th/blog/mali-km/21131
http://qa.bu.ac.th/buqa/index.php/kmqa/51-good-governance

เคยอ่านเรื่อง "7 โรคร้าย ที่ระรานการจัดการองค์กร"
ที่คุณ vimonmass แปลจาก หนังสือ OUT OF THE CRISIS (1986)
ที่เขียนโดย W. Edwards Deming โพสต์เป็นไทยเมื่อ September 8, 2014
ผมสนใจข้อ 4 : Mobility of TOP Management อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า
"เมื่อเปลี่ยนผู้บริหาร แล้วจะมีการเปลี่ยนนโยบาย" .. เป็นเรื่องธรรมดาจริงหรือ
ก็ทำไมไม่เหมือนเดิมล่ะ มีเหตุผลอะไรดี ๆ ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลง
ผมรู้สึกอีกว่าผิดไปจาก "หลักธรรมาภิบาล เป็นแนวทางในการบริหารจัดการที่ดี"
จำนวน 2 ข้อคือ หลักประสิทธิผล (Effectiveness)และ หลักประสิทธิภาพ (Efficiency)
เพราะการเปลี่ยนแปลง กับการไม่เปลี่ยนแปลง ย่อมต้องแตกต่างกันอย่างมีเหตุมีผล
ถ้าเปลี่ยนก็ต้องมีสารสนเทศมาสนับสนุน วิเคราะห์สภาพแวดล้อม และประเมินความเป็นไปได้
.. ผมคิดว่างั้นนะ ไม่ใช่เอะอะก็เปลี่ยน และเปลี่ยนแบบไม้อ้างอิงข้อมูล ดูขัดกับหลักธรรมาภิบาล
สอดคล้องกับที่กล่าวในหนังสือโศกนาฏกรรมองค์กรหลงทิศ
บทที่ 1 บริหารจัดการโดยไม่ใช้ข้อมูลจริง .. แล้วใช้อะไรเป็นฐานคิดกันล่ะ
งานวิจัย เรื่องประสิทธิภาพกับหลักธรรมาภิบาล าก บทความวิจัย ของ จรัสศรี ต๊ะนนท์ , ฑัตษภร ศรีสุข และภูมิ ศรีสุข. (2563). การศึกษาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษา จังหวัดลำปาง จำกัด ภายใต้หลักธรรมาภิบาลสหกรณ์. วารสารวิทยาการจัดการปริทัศน์, 22(2), 1-11. พบว่า มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 2 ข้อ คือ เพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร และเพื่อศึกษาปัจจัยหลักธรรมาภิบาลที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน
ลักธรรมาภิบาล ประกอบด้วย 1) หลักประสิทธิผล 2) หลักประสิทธิภาพ 3) หลักการตอบสนอง 4) หลักภาระรับผิดชอบ 5) หลักความโปร่งใส 6) หลักการมีส่วนร่วม 7) หลักการมอบอำนาจ 8) หลักนิติธรรม 9) หลักความเสมอภาค ซึ่งผลการศึกษาพบว่า ผลโดยรวมของปัจจัยหลักธรรมาภิบาลสหกรณ์ทั้ง 9 หลัก มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร โดยมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันใน "ระดับที่สูงมาก 8 ข้อ" และ หลักความเสมอภาคอยู่ในระดับ "ค่อนข้างสูง"
หน้าที่เด็กดี
เพลง เด็กเอ๋ยเด็กดี
น้ำใจนักกีฬา อย่างน้อยก็ต้องมี รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
เพลงหน้าที่เด็ก (เด็กเอ๋ยเด็กดี)
เป็นเพลงวันเด็กแห่งชาติ

เด็กเอ๋ยเด็กดี
ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
เด็กเอ๋ยเด็กดี
ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
หนึ่ง นับถือศาสนา
สอง รักษาธรรมเนียมมั่น
สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์
สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
ห้า ยึดมั่นกตัญญู
หก เป็นผู้รู้รักการงาน
เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ
ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน
แปด รู้จักออมประหยัด
เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล
น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ
ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา
สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์
รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา
เด็กสมัยชาติพัฒนา
จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
กรณีความขัดแย้งของ น้องก้อย กับ โค้ชเช
ติดตามข่าวที่ชาวไทยให้ความสนใจ ความขัดแย้งในกีฬาเทควันโด
เพราะเห็นข่าวมาเป็นตอน แต่ละตอนก็จะมีมุมมองต่างกันไป
ดูตอนเดียวแล้วสรุปไม่ได้ครับ
แต่ละตอนก็เป็นแต่ละมุมของแต่ละคน
เหมือนการตอบโต้ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในไทยช่วงต้นปี 2557
ก่อนความสงบจะเข้ามาแทนที่ความขัดแย้งโดยสิ้นเชิง
---
คำว่า จริยธรรม = จริย + ธรรม = ความประพฤติ + คุณความดี
ผมว่าเรื่องนี้โยงเป็นกรณีศึกษา จริยธรรม ของ ศิษย์ กับ ครูฝึกได้นะ
---
ข่าวนี้เกิดในกีฬาเทควันโด (Taekwondo)
ระหว่างลูกศิษย์ น้องก้อย รุ่งระวี ขุระสะ กับครูฝึก โค้ชเช ชเว ยองซอก
เป็นข้อพิพาทว่าครูฝึกสั่งสอนลูกศิษย์เกินกว่าเหตุ
ลองมาตามข่าวกันครับ ก่อนจะแสดงความคิดเห็นก็ต้องมีข้อมูลกันก่อน
1. น้องก้อยถูกกระทำ ตัดสินใจประกาศอำลาทีมชาติ
น้อยก้อยเรียกร้องให้โค้ชเชมารับผิดชอบ
ด้วยการขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน เพราะไม่ใช่ความผิดของก้อย
เช้า 16 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=tTtfUDhl6yk
เช้า 17 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=iGATqqmX9zk
2. โค้ชแม็กซ์ ชัชวาล อัดคลิปยัน น้องก้อย รุ่งระวี ไม่เตรียมตัวก่อนแข่ง
ระบุผู้เข้าแข่งต้องเตรียมความพร้อม และวอล์มร่างกายก่อนแข่ง
เช้า 17 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=8SR4mscMtFI
3. น้องวิว แสดงความเห็นว่า โค้ชน่าจะทำเพราะต้องการกระตุ้น
ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ถ้าแข่งแพ้หมายถึงไม่ได้แพ้คนเดียว แต่ประเทศไทยแพ้
เช้า 17 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=HY0ZE2f0qFY
4. นายพิมล ยืนยัน โค้ชเช บอกผ่าน แม็กซ์ ไม่กลับประเทศไทยแล้ว
บอกว่าไม่เอาไอดีการ์ด ไม่เอาถุงมือมา และคำแก้ตัวไม่เป็นความจริง
เช้า 17 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=iL4NqTFYxp8
5. โค้ชทักษ์ ปัดอยู่เบื้องหลังชักใย ก้อย รุ่งระวี แฉ โค้ชเช
http://hilight.kapook.com/view/105194
เช้า 17 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=EooMpdbJA8s
6. เปิดใจ 'วิว เยาวภา - เล็ก ชนาธิป' ฮีโร่เหรียญโอลิมปิก
เย็น 17 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=rnkuVi3Ajpo
7. โค้ชเช แจงไม่ได้ต่อยน้องก้อย
"ในขณะที่นักกีฬาฝ่ายตรงข้ามรอที่คอร์ดแล้ว แต่รุ่งระวี
ยังไม่รู้เลยว่า การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว จนเกือบถูกจับตัดสิทธิ์"
ผมได้สั่งสอนต่อหน้านักกีฬาคนอื่น ๆ จริง
แต่จะเรียกว่าต่อยคงไม่ได้
เช้า 18 ก.ค.57 - youtube.com/watch?v=HvriW0jEUXo
พัฒนาการทางจริยธรรม
เห็นข่าวเด่นทางทีวีที่เล่าถึงการกระทำผิดของผู้คน เห็นได้ชัดว่าผู้กระทำความผิดไม่น้อย ขาดจริยธรรมตั้งแต่ขั้นที่ 1 ที่มักพบในเด็กอายุ 2 - 10 ขวบ ตามทฤษฎีของ Kohlberg ที่ ผศ.ดร.ดุจเดือน ได้ไปสังเคราะห์มา ก็ไม่อยากจะยกตัวอย่าง เพราะตัวอย่างมีให้เห็นแทบทุกวันในข่าวเช้าเกือบทุกช่อง วันไหนไม่มี ถือว่าผิดปกติมากมาย
คุณธรรม จริยธรรม จากงานวิจัย
จากรายงานการสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมในประเทศไทยและต่างประเทศ ของ ผศ.ดร.ดุจเดือน พันธุนาวิน (2550) [1]
ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรมหาชน)
โดยเล่าเรื่องของ พัฒนาการทางจริยธรรม (Moral Development)
ตามทฤษฎีของ Kohlberg (1969) ในหน้า 9 ว่า ระดับจริยธรรม และอายุมี 3 ระดับ
แต่ละระดับมี 2 ขั้นของการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม ดังนี้
    ระดับที่ 1 ก่อนกฎเกณฑ์ อายุ 2 – 10 ขวบ
      - ขั้นที่ 1 หลักการหลบหลีกการถูกลงโทษ (คล้ายกับคำว่า หิริโอตัปปะ)
      สมัยเด็ก แค่เด็กไม่ร้องไห้เอาแต่ใจ เพราะกลัวถูกตีก็เรียกว่ามีจริยธรรมได้
      - ขั้นที่ 2 หลักการแสวงหารางวัล
      สมัยเด็ก เด็กคนไหนเชื่อฟัง อาบน้ำกินข้าว เพราะหวังขนม เรียกว่ามีจริยธรรมได้
    ระดับที่ 2 ตามกฎเกณฑ์ อายุ 10 – 16 ปี
      - ขั้นที่ 3 หลักการทําตามความเห็นชอบของผู้อื่น
      สมัยแรกรุ่น ใครว่าสิ่งไหนดี แล้วทำตาม เรียกว่ามีจริยธรรมได้
      - ขั้นที่ 4 หลักการทําตามหน้าที่และกฎข้อบังคับในสังคม
      สมัยแรกรุ่น แต่ชุดนักเรียน ไม่ไว้ผมยาว ไม่เข้าเรียนสาย เรียกว่ามีจริยธรรมได้
    ระดับที่ 3 เหนือกฎเกณฑ์ อายุ 16 ปี ขึ้นไป
      - ขั้นที่ 5 หลักการทําตามคํามั่นสัญญา
      สมัยผู้ใหญ่ ไม่โกหก ไม่นอกใจ ไม่หักหลัง เรียกว่ามีจริยธรรมได้
      - ขั้นที่ 6 หลักการยึดอุดมคติสากล
      สมัยผู้ใหญ่ คิดดี พูดดี ทำดี อย่างที่สังคมต้องการ เรียกว่ามีจริยธรรมได้
ต่อมา Lawrence Kohlberg ได้เขียนบทความถึงขั้นที่สูงกว่าไว้หลายบทความ
แล้วนักวิชาการได้ให้ความสําคัญกับขั้นที่ 7 มากขึ้น (Lapsley, 1996)
โดยเรียกเหตุผลเชิงจริยธรรมในขั้นนี้ว่า "Ultimate faith"
หรือ ขั้น "ความเชื่อศรัทธาขั้นปรมัตถ์ในความเกี่ยวเนื่องของชีวิต"
เป็นการที่บุคคลกระทําหรือไม่กระทําสิ่งใด โดยคํานึงถึงความเกี่ยวเนื่องของผลการกระทํา
ทั้งในเชิงของสถานที่ และ/หรือ เวลา
ซึ่งใกล้เคียงกับหลักทางพุทธศาสนาเกี่ยวกับ การเวียนว่ายตายเกิด (อเนกชาติ)
---
คนมีจริยธรรมถึงขั้น 7 นี่ต้องดีโดยสมบูรณ์พร้อมเผื่อชาติหน้า ถึงจะเรียกว่ามีจริยธรรมในขั้นนี้
http://www.moralcenter.or.th/oldweb/web/moral/newweb/th/research/
อบายมุข 6 ที่นำไปสู่ความเสื่อม
อบายมุข 6
คือ วิถีชีวิต 6 อย่าง แห่งความโลภ และความหลง ที่ทำให้เกิดความเสื่อม ความฉิบหายของชีวิต
#ที่มา : บทความอบายมุข
ประกอบด้วย
1. ดื่มน้ำเมา (Addiction to intoxicants) คือ พฤติกรรมชอบดื่มสุราเป็นนิจ
2. เที่ยวกลางคืน (Roaming the streets at unseemly hours) คือ พฤติกรรมชอบเที่ยวกลางคืนเป็นนิจ
3. เที่ยวดูการละเล่น (Frequenting shows) คือ พฤติกรรมชอบเที่ยวดูการแสดงหรือการละเล่นเป็นนิจ
4. เล่นการพนัน (Indulgence in gambling) คือ พฤติกรรมชอบเล่นการพนันเป็นนิจ
5. คบคนชั่วเป็นมิตร (Association with bad companions) คือ พฤติกรรมชอบคบหาคนพาลเป็นนิจ
6. เกียจคร้านการงาน (Habit of idleness) คือ พฤติกรรมชอบเกียจคร้านในการงานเป็นนิจ
มีกรณีศึกษา ชวนคิด เรื่อง /games ที่อาจทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ และขึ้นกับแต่ละบุคคล
โปรดระวัง "หลงใหลในการละเล่น เพราะการละเล่นเป็นสิ่งยั่วยวนใจ"
ปรัชญา คือ ความรู้อันประเสริฐ หรือ หลักแห่งความจริง ปรัชญา (Philosophy) มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง ความรู้อันประเสริญ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปรัชญา แปลว่า วิชาว่าด้วยหลักแห่งความรู้และหลักแห่งความจริง ซึ่งความรู้ทั้งหมดของมนุษยชาติ อาจแบ่งได้สองเรื่องใหญ่ คือ เรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ เช่น ฟิสิกส์ และ เรื่องเกี่ยวกับสังคม เช่น เศรษฐศาสตร์
ในภาพยนตร์เรื่อง ปรัชญาโรแมนติกอันไร้เหตุผล หรือ เออเรชันนัล แมน หรือ ผู้ชายที่ไม่สมเหตุสมผล (Irrational man) พูดถึง อาจารย์มหาวิทยาลัย ที่เป็นนักเขียนทางปรัชญาชื่อดัง รับเป็นอาจารย์สอนหนังสือ แล้วพบปัญหาในเมืองที่ผู้คน ต่างเห็นว่าไม่ยุติธรรม จากผู้ตัดสินความเป็นธรรม เมื่อไม่ทางออกในสังคม อาจารย์ท่านนี้ จึงเข้าแก้ปัญหา ด้วยวิธีที่ทุกคนคาดไม่ถึง แต่วิธีที่ใช้ ไม่สมเหตุสมผล ทุกอย่าราบรื่น และพอใจระยะแรก จนเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ตามมา ดังนั้น อย่าเชื่อว่าคนเคยมีเหตุผล จะทำสิ่งสมเหตุสมผลจนวันตาย
ในชีวิตจริง
คนร้ายที่สุด อาจเป็น คนที่รักที่สุด
พบในข่าว บ่อยมาก
ดังนั้นอย่าไว้ใจใคร แม้แต่ตัวเอง
ความดีพื้นฐานสากล 5 ประการ พระภาวนาวิริยคุณ (2555) ได้กล่าวว่า GM5 (Global Merit 5) หรือ ความดีพื้นฐานสากล
มี 5 ประการ มีดังนี้
1. ความสะอาด หมายถึง ปราศจากสิ่งแปลกปลอม อันจะทำให้เสียคุณภาพ
มี 3 ระดับคือ สะอาดกาย สะอาดวาจา และสะอาดใจ
2. ความมีระเบียบ หมายถึง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถูกลำดับ เป็นแถว
เป็นแนว ไม่ขัดขวาง ไม่สับสน
มี 3 ทาง คือ ระเบียบทางร่างกาย ระเบียบทางความคิด ระเบียบทางคำพูด
3. ความสุภาพนุ่มนวล หมายถึง การมีกิริยา วาจา การแสดงออกอย่างสุภาพนุ่มนวล
ไม่รุนแรง หยาบคาย ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกในทางที่ไม่ดี
4. การตรงต่อเวลา หมายถึง การทำงาน การทำกิจวัตร และกิจกรรมตรงตามเวลาอย่างเหมาะสม
5. การมีสมาธิ หมายถึง การที่จิตใจจดจ่อ มีสติ สามารถควบคุมจิตใจ อารมณ์ให้ตั้งมั่นเป็นหนึ่ง
เอกสารอ้างอิง
http://dmc.tv/a16620
http://www.vstarproject.com/ .. /4_gm5_detail.pdf
http://www.udesa2.go.th/jai/Improving/ .. /download_0048.pdf
http://reo06.mnre.go.th/newweb/images/file/report2557/pranom57.pdf
http://www2.eduzones.com/dakthay/130593

ขอเชิญส่งผลงานเข้าประกวด โครงการประกวดสื่อฟื้นฟูศีลธรรมโลก
หัวข้อ ดูดีด้วยความดีสากล (Universal goodness for good-looking)
ระดับอุดมศึกษา ประกวดสื่อ Animation ประกวดภาพวาด ประกวดงานเขียนเรื่องสั้น
http://www.vstarproject.com/vstarproject/apps/ .. /news.php?nId=197

รายงานการวิจัย เรื่องการศึกษาเปรียบเทียบเรื่องความดี : ศึกษาเฉพาะนิทานธรรมและนิทานชาวบ้าน
A Comparative Study of goodness : Cases of dhamma tales and folktales
โดย จริยา สมประสงค์ Chariya Somprasong
http://rc.nida.ac.th/%B9%D4%B4%E9%D2%A4%C7%D2%C1%B4%D5new.pdf

หนังสือ บ้าน-วัด-โรงเรียน ต้นแบบฟื้นฟูศิลธรรมโลก จำนวน 137 หน้า
พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.2553 โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตตชีโว)
http://www.kalyanamitra.org

ลีลาวดี วัชโรบล ได้นำเสนอผลการวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบและขั้นตอนของรูปแบบการเรียนการสอนทางไกล วิชาพระพุทธศาสนา
โดยบูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้ 4 MAT และทฤษฎีปลูกฝังนิสัย เพื่อพัฒนาเหตุผลเชิงจริยธรรมของนักเรียน ม.3 ในเขตกทม.
http://www.thaiedresearch.org
http://thaiall.blogspot.com/2014/07/5.html
การโกง คือ อะไร

นึกถึง อ่างขางโมเดล
โค่นข้อสอบครู
โดยอาจารย์อ๊อฟ
การโกง หมายถึง วิธีการที่ผิดศีลธรรม เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย โดยนัยทั่วไปเป็นการกระทำที่แหกกฎ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบในสถานการณ์แข่งขัน เช่น เกม กีฬา การพนัน การสอบ เป็นต้น (มนุษย์กับปลา)
การโกงทำให้ได้รับสิ่งตอบแทนสำหรับความสามารถ โดยวิธีการที่ไม่สุจริต การจำกัดความอย่างกว้างนี้รวมไปถึง การให้สินบน การเล่นพรรคเล่นพวก ความไม่ซื่อสัตย์ การเลือกที่รักมักที่ชัง และสถานการณ์อื่นใดที่ปัจเจกบุคคลพึงใจที่จะใช้เกณฑ์ที่ไม่เหมาะสม กฎที่ถูกละเมิดอาจปรากฏชัดแจ้ง หรืออาจมาจากจรรยาบรรณที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ศีลธรรม จริยธรรม และขนบธรรมเนียม ทำให้ลักษณะของการโกงเป็นกระบวนการเชิงจิตวิสัย
ตอนหนึ่งใน อนิเมะเรื่อง Classroom of the elite
เค้าเล่าเรื่อง เด็กเรียน คุณครู และนักกีฬาของโรงเรียน ที่ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมกีฬา ของโรงเรียนจนสอบตก 1) ถ้าโรงเรียนได้ประโยชน์ จากการมีนักเรียนเป็น ดาวรุ่ง ทางกีฬา หรือ ดนตรี ผลสอบของนักกีฬาอาจไม่ตก จากเหตุฝึกซ้อมหนักจนแบ่งเวลาไม่เหมาะสม 2) ถ้าทุกคนในห้องตั้งใจเรียนรู้ เพื่อให้มีความรู้ผ่านเกณฑ์วิชา แล้วเข้าวัดระดับความรู้ บางคนผ่าน บางคนไม่ผ่าน แต่นักกีฬา หรือ นักดนตรี ของโรงเรียน บางคนทุ่มเท แล้วไม่ผ่าน ก็มีแนวทางให้เปลี่ยนผ่านได้ตามดุลพินิจ 3) สรุปว่านี่เป็นเรื่องราวในหนัง ที่เด็ก ๆ มองครูและโรงเรียน มีเกณฑ์การให้ผ่านวิชา หากโรงเรียนได้ประโยชน์ .. จริงหรือ ?
พฤติกรรม ของ คนเรียนเก่ง
1. แบ่งเวลาเป็น (Time)
ถ้าอ้างว่าไม่ว่าง ต้องพักผ่อน รับจ๊อบ ส่งแฟน ไม่ชอบ คงแย่
2. ทบทวน (Review)
ถ้าทบทวนหลังเรียน และเตรียมก่อนไปเรียน ทำให้เข้าใจได้เร็ว และไม่ลืม
3. ไม่เดี๋ยวก่อน (Now)
ถ้าคิดว่าไม่ถึงเวลายันวันสุดท้าย ก็จะเป็นงานขอไปที ที่อาจไม่ได้ไปต่อ
4. ไม่เรียนอัดก่อนสอบ (Usually)
ถ้ามีเวลาแล้วไม่เรียน ไม่อ่าน ไม่ฝึก ทำแบบไฟลนก้น มักจบไม่สวย
5. ฝึกทำแบบฝึกหัด (Practice)
ถ้าไม่ฝึกหัด ก็ไม่เชี่ยวชาญ เจอปัญหาก็แก้ไม่ได้ ท้อ แล้วว่าครูไม่สอน
6. มองเรื่องราวเป็น Mind map (Mind map)
ฝึกมองเรื่องราว และแยกเป็นเรื่องย่อย ค่อยทำค่อยแก้ไปทีละเรื่อง
7. ทำสรุปโน๊ตด้วยตนเอง (Short note)
ย่อเรื่องราวที่ต้องจำลงเป็นโน๊ตด้วยตนเอง จะช่วยปะต่อสู่ความทรงจำง่ายขึ้น
8. ติวเป็นกลุ่ม ผลัดกันถามตอบ (Group)
อ่านคนเดียว อาจมองข้ามบางเรื่อง ช่วยกันตั้งคำถามจะเก็บประเด็นได้กว้างขึ้น
9. มีความเชื่อว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น (Believe)
อย่าท้อ เพราะ "ท้อมีไว้ให้ลิงถือ" อย่าละความพยายาม ถ้ายังไม่ได้เริ่มต้น
10. เวลากินก็กิน เวลานอนก็นอน (Relax)
กินให้อิ่ม นอนให้พอ อย่าอดนอนทั้งคืน เพื่อไปสอบเช้าวันรุ่งขึ้น
อ้างอิงจาก mthai.com

Mark Zuckerberg
#2 พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 + 2560
จริยธรรมทางเทคโนโลยีของบุคคลและองค์กร
จริยธรรมทางเทคโนโลยีของบุคคลและองค์กร
The Ten Commandments of Computer Ethics
รศ.ยืน ภู่วรวรรณ ได้กล่าวถึงบัญญัติ 10 ประการ
ที่นำเสนอโดย Computer Ethics Institute in 1992 (2535)
ซึ่งเป็นจรรยาบรรณ หรือจริยธรรมที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือไว้ ดังนี้
1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
(Thou shalt not use a computer in ways that may harm people)
2. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของผู้อื่น
(Thou shalt not interfere with other people's computer work)
3. ต้องไม่สอดเเนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต
(Thou shalt not snoop around in other people's computer files)
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
(Thou shalt not use a computer to steal)
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
(Thou shalt not use a computer to bear false witness)
6. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์คัดลอกหรือใช้โปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
(Thou shalt not copy or use proprietary software for which you have not paid)
7. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
(Thou shalt not use other people's computer resources without authorization or proper compensation)
8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
(Thou shalt not appropriate other people's intellectual output)
9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน
(Thou shalt think about the social consequences of the program you are writing or the system you are designing)
10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฏ ระเบียบ กติกา และมีมารยาทของหน่วยงาน สถาบันหรือสังคมนั้น ๆ
(Thou shalt always use a computer in ways that ensure consideration and respect for your fellow humans)
ที่มา : หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศเเละการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
http://en.wikipedia.org/wiki/Ten_Commandments_of_Computer_Ethics
http://www.slideshare.net/maejocs100/slide-7144518
http://chaiwan2.igetweb.com/index.php?mo=59&action=page&id=499722
Thou shalt เป็นคำโบราณ แปลว่า ตัวเจ้า-จงทำ (you should/ought to)
สำหรับจริยธรรมพื้นฐานในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
อ้างอิงจาก คุณศิวัช กาญจนชุม (2545 : 156) นำมาปรับใหม่ เป็นดังนี้ [5]p.172
1. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น หรือละเมินผู้อื่น
2. ไม่ทำการรบกวนการทำงานของผู้อื่น
3. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
4. ไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
5. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6. ไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7. ไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต
8. ไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
9. ไม่กระทำสิ่งที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคม
10. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่มีมารยาท โดยไม่เคารพต่อกฎและกติกา
จริยธรรมทางวิชาชีพคอมพิวเตอร์ [5]p.171 จริยธรรมทางวิชาชีพคอมพิวเตอร์ ของสมาคม ACM (The Association for Computing Machinery)
กำหนดไว้ 7 ประการ ดังนี้ (ปทีป เมธาคุณวุฒิ, 2544 : 42-44)
1. ทำเพื่อสังคมและบุคคล
2. ไม่ทำร้ายผู้อื่น
3. ยุติธรรม และไม่ทำการใด ๆ ที่เป็นการกีดกัน
4. ซื่อสัตย์และเป็นที่ไว้วางใจ
5. ให้การยอมรับสิทธิอื่นในทรัพย์สินทางปัญญา
6. ให้การยอมรับในสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
7. การเก็บรักษาความลับ
คุณธรรมจริยธรรมสำหรับนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการกำหนดพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมสำหรับนักศึกษาที่ต้องการส่งเสริมไว้เป็นลายลักษณ์อักษร (ตัวบ่งชี้ สกอ.2.8 ระดับคามสำเร็จของการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมที่จัดให้กับนักศึกษา ข้อมูลและแนวปฏิบัติ ดังนี้
1. มีการกำหนดไว้ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2547 ดังนี้

- นักศึกษาต้องปฏิบัติตามระเบียบและรักษาวินัยโดยเคร่งครัด
- นักศึกษาต้องรักษาความสามัคคีและประพฤติตนเป็นสุภาพชน
- นักศึกษาต้องเชื่อฟังและเคารพผู้สอนรวมถึงปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำตักเตือนของเจ้าหน้าที่
- นักศึกษาต้องปฏิบัติตามระเบียบการสอบและไม่ทุจริตการสอบ
- นักศึกษาต้องแต่งกายสุภาพเหมาะสมแก่กาลเทศะ หรือแต่งเครื่องแบบนักศึกษา
- นักศึกษาต้องไม่กระทำผิดต่อกฎหมาย ไม่ก่อเหตุวุ่นวายร้ายแรงหรือประพฤติมิชอบ อันเป็นการเสื่อมเสียร้ายแรงแก่มหาวิทยาลัย
- นักศึกษาต้องไม่เล่นการพนันหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมหาวิทยาลัย
- นักศึกษาต้องไม่ฉ้อโกง ลักทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

2. มีการกำหนดกรอบคุณลักษณะบัณฑิตอันพึงประสงค์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตามมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 6/2552 วันที่ 22 มิถุนายน 2552
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมจริยธรรม
2.1 มีธรรมประจำจิต
- มีความซื่อสัตย์และเป็นธรรม
- มีวินัยและรู้จักกาลเทศะ
- มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
- มีน้ำใจและเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
- รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข
- มีจริยธรรมวิชาชีพและในการประกอบอาชีพ
2.2 มีความเป็นธรรมศาสตร์
- เคารพสิทธิผู้อื่นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
- กล้าทำ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องดีงามและเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมของสังคม
- ใช้สิทธิและเสรีภาพอย่างรับผิดชอบ
- มีจิตอาสาและรับผิดชอบต่อสังคม
- การมีหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตย

กรอบคุณลักษณะบัณฑิตอันพึงประสงค์ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(ได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 6/2552 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2552)

มีธรรมประจำจิต
• มีความซื่อสัตย์ และเป็นธรรม
• มีวินัย และรู้จักกาลเทศะ
• มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม
• มีน้ำใจ และเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
• รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข
• มีจริยธรรมวิชาชีพ และในการประกอบอาชีพ
มีความรู้
• มีความรู้ และทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษา
• มีความรู้ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง และรู้รอบเพื่อเชื่อมโยงกับสังคม
• มีความรู้ และทักษะในการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
มีความสามารถในการทำงาน
• การทำงานร่วมกับผู้อื่น
• ความสามารถในการจัดการ วิเคราะห์และแก้ปัญหา
• สามารถบูรณาการความรู้เพื่อใช้ในการทำงาน
• ความสามารถในการสื่อสาร
• วุฒิภาวะทางอารมณ์ ความสามารถในการปรับตัวและมีความอดทน
• ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
• ใฝ่รู้ ติดตามและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
• ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
• การคิดในเชิงบวก
• ความเป็นผู้นำ
ความเป็นธรรมศาสตร์
• เคารพสิทธิของผู้อื่นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
• กล้าทำ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องดีงามและเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมของสังคม
• การมีหน้าที่เป็นพลเพมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตย
• ธำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ

ข้อมูลจาก: งานพัฒนาหลักสูตรและบริหารงานศึกษา กองบริการการศึกษาฝ่ายวิชาการ (22 มิถุนายน 2552)
http://accounting.bus.tu.ac.th/ethic.html
จริยธรรมของหนังสือพิมพ์ #
มาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนด จริยธรรมของหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2510 และพบในหนังสือ "จริยธรรมสื่อมวลชน" ของ รศ.นงนุช ศิริโรจน์ (MC 463)
1. ความรับผิดชอบ (Responsibility) ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของปัจเจกชน สถาบัน ประเทศชาติ ศาสนา และราชบัลลังก์ (ตรงกับหลักพุทธศาสนาคือ กิจญาณ)
2. ความมีเสรีภาพ (Freedom) ได้แก่ เสรีภาพที่มีความรับผิดชอบกำกับ (ตรงกับหลักธรรมในพุทธสาสนาคือ ปวารณา หรือ ธรรมาธิปไตย)
3. ความเป็นไท (Independence) ได้แก่ ความไม่ตกเป็นทาสของใครทั้งกายและจิตใจ โดยอามิสสินจ้างอื่นใด(ตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนาคือ ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)
4. ความจริงใจ (Sincerity) ได้แก่ ความไม่มีเจตนาบิดเบือน ผิดพลาดต้องรีบแก้ไข (ตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ สัจจะ)
5. ความเที่ยงธรรม (Impartiality) ได้แก่ ความไม่ลำเอียง หรือความไม่เข้าใครออกใคร (ตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ ความไม่มีอคติ 4 ประการ หมายถึง "ฉันทาคติ" ลำเอียงเพราะรัก "โทสาคติ" ลำเอียงเพราะชัง "ภยาคติ" ลำเอียงเพราะกลัว "โมหาคติ" ลำเอียงเพราะหลง)
6. ความมีน้ำใจนักกีฬา (Fair Play) ได้แก่ การปฏิบัติดีงาม ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เว้นแต่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ (ตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ สุปฏิบัติ)
7. ความมีมารยาท (Decency) ได้แก่ การใช้ภาษาและภาพที่ไม่หยาบโลนและลามกอนาจาร หรือส่อไปในทางดังกล่าว (ตรงกับหลักพุทธศาสนาคือ โสเจยยะ หรืออาจารย์สมบัติ)
อกจากนี้ สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังได้ร่วมกันกำหนด จรรยาบรรณหนังสือพิมพ์ 7 ข้อ ดังนี้
1. การส่งเสริมและรักษาไว้ ซึ่งเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ เป็นภารกิจอันมีความสำคัญเหนืออื่นใดสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์
2. การเสนอข่าว ภาพ หรือการแสดงความคิดเห็น ต้องเป็นไปด้วยความสุภาพ สุจริต ปราศจากความมุ่งหวังในประโยชน์ส่วนตนหรืออามิสสินจ้างใด ๆ
3. การเสนอข่าว ต้องเสนอแต่ความจริง พึงละเว้นการต่อเติมเสริมแต่ง หากปรากฏว่าข่าวใด ๆ ไม่ตรงต่อความจริงต้องรีบแก้ไขโดยเร็ว
4. การที่จะให้ได้ข่าว ภาพ หรือข้อมูลอย่างใด ๆ มาเป็นของตน ต้องใช้วิธีการที่สุภาพและซื่อสัตย์
5. ต้องเคารพต่อความไว้วางใจที่ได้รับมอบหมายจากการปฏิบัติหน้าที่ในวิชาชีพของตน
6. ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยถือเอาสาธารณประโยชน์เป็นสำคัญ ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตน หรือหมู่คณะโดยมิชอบ
7. ต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการบั่นทอนเกียรติคุณของวิชาชีพหรือความสามัคคีของเพื่อนร่วมวิชาชีพ
บูลลี่ แสดงความก้าวร้าวต่อคนที่อ่อนแอกว่า บูลลี่ (Bully) คือ พฤติกรรมก้าวร้าวที่คนหรือกลุ่มคนที่ได้เปรียบกว่า กระทำต่อผู้ที่อ่อนแอกว่าอย่างต่อเนื่องซ้ำหลายครั้งในแบบคนพาล จนผู้ถูกกระทำรู้สึกแย่ เครียด เจ็บปวด ซึ่งการกระทำอาจใช้กำลัง ถ้อยคำ เหยียด แรงกดดันทางสังคม ริดรอนสิทธิ ละเมิดสิทธิ ในประเด็นที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เช่น 1) เพศ 2) รูปร่างหน้าตา 3) สีผิว 4) รสนิยม 5) เชื้อชาติ 6) ศาสนา 7) สถาบันการศึกษา 8) ฐานะ 9) ความสามารถ
ปรับทีวี 3 ช่องกรณีนำเสนอข่าวกราดยิง 26 ก.พ.2563 พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กสทช. เปิดผลประชุม กสทช. กรณีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการออกอากาศเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา ในรายการข่าวทางช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลจำนวน 3 ช่อง ที่อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสม โดยมีคำสั่งปรับทางปกครองแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการฯ 250000 บาทจำนวน 1 ราย และ 500000 บาทจำนวน 2 ราย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 59 (3) ประกอบมาตรา 57 (2) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
มาตรา 57 (2) โทษปรับทางปกครองชั้น 2 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาท แต่ไม่เกินห้าแสนบาท
มาตรา 59 (3) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา 34 วรรคสี่ หรือมาตรา 37 วรรคหนึ่ง
มาตรา 34 วรรคสี่ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าผังรายการไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ให้คณะกรรมการสั่้งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขผังรายการให้ถูกต้องได้ เมื่อคณะกรรมการเห็นชอบกับผังรายการที่ได้แก้ไขแล้ว ให้ผู้รับใบอนุญาตเริ่มให้บริการกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ตามฝังรายการที่คณะกรรมการเห็นชอบแล้วได้
มาตรา 37 วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้างแรง
khaosod.co.th
มาตรฐานการเรียนรู้กลาง ตาม มคอ.2
ตัวอย่างมาตรฐานการเรียนรู้กลาง หลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
1.คุณธรรม จริยธรรม (Morality and Ethics) 1) ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต
2) มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
3) มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ
4) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
5) เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม
6) สามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ต่อบุคคลองค์กรและสังคม
7) มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
2.ความรู้ (Knowledge development)
1) มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาที่ศึกษา
2) สามารถวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจและอธิบายความต้องการทางคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
3) สามารถวิเคราะห์ ออกแบบ ติดตั้ง ปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ให้ตรงตามข้อกำหนด
4) สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและวิวัฒนาการคอมพิวเตอร์
5) รู้ เข้าใจและสนใจพัฒนาความรู้ ความชำนาญทางคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง
6) มีความรู้ในแนวกว้างของสาขาวิชาที่ศึกษาเพื่อให้เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ ๆ
7) มีประสบการณ์ในการพัฒนาและ/หรือการประยุกต์ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้จริง
8) สามารถบูรณาการความรู้ในที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.ทักษะทางปัญญา (Intellectual development)
1) คิดอย่างมีวิจารณญาณและอย่างเป็นระบบ
2) สามารถสืบค้น ตีความ และประเมินสารสนเทศ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์
3) สามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ
4) สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะกับการแก้ไขปัญหาทางคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม
4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (Interpersonal relationship and responsibility)
1) สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนหลากหลายและสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
2) สามารถให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่การแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ในกลุ่มทั้งในบทบาทของผู้นำ หรือในบทบาทของผู้ร่วมทีมทำงาน
3) สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาชี้นำสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
4) มีความรับผิดชอบในการกระทำของตนเองและรับผิดชอบงานในกลุ่ม
5) สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม รวมทั้งแสดงจุดยืนอย่างพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม
6) มีความรับผิดชอบการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเองและทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Mathematical analytical thinking, communication skills, and information technology skills)
1) มีทักษะในการใช้เครื่องมือที่จำเป็นที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อการทำงานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
2) สามารถแนะนำประเด็นการแก้ไขปัญหาโดยใช้สารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ต่อปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างสร้างสรรค์
3) สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทั้งปากเปล่าและการเขียน เลือกใช้รูปแบบของสื่อการนำเสนออย่างเหมาะสม
4) สามารถใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีสื่อสารอย่างเหมาะสม
#3 กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร
ทรัพย์สินทางปัญญา
รัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property) หมายถึง สิทธิทางกฎหมายที่ให้เจ้าของสิทธิ หรือ "ผู้ทรงสิทธิ" มีอยู่เหนือสิ่งที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ทางปัญญาของมนุษย์ โดยอาจแบ่งทรัพย์สินทางปัญญาออกได้ 2 ประเภทหลัก คือ (1) ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ความคิดสร้างสรรค์นี้อาจเป็นความคิดในการประดิษฐ์คิดค้น ซึ่งอาจจะเป็นกระบวนการหรือเทคนิคในการผลิตที่ได้ปรับปรุงหรือคิดค้นขึ้นใหม่ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมที่เป็นองค์ประกอบ และรูปร่างของตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องหมายการค้าหรือยี่ห้อ ชื่อและถิ่นที่อยู่ทางการค้า รวมถึงแหล่งกำเนิดและการป้องกันการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และ (2) ลิขสิทธิ์ (Copyright) หมายถึง สิทธิแต่เพียงผู้เดียวของผู้สร้างสรรค์ที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้นตามประเภทลิขสิทธิ์ที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ งานวรรณกรรม นาฎกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ ไม่ว่างานลักษณะดังกล่าวจะแสดงออกโดยวิธีหรือรูปแบบอย่างใด
อ่านเพิ่ม พรบ.ลิขสิทธิ์ 2537
ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม แบ่งออกได้หลายประเภท
(1) สิทธิบัตร (Patent)
(2) อนุสิทธิบัตร (Petty Patent)
(3) เครื่องหมายการค้า (Trade Mark)
(4) ความลับทางการค้า (Trade Secret)
(5) สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications)
(6) แบบผังภูมิของวงจรรวม (Layout - Design of Integrated Circuit)
(7) คุ้มครองพันธุ์พืช (Plant Variety Protection) [พรบ.]
(8) ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local Wisdom)
(9) ชื่อทางการค้า (Trade Name)
อแสดงความยินดีกับ อ.ชัญญานุช แซ่ตั้ง อาจารย์ประจำ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ #มหาวิทยาลัยเนชั่น ที่ได้ยื่นผลงานต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา และได้รับการออกอนุสิทธิบัตร สำหรับการประดิษฐ์ "สูตรผสมสีย้อมผ้าฝ้ายทอที่มีสารช่วยย้อมมีกำมะถัน เป็นองค์ประกอบหลักและกรรมวิธีการย้อมผ้าด้วยสูตรผสมสีย้อม" ออกให้ ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2563 ตามเลขคำขอ 1603000697 ซึ่งมีแนวทางสอดคล้องกับ คู่มือการคุ้มครองสิทธิ์งานสร้างสรรค์ และการจดลิขสิทธิ์ทางทรัพย์สินทางปัญญา ของมหาวิทยาลัยเนชั่น
สิทธิบัตร (Patent) คือ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ (Invention) หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Industrial Design) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และอนุสิทธิบัตร โดยผู้ทรงสิทธิบัตร หรือนุสิทธิบัตรมีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการแสวงหาผลประโยชน์จากการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรนั้น ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
อนุสิทธิบัตร (Petty Patent) คือ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์จะมีลักษณะคล้ายกันกับการประดิษฐ์ แต่เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่มีระดับการพัฒนาเทคโนโลยีไม่สูงมาก หรือเป็นการประดิษฐ์คิดค้นเพียงเล็กน้อย และมีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น #
ความลับทางการค้า คือ ข้อมูลการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไปหรือยังเข้าถึงไม่ได้ในหมู่บุคคล ซึ่งโดยปกติแล้วต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว โดยเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ในทางการค้าเนื่องจากการเป็นความลับและเป็น ข้อมูลที่เจ้าของหรือผู้มีหน้าที่ควบคุมความลับทางการค้าได้ใช้วิธีการที่ เหมาะสมรักษาไว้เป็นความลับ ตามปกติแล้วความลับทางการค้าจะได้รับความคุ้มครองอยู่ตราบเท่าที่ยังเป็น ความลับอยู่ เพราะฉะนั้นสิทธิของเจ้าของความลับทางการค้าจึงมีอยู่ตลอดไป หากความลับทางการค้านั้นยังไม่มีการเปิดเผย และความลับทางการค้าจะได้รับความคุ้มครองโดยไม่ต้องมีการจดทะเบียนแต่อย่าง ใด เจ้าของความลับทางการค้าสามารถเลือกที่จะแจ้งข้อมูลความลับทางการค้า คือ เจ้าของความลับทางการค้าอาจนำความลับทางการค้าของตนมาเป็นหลักประกันในการ กู้ยืมเงินกับธนาคารได้ #
http://th.wikipedia.org/wiki/ทรัพย์สินทางปัญญา
http://www.dt.mahidol.ac.th/../basic.pdf #
นิยามศัพท์ใน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 3 ฉบับ และมาตราที่น่าสนใจ
1. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ (บังคับใช้ 21 มี.ค.38) มี 78 มาตรา
ผู้สร้างสรรค์ หมายความว่า ผู้ทําหรือผู้ก่อให้เกิดงานสร้างสรรค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
ลิขสิทธิ์ หมายความว่า สิทธิแต่ผู้เดียวที่จะทําการใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทําขึ้น
วรรณกรรม หมายความว่า งานนิพนธ์ที่ทําขึ้นทุกชนิด เช่น หนังสือ จุลสาร สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์ ปาฐกถา เทศนา คําปราศรัย สุนทรพจน์และให้หมายความรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หมายความว่า คําสั่ง ชุดคําสั่ง หรือสิ่งอื่นใดที่นําไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทํางานหรือเพื่อให้ได้รับผลอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในลักษณะใด
นาฏกรรม หมายความว่า งานเกี่ยวกับการรํา การเต้น การทําท่า หรือการแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว และให้หมายความรวมถึงการแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย
ศิลปกรรม หมายความว่า งานอันมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้ 1) งานจิตรกรรม 2) งานประติมากรรม 3) งานภาพพิมพ์ 4) งานสถาปัตยกรรม 5) งานภาพถ่าย 6) งานภาพประกอบ 7) งานศิลปประยุกต์
(๑) งานจิตรกรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้น แสง สีหรือสิ่งอื่น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ลงบนวัสดุอย่างเดียวหรือหลายอย่าง
(๒) งานประติมากรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่เกี่ยวกับปริมาตรที่สัมผัสและจับต้องได้
(๓) งานภาพพิมพ์ ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพด้วยกรรมวิธีทางการพิมพ์และหมายความรวมถึงแม่พิมพ์หรือแบบพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย
(๔) งานสถาปัตยกรรม ได้แก่ งานออกแบบอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง งานออกแบบตกแต่งภายในหรือภายนอก ตลอดจนบริเวณของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือการสร้างสรรค์ หุ่นจําลองของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
(๕) งานภาพถ่าย ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพที่เกิดจากการใช้เครื่องมือบันทึกภาพ โดยให้แสงผ่านเลนซ์ไปยังฟิล์มหรือกระจก และล้างด้วยน้ํายาซึ่งมีสูตรเฉพาะ หรือด้วยกรรมวิธีใด ๆ อันทําให้เกิดภาพขึ้น หรือการบันทึกภาพโดยเครื่องมือหรือวิธีการอย่างอื่น
(๖) งานภาพประกอบ แผนที่ โครงสร้าง ภาพร่าง หรืองานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติ อันเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร์
(๗) งานศิลปประยุกต์ ได้แก่ งานที่นําเอางานตาม (๑) ถึง (๖) อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกันไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น นอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าวนั้น เช่น นําไปใช้สอย นําไปตกแต่งวัสดุหรือสิ่งของอันเป็นเครื่องใช้หรือนําไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า

ดนตรีกรรม หมายความว่า งานเกี่ยวกับเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อบรรเลงหรือขับร้องไม่ว่าจะมีทํานองและคําร้องหรือมีทํานองอย่างเดียว และให้หมายความรวมถึงโน้ตเพลงหรือแผนภูมิ เพลงที่ได้แยกและเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
โสตทัศนวัสดุ หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลําดับของภาพโดยบันทึกลงในวัสดุ ไม่ว่าจะมีลักษณะอย่างใด อันสามารถที่จะนํามาเล่นซ้ําได้อีก โดยใช้เครื่องมือที่จําเป็นสําหรับการใช้วัสดุนั้น และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบงานนั้นด้วย ถ้ามี
ภาพยนตร์ หมายความว่า โสตทัศนวัสดุอันประกอบด้วยลําดับของภาพ ซึ่งสามารถนําออกฉายต่อเนื่องได้อย่างภาพยนตร์หรือสามารถบันทึกลงบนวัสดุอื่น เพื่อนําออกฉายต่อเนื่องได้อย่างภาพยนตร์และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์นั้นด้วย ถ้ามี
สิ่งบันทึกเสียง หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลําดับของเสียงดนตรี เสียงการแสดง หรือเสียงอื่นใด โดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะใด ๆ อันสามารถที่จะนํามาเล่นซ้ําได้ อีกโดยใช้เครื่องมือที่จําเป็นสําหรับการใช้วัสดุนั้น แต่ทั้งนี้มิให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์หรือเสียงประกอบโสตทัศนวัสดุอย่างอื่น
นักแสดง หมายความว่า ผู้แสดง นักดนตรีนักร้อง นักเต้น นักรํา และผู้ซึ่งแสดงท่าทาง ร้อง กล่าว พากย์แสดงตามบทหรือในลักษณะอื่นใด
งานแพร่เสียงแพร่ภาพ หมายความว่า งานที่นําออกสู่สาธารณชนโดยการแพร่เสียงทางวิทยุกระจายเสียง การแพร่เสียงและหรือภาพทางวิทยุโทรทัศน์ หรือโดยวิธีอย่างอื่นอันคล้ายคลึงกัน
ทําซ้ำ หมายความรวมถึง คัดลอกไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ เลียนแบบ ทําสําเนา ทําแม่พิมพ์บันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกเสียงและภาพ จากต้นฉบับ จากสําเนา หรือจากการโฆษณาในส่วนอันเป็นสาระสําคัญ ทั้งนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน สําหรับในส่วนที่เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้หมายความถึง คัดลอกหรือทําสําเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากสื่อบันทึกใด ไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ในส่วนอันเป็นสาระสําคัญ โดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทํางานขึ้นใหม่ ทั้งนี้ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน
เผยแพร่ต่อสาธารณชน หมายความว่า ทําให้ปรากฏต่อสาธารณชน โดยการแสดงการบรรยาย การสวด การบรรเลง การทําให้ปรากฏด้วยเสียงและหรือภาพ การก่อสร้าง การจําหน่าย หรือโดยวิธีอื่นใดซึ่งงานที่ได้จัดทําขึ้น
การโฆษณา หมายความว่า การนําสําเนาจําลองของงานไม่ว่าในรูปหรือลักษณะอย่างใดที่ทําขึ้นโดยความยินยอมของผู้สร้างสรรค์ออกจําหน่าย โดยสําเนาจําลองนั้นมีปรากฏต่อสาธารณชนเป็นจํานวนมากพอสมควรตามสภาพของงานนั้น แต่ทั้งนี้ไม่หมายความรวมถึง การแสดง หรือการทําให้ปรากฏซึ่งนาฏกรรม ดนตรีกรรม หรือภาพยนตร์การบรรยายหรือการปาฐกถา ซึ่งวรรณกรรม การแพร่เสียงแพร่ภาพเกี่ยวกับงานใด การนําศิลปกรรมออกแสดงและการก่อสร้างงานสถาปัตยกรรม
2. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๘ (บังคับใช้ 4 ส.ค.58) มี 15 มาตรา
ข้อมูลการบริหารสิทธิ หมายความว่า ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงผู้สร้างสรรค์ งานสร้างสรรค์ นักแสดง การแสดง เจ้าของลิขสิทธิ์ หรือระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์ ตลอดจนตัวเลขหรือรหัสแทนข้อมูลดังกล่าว โดยข้อมูลเช่นว่านี้ติดอยู่หรือปรากฏเกี่ยวข้องกับงานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิ่งบันทึกการแสดง
มาตรการทางเทคโนโลยี หมายความว่า เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการทําซ้ำหรือควบคุมการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิ่งบันทึกการแสดง โดยเทคโนโลยีเช่นว่านี้ได้นํามาใช้กับงานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิ่งบันทึกการแสดงนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
การหลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยี หมายความว่า การกระทําด้วยประการใด ๆ ที่ทําให้มาตรการทางเทคโนโลยีไม่เกิดผล
มาตรา ๑๒ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๗๕ แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"มาตรา ๗๕ บรรดาสิ่งที่ได้ทําขึ้นหรือนําเข้ามาในราชอาณาจักรอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิของนักแสดง และสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ริบเสียทั้งสิ้น หรือในกรณีที่ศาลเห็นสมควร ศาลอาจสั่งให้ทําให้สิ่งนั้นใช้ไม่ได้หรือจะสั่งทําลายสิ่งนั้นก็ได้ โดยให้ผู้กระทํา ละเมิดเสียค่าใช้จ่ายในการนั้น"
3. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๘ (บังคับใช้ 6 เม.ย.58) มี 5 มาตรา
มาตรา ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
"มาตรา ๒๘/๑ การทําซ้ำโดยการบันทึกเสียงหรือภาพหรือทั้งเสียงและภาพจากภาพยนตร์ อันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ ในโรงภาพยนตร์ตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วน โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ในระหว่างการฉายในโรงภาพยนตร์ ให้ถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และมิให้นํามาตรา ๓๒ วรรคสอง (๒) มาใช้บังคับ"
มาตรา ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๙) ของวรรคสองของมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
"(๙) ทําซ้ำ หรือดัดแปลง เพื่อประโยชน์ของคนพิการที่ไม่สามารถเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ อันเนื่องมาจากความบกพร่องทางการเห็น การได้ยิน สติปัญญา หรือการเรียนรู้ หรือความบกพร่องอื่น ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง โดยต้องไม่เป็นการกระทําเพื่อหากําไร ทั้งนี้ รูปแบบของการทําซ้ำหรือดัดแปลง ตามความจําเป็นของคนพิการและองค์กรผู้จัดทํารวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการดําเนินการเพื่อทำซ้ำ หรือดัดแปลงให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา"
ซึ่งมาตรา ๓๒ ในพรบ. ๒๕๓๗ อยู่ใน ส่วนที่ ๖ ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
ระบบรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์และให้บริการข้อมูลลิขสิทธิ์ ผู้ประกอบการยุคใหม่ มักเข้าใจ และพัฒนาผลงานในองค์กรขึ้นมา อาจเป็น งานนวัตกรรม งานพัฒนา งานสร้างสรรค์ งานลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า เป็นต้น เพื่อปกป้องสิทธิ์ต่อผลงานที่สมาชิกในองค์กรเป็นผู้สร้างสรรค์ ตามวัตถุประสงค์ขององค์กรนั้น จึงมักจะพิจารณาในคณะกรรมการ เพื่อส่งผลงานไปจดลิขสิทธิ์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา
อกจากลิขสิทธิ์แล้ว ยังมีบริการรับเรื่องผลงานอีกหลายแบบ อาทิ เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ความลับทางการค้า แบบผังภูมิของวงจรรวม
รณีตัวอย่าง ยื่นผลงานที่เป็นงานวรรณกรรม ประเภทงานนิพนธ์ ที่ประสงค์จดลิขสิทธิ์ ตามแบบฟอร์ม ลข.01 สามารถยื่นเรื่องขอจดได้ที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ถ้ามั่นใจว่า เขียนเอง และไม่ประสงค์ให้ใครอ้างสิทธิ์ว่าเป็นผลงานของเขา และนำไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ก็ควรยืนเรื่องจดลิขสิทธิ์ด้วยตนเอง แต่ถ้าไม่สะดวกก็มอบอำนาจให้ผู้แทนไปดำเนินเรื่องยื่นเอกสาร ซึ่งหลายองค์กรมีหน่วยงานสนับสนุนช่วยดำเนินการยื่นเอกสารให้จนจบกระบวนการ
ขั้นตอนการยื่นจดลิขสิทธิ์ - /mis/mis19.htm
ความหมายของกฎหมาย
กรณีตัวอย่าง .. การทำผิดกฎหมาย
เรียนแบบ เสก ยิงปืนขึ้นฟ้า
สรยุทธ คดีบ.ไร่ส้ม ยืนโทษ-13 ปี
หนอ อ้างเป็นตำรวจ จับผู้ร้าย

Stop drink

ผู้เรียบเรียง รติกร เจือกโว้น
ใน http://wiki.kpi.ac.th

ประเด็นที่สังคมสนใจ ขายได้
กฎหมาย (Law) ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง กฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น หรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม หรือเพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ
การนิยามความหมายจะแปรเปลี่ยนไปตามแนวความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกัน ตามลักษณะของสังคมและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งความต้องการของประชาชนในสังคมนั้น ๆ ทั้งนี้ จากความหมายของกฎหมายข้างต้น สามารถ จำแนกลักษณะของกฎหมายได้ 4 ประการ คือ
1. กฎหมายต้องมีลักษณะเป็นกฎเกณฑ์ หมายความว่า กฎหมายต้องเป็นข้อบังคับที่เป็นมาตรฐานที่ใช้วัดและใช้กำหนดความประพฤติของสมาชิกของสังคมได้ว่าถูกหรือผิด ทำได้หรือทำไม่ได้
2. กฎหมายต้องกำหนดความประพฤติของบุคคล ความประพฤติในที่นี้ ได้แก่ การเคลื่อนไหวหรือไม่เคลื่อนไหวร่างกายภายใต้การควบคุมของจิตใจ ซึ่งความประพฤติของมนุษย์ที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายนั้น ต้องประกอบด้วยเงื่อนไข 2 ประการ คือ ต้องมีการเคลื่อนไหวหรือไม่เคลื่อนไหวร่างกาย และต้องกระทำภายใต้การควบคุมของจิตใจ
3. กฎหมายต้องมีสภาพบังคับ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ กฎหมายจะมีสภาพบังคับเพื่อให้มนุษย์จำต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์นั้น โดยสภาพบังคับของกฎหมายมีทั้งสภาพบังคับที่เป็นผลร้ายและสภาพบังคับที่เป็นผลดี
4. กฎหมายต้องมีกระบวนการที่แน่นอน เนื่องจากปัจจุบันการบังคับใช้กฎหมายต้องกระทำโดยรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผ่านองค์กรต่าง ๆ เช่น ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ เป็นต้น การบังคับใช้กฎหมายจึงต้องมีกระบวนการที่แน่นอน
ที่มาของกฎหมาย
ที่มาของกฎหมายหรือบ่อเกิดของกฎหมาย หมายถึง รูปแบบการแสดงออกซึ่งกฎหมาย สำหรับกฎหมายไทยซึ่งใช้ระบบกฎหมายซีวิลลอว์ (civil law) กฎหมายมีที่มา 3 ประการ คือ
1. กฎหมายลายลักษณ์อักษร ได้แก่ กฎหมายที่รัฐได้ตราขึ้นไว้เป็นข้อบังคับกำหนดความประพฤติของบุคคล และประกาศให้ราษฎรทราบ สำหรับประเทศไทย โดยปกติกฎหมายได้ประกาศให้ราษฎรทราบในราชกิจจานุเบกษา
2. จารีตประเพณี หมายถึง ทางปฏิบัติหน้าที่ประพฤติสืบต่อกันมาในสังคมหนึ่ง จนกลุ่มคนในสังคมนั้นมีความรู้สึกร่วมกันว่าจำเป็นต้องปฏิบัติตาม เพราะมีผลผูกพันในฐานะเป็นกฎหมาย จารีตประเพณีสามารถใช้ในฐานะบทสำรอง ถ้าไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษรบัญญัติไว้ก็นำมาใช้ได้ทันที ทั้งนี้ ในระบบกฎหมายไทยจารีตประเพณีมีทั้งที่บัญญัติไว้และมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลายลักษณ์อักษร
3. หลักกฎหมายทั่วไป หมายถึง หลักกฎหมายที่ยอมรับนับถือกันอยู่ทั่วไป ไม่เฉพาะในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น หลักกฎหมายทั่วไปจึงมีลักษณะกว้างกว่าหลักกฎหมายธรรมดา กว้างกว่าบทบัญญัติกฎหมาย เมื่อหลักกฎหมายทั่วไปเป็นหลักที่กว้างมาก ผู้ที่มีหน้าที่ในการค้นหาหลักกฎหมายทั่วไปก็คือผู้พิพากษาในฐานะศาลซึ่งจะค้นหาจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้บังคับในระบบกฎหมาย
บทลงโทษต่อผู้กระทำผิด ในต่างประเทศ หรือ ในภาพยนตร์ เป็นประเด็นที่น่าถาม นร. นศ. เกี่ยวกับบทลงโทษ ฟง หลิงหยวน
ว่า "ทำไมบางคน ชอบ แล้วแชร์"
1. ชอบที่เห็นการลงโทษมนุษย์ ที่บุกรุกพื้นที่หวงห้าม โทษคือประหาร
2. ชอบที่เห็นการลงโทษมนุษย์ ที่ทารุณสัตว์ โทษคือประหาร
3. ชอบที่เห็นการลงโทษมนุษย์ ที่ค้าซากสัตว์ โทษคือประหาร
4. ชอบที่เห็นการลงโทษมนุษย์ ที่พกปืนหลายกระบอกเข้าป่า โทษคือประหาร
5. ชอบความยุติธรรมแบบ Atlas Shrugged
6. อื่น ๆ หรือ เค้าคือแม่มด ที่ชาวบ้านไปยืนดูแม่มดที่ นักล่าจับมาเผากลางเมือง
#4 เครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้า ครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 มี 4 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่น บรีส มาม่า กระทิงแดง เป็นต้น
2. เครื่องหมายบริการ (Service Mark) คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมาย บริการของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมายของสายการบิน ธนาคาร โรงแรม เป็นต้น
3. เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับ สินค้าและบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้า หรือบริการนั้น เช่น เชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ ฮาลาล (Halal) เป็นต้น
4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือวิสาหกิจในกลุ่ม เดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชน เช่น ตราช้างของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด เป็นต้น
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ ตามพิธีสารกรุงมาดริด (Madrid Protocol)
ปัจจุบันผู้ประกอบการค้า ได้ใช้เครื่องหมายการค้าเป็นเครื่องมือนำทางการค้า ทั้งภายในประเทศและการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เจ้าของเครื่องหมายการค้าจึงมีความจำเป็นต้องจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองสิทธิในประเทศต่าง ๆ ก่อนส่งสินค้าไปจำหน่าย เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้า และมิให้ผู้ใดนำเครื่องหมายการค้าของตนไปจดทะเบียนในต่างประเทศโดยมิได้เป็นเจ้าของ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีนโยบายในการส่งเสริมการให้บริการขอรับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศด้วยความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการศึกษาแนวทางการเข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด (Madrid Protocol)
หากประเทศไทย เข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด ผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกของไทยก็จะได้รับประโยชน์ที่จะสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อขอรับความคุ้มครองในประเทศต่าง ๆ ได้ หลายประเทศในคราวเดียวกัน โดยยื่นคำขอจดทะเบียนเพียงคำขอเดียว ใช้เพียงภาษาเดียว(อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือสเปน) และเสียค่าธรรมเนียมเพียงครั้งเดียว ซึ่งก็จะทำให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วในการยื่นคำขอจดทะเบียน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย
ขั้นตอนการจดทะเบียน
การยื่นคำขอ
ให้ยื่นต่อสำนักงานระหว่างประเทศ (International Bureau) ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) โดยยื่นผ่านสำนักงานทะเบียนต้นกำเนิดของประเทศผู้ขอ ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบและรับรองว่าเครื่องหมายที่ยื่น สินค้าและ/หรือบริการที่ระบุ เหมือนกับคำขอรากฐาน (Basic Application) หรือทะเบียนรากฐาน (Basic Registration)
คำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จะนำไปยื่นขอจดทะเบียนระหว่างประเทศตามพิธีสารกรุงมาดริดได้นั้น ต้องเป็นคำขอที่มีการยื่นขอจดทะเบียน หรือได้รับการจดทะเบียนไว้แล้วในประเทศต้นกำเนิด
การจดทะเบียน การจดทะเบียนแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ
1. ขั้นตอนระหว่างประเทศ
เมื่อสำนักงานระหว่างประเทศได้รับคำขอจดทะเบียน จะดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น (Formal Examination) ในเรื่องความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของพิธีสารกรุงมาดริดและกฎข้อบังคับพิธีสารกรุงมาดริด (Common Regulations) การระบุจำพวกและรายการสินค้าและ/หรือบริการ ว่าเป็นไปตาม Nice Classification หรือไม่ รวมทั้งการชำระค่าธรรมเนียม หากมีข้อบกพร่อง สำนักงานระหว่างประเทศจะแจ้งไปยังประเทศที่มีการยื่นคำขอและผู้ยื่นคำขอ ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำขอจะต้องแก้ไขภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถือว่าละทิ้งคำขอ
2. ขั้นตอนในประเทศ
เมื่อประเทศภาคีที่ผู้ยื่นคำขอประสงค์จะได้รับความคุ้มครองได้รับคำขอแล้ว จะดำเนินการตรวจสอบคำขอดังกล่าวตามขั้นตอนปกติที่ใช้สำหรับการตรวจสอบคำขอที่ยื่นในประเทศ โดยจะตรวจสอบเนื้อหาสาระ (Substantive Examination) โดยตรวจสอบตามกฎหมายภายในของตน เช่น ตรวจสอบความเหมือนคล้าย ลักษณะบ่งเฉพาะหรือลักษณะต้องห้าม เป็นต้น หากมีข้อบกพร่องต้องดำเนินการแก้ไขตามกฎหมายภายในของประเทศนั้น ๆ
หากมีเหตุที่ต้องปฏิเสธการรับจดทะเบียน จะต้องแจ้งให้สำนักงานระหว่างประเทศทราบภายในกำหนด 12 เดือน หรือ 18 เดือน หรือหลังจากนั้น (กรณีมีคำร้องคัดค้าน)มิฉะนั้นจะถือว่าเครื่องหมายดังกล่าวได้รับการจดทะเบียนในประเทศที่ขอจดทะเบียนนั้นแล้ว
วันจดทะเบียน มี 2 กรณี ดังนี้
1) วันยื่นคำขอจดทะเบียนต่อสำนักงานทะเบียนต้นกำเนิด หากคำขอดังกล่าวถึงสำนักงานระหว่างประเทศภายใน 2 เดือน
2) หากเกิน 2 เดือน ให้ถือวันที่สำนักงานระหว่างประเทศได้รับคำขอเป็นวันจดทะเบียน
อายุความคุ้มครอง
10 ปี นับตั้งแต่วันรับจดทะเบียน และต่ออายุได้อีกคราวละ 10 ปี การต่ออายุสามารถต่ออายุได้ก่อนวันสิ้นอายุ 6 เดือน หรือหลังสิ้นอายุแล้วภายใน 6 เดือนก็ได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละ 50 ของค่าธรรมเนียมเบื้องต้น (Basic fee) ทั้งนี้ สามารถต่ออายุเฉพาะบางประเทศ หรือทุกประเทศที่ได้รับความคุ้มครองก็ได้ ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอจดทะเบียนระหว่างประเทศมี 4 ประเภท คือ
1) Basic fee เป็นค่าธรรมเนียมเบื้องต้นสำหรับการยื่นคำขอจดทะเบียนระหว่างประเทศหนึ่งคำขอ
- เครื่องหมายขาว-ดำ 653 สวิสฟรังค์
- เครื่องหมายที่เป็นสี 903 สวิสฟรังค์
2) Supplementary fee เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับจำพวกสินค้าและ/หรือบริการ ที่ยื่นขอจดทะเบียนเกิน 3 จำพวก โดยเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่จำพวกที่ 4 ขึ้นไป จำพวกละ 73 สวิสฟรังค์
3) Complementary fee เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับประเทศที่ระบุเพื่อขอจดทะเบียน ประเทศละ 73 สวิสฟรังค์
4) Individual fee เป็นค่าธรรมเนียมเฉพาะประเทศ
moc.go.th
ครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC) รีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC) เป็นองค์กรไม่แสวงกำไรที่สนับสนุนการใช้เนื้อหา โดยไม่ถูกจำกัดจากสัญญาอนุญาต สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์ จะเอื้อให้มีการใช้สื่อทั้งทางภาพ เสียง ข้อมูล โดยการแบ่งแยกสัญญาอนุญาตย่อยออกสำหรับการแจกจ่ายและการใช้ข้อมูล โดยการอ้างอิงถึงเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม ครีเอทีฟคอมมอนส์ก่อตั้งโดย ลอว์เรนซ์ เลสสิก ซึ่งปัจจุบันบริหารงานโดย โจอิจิ อิโต (จอย อิโต)
เป้าหมาย สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ ช่วยให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถให้สิทธิบางส่วนหรือทั้งหมดแก่สาธารณะ ในขณะที่ยังคงสงวนสิทธิอื่น ๆ ไว้ได้ โดยการใช้สัญญาอนุญาตหลายหลากรูปแบบ ซึ่งรวมถึง การยกให้เป็นสาธารณสมบัติหรือสัญญาอนุญาตแบบเปิดทั้งหลาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาลิขสิทธิ์ต่อการแบ่งปันสารสนเทศ
โครงการ ครีเอทีฟคอมมอนส์อินเตอร์เนชันแนล (Creative Commons International ย่อว่า CCi) เป็นโครงการที่จัดตั้งโดยครีเอทีฟคอมมอนส์ เพื่อให้มีการจัดการกฎหมายคอมพิวเตอร์ให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ในปัจจุบัน (3 เมษายน พ.ศ. 2552) มีทั้งหมด 51 ประเทศ (รวมทั้งประเทศไทย) ที่ได้จัดทำโดยสมบูรณ์ และอีก 8 ประเทศที่อยู่ในระหว่างการจัดทำ
สำหรับสัญญาครีเอฟทีฟคอมมอนส์ในภาษาไทย จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของ สำนักกฎหมายธรรมนิติ สถาบัน ChangeFusion และสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยรองรับตามหลักเกณฑ์ครีเอทีฟคอมมอนส์ รุ่น 3.0 และปรับให้เข้ากับกฎหมายลิขสิทธิ์ไทย จึงสามารถใช้บังคับได้ตามกฎหมายไทย ประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552 เป็นลำดับที่ 51 ของโลก
สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบ่งได้เป็น 6 ชนิดใหญ่ ดังนี้ [wiki]
1. อ้างอิงแหล่งที่มา (CC-BY)
2. อ้างอิงแหล่งที่มา ให้อนุญาตต่อไปแบบเดียวกัน (CC-BY-SA)
3. อ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลง (CC-BY-ND)
4. อ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า (CC-BY-NC)
5. อ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า และให้อนุญาตต่อไปแบบเดียวกัน (CC-BY-NC-SA)
6. อ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า และห้ามดัดแปลง (CC-BY-NC-ND)
thailandpostmart.com
Starbuck กับ กระทงลายการ์ตูน
เด็กหญิงวัย 15 ทำกระทงลายการ์ตูนขาย ถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกค่าปรับ 5 หมื่น
จากเหตุการณ์ที่มีการแชร์ภาพในโลกออนไลน์ เป็นภาพเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่ง ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ดำเนินการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ประดิษฐ์กระทงขายโดยติดรูปตัวการ์ตูนดัง หลังจากมีคนโทรมาสั่งให้ประดิษฐ์กระทง แต่หลังจากเด็กหญิงนำกระทงไปส่งให้ตามที่นัดเอาไว้ กลับโดนตัวแทนลิขสิทธิ์พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมเรียกเงินค่าปรับจำนวน 50,000 บาท เพื่อเป็นการไกล่เกลี่ย
ล่าสุด (4 พ.ย.62) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านบึงรี หมู่ที่ 2 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับครอบครัวของ น้องอ้อม (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 15 ปีที่ถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพ่อ แม่ และยาย โดยทั้งหมดอยู่ในการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สอบถามนายธวัชชัย คุณพ่อของน้องวัย 15 ปีที่ถูกจับคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งติดต่อสั่งให้ลูกสาวของตนทำกระทงจำนวน 136 ชิ้น โดยให้กระทงแต่ละอันติดรูปภาพการ์ตูนดัง ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดลูกสาวของตนได้นำกระทงจำนวน 30 ชิ้น ไปส่งให้กับลูกค้าคนดังกล่าวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา และทราบว่าลูกค้าคนดังกล่าวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัทการ์ตูน ลูกสาวของตนจึงถูกล่อซื้อจับกุม และถูกนำตัวมาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ
โดยตัวแทนลิขสิทธิ์ได้พูดข่มขู่ให้ลูกสาวของตนหาเงินมาเสียค่าปรับเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ลูกสาวของตนจึงแจ้งให้พ่อตาของตนซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณตาของลูกสาวตน และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้เจรจาให้ สุดท้ายจึงเจรจาค่าเสียหายจบลงเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท ทั้งนี้ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะถึงแม้ลูกตนจะทำผิดจริง แต่ก็ควรดูที่เจตนา เพราะเด็กเพียงแค่ต้องการหารายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น และตัวแทนลิขสิทธิ์ก็ไม่ควรหากินกับเด็กแบบนี้
sanook.com/news/7942666/
"สตาร์บัคส์"ชี้แจงกรณีฟ้อง"สตาร์บัง" ละเมิดลิขสิทธิ์
เช้าเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.56) รายการวันใหม่ ไทยพีบีเอสได้สัมภาษณ์ นายดำรงค์ มัสแหละ เจ้าของกาแฟรถเข็นสตาร์บัง ซึ่งถูกบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ จากกรณีที่ใช้โลโก้ประจำร้านที่คล้ายกับของสตาร์บัคส์ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทางรายการได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ทางผู้บริหารของบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น
บริษัทฮิล แอนด์ โนลตัน จำกัด ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ของสตาร์บัคส์ แจ้งว่า ผู้บริหารของบริษัท สตาร์บัคส์ ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพราะเดินทางไปต่างประเทศ และได้ส่งอีเมลแต่ได้ชี้แจงในนามของบริษัท สตาร์บัคส์ฯ มายังทีมงานว่า เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่ทางบริษัทพยายามแก้ปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าอย่างประณีประนอม และส่งผลกระทบน้อยที่สุด
โดยสตาร์บัคส์ได้ขอความร่วมมือ และพยายามเจรจากับเจ้าของร้านสตาร์บังในหลายโอกาส โดยร่วมกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาทางออกที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งเสนอความช่วยเหลือในการออกแบบเครื่องหมายการค้า เพื่อสร้างความแตกต่าง แต่เจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บังยังยืนยันใช้โลโก้ในปัจจุบัน ส่งผลให้การเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติลงได้ สตาร์บัคส์ จึงจำเป็นต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิการเป็นเจ้าของตราสัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์ต่อไป
https://news.thaipbs.or.th/content/202770
#5 กฎหมายว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พรบ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ให้ไว้ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2544 มีทั้งหมด 6 หมวด 42 มาตรา โดยมาตรา 4 จะมีนิยามศัพท์ให้ความหมายไว้อย่างครอบคลุม
"ธุรกรรม" หมายความว่า การกระทําใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์
"อิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั้น
"ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ธุรกรรมที่กระทําขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
"ข้อความ" หมายความว่า เรื่องราวหรือข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบของตัวอักษร ตัวเลข เสียง ภาพ หรือรูปแบบอื่นใดที่สื่อความหมายได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใด ๆ
"ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์ หรือโทรสาร
"ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์อื่น ใดที่สร้างขึ้นให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนํามาใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น และเพื่อแสดงว่าบุคคลดังกล่าวยอมรับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
"ระบบข้อมูล" หมายความว่า กระบวนการประมวลผลด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์สําหรับสร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
"การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า การส่งหรือรับข้อความด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้มาตรฐานที่กําหนดไว้ล่วงหน้า
"ผู้ส่งข้อมูล" หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นผู้ส่งหรือสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก่อนจะมีการเก็บรักษาข้อมูลเพื่อส่งไปตามวิธีการที่ผู้นั้นกําหนด โดยบุคคลนั้นอาจจะส่งหรือสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง หรือมีการส่งหรือสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในนามหรือแทนบุคคลนั้นก็ได้ ทั้งนี้ไม่รวมถึงบุคคลที่เป็นสื่อกลางสําหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
"ผู้รับข้อมูล" หมายความว่า บุคคลซึ่งผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้และได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น ทั้งนี้ไม่รวมถึงบุคคลที่เป็นสื่อกลางสําหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
"บุคคลที่เป็นสื่อกลาง" หมายความว่า บุคคลซึ่งกระทําการในนามผู้อื่นในการส่ง รับ หรือเก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อันใดอันหนึ่งโดยเฉพาะ รวมถึงให้บริการอื่นที่เกี่ยวกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
"ใบรับรอง" หมายความว่า ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือการบันทึกอื่นใด ซึ่งยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของลายมือชื่อกับข้อมูลสําหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
"เจ้าของลายมือชื่อ" หมายความว่า ผู้ซึ่งถือข้อมูลสําหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นในนามตนเองหรือแทนบุคคลอื่น
ผลกระทบของคอมพิวเตอร์ต่อการจ้างงานและพนักงาน ปัจจุบัน เด็ก คนทำงาน และคนชราต่างก็เข้าถึงเครือข่ายสังคม จากมีผลการศึกษาที่อังกฤษ พบว่า "It found that six-year-olds understand how to use technology at the same level as 45-year-olds." นั่นหมายถึง ความเข้าใจเรื่อง "how to use technology" หรือการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ใหญ่อังกฤษไม่ต่างจากเด็ก หรือใช้งานเพื่อประโยชน์ต่องานยังไม่เต็มที่ เท่าที่ควร เมื่อติดตามข่าว หรือได้เห็นพฤติกรรมของผู้ใช้ในปัจจุบันก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า จะเห็นเป็นปัญหามากกว่าประโยชน์ต่อตนเอง มีตัวอย่างปัญหา 3 กรณีที่เป็นข่าว คือ ครู Chadwin Reynolds จีบนักเรียนในชั้นเรียนเป็นให้ถูกไล่ออก หรือ สาวบ่นว่าเบื่องาน และเจ้านาย ทาง fb แล้วเจ้านายก็ไล่ออกทาง fb พนักงานโรงหนังด่าลูกค้าออก fb แล้วเจ้าของโรงหนังไล่ออกแล้วขอโทษลูกค้า
แล้วยังมี ผลการสำรวจ พบว่า 89% ของบริษัทจัดหางาน รวมถึงบริษัททั่วไปใช้หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้สมัครโดยดูจากพฤติกรรมและการแสดงออกบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ ซึ่งพฤติกรรมในการใช้งานโซเชียลมีเดียที่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สมัครอาจพลาดโอกาสในการทำงานโดยไม่รู้ตัว ก็คือ การโพสต์ภาพหรือข้อความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติด (78%) มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ (66%) มีการใช้ไวยกรณ์หรือสะกดคำผิด (54%) และบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (47%)
ข้อมูลจาก http://www.thaiall.com/facebook/
http://thumbsup.in.th/2013/07/job-recruitment-socialmedia-reed/
http://www.thaiall.com/job
ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคม
ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคม
จาก หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ของ สสวท.
ารพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศจนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย นับได้ว่าเป็นยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือยุคข้อมูลข่าวสาร ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์อย่างมหาศาล ยังผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ย่อมมีผลกระทบต่อบุคคล องค์กร หรือสังคม เราสามารถจำแนกผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศออกเป็นสองด้าน คือ ผลกระทบด้านบวก และผลกระทบด้านลบ
ารกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง
ผลกระทบด้านบวก
1. การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
2. เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอกาสการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่จะใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
3. สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศใน โรงเรียนมากขึ้น
4. เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อม เพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่า โทรมาตร เป็นต้น
5. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ ควบคุมการทำงาน
6. การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็น ต้องหาวิธีการ ในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลง เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
7. เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

ผลกระทบด้านลบ
1. ก่อให้เกิดความเครียดในสังคมมากขึ้น เนื่องจากมนุษย์ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เคยทำอะไรแบบใด มักจะชอบทำแบบนั้น ไม่ชอบการ เปลี่ยนแปลง แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปเปลี่ยนแปลง บุคคลที่รับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จึงเกิดความวิตกกังวล จนกลาย เป็นความเครียด กลัวว่าคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศจะทำให้คนตกงาน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเข้ามาทดแทนมนุษย์
2. ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม หรือการแลกเปลี่ยนวัฒนรรมของคนในสังคมโลก ทำให้พฤติกรรมที่แสดงออกด้านการแต่งกาย และการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป การมอมเมาเยาวชนในรูปของเกมส์อิเล็คทรอนิคส์ ส่งผลกระทบ ต่อการพัฒนาอารมณ์และจิตใจของเยาวชน เกิดการกลืนวัฒนธรรมดั้งเดิมซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของสังคมนั้น
3. ก่อให้เกิดผลด้านศีลธรรม บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้า และเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป
4. การมีส่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ในการสื่อสารและการทำงาน แต่ในอีกด้านหนึ่งการมีส่วนร่วมของกิจกรรมทางสังคมที่มีการพบปะสังสรรค์กันจะน้อยลง ผู้คนมักอยู่แต่ที่บ้านหรือที่ทำงานของตนเองมากขึ้น
5. การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล โดยการเพยแพร่ข้อมูลหรือรูปภาพต่อสาธารณชน ซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจไม่เป็นความจริงหรือยังไม่ได้พิสูจน์ความถูกต้องออกสู่สาธารณะชน ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคลโดยไม่สามารถป้องกันตนเองได้ การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นนี้ ต้องมีกฎหมายออกมาคุ้มครองเพื่อให้นำข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ในทางที่ถูกต้อง
6. เกิดช่องว่างทางสังคม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องกับการลงทุน ผู้ใช้จึงเป็นชนชั้นในอีกระดับหนึ่งของสังคม ในขณะที่ชนชั้นระดับรองลงมามีจำนวนมากกลับไม่มีโอกาสใช้และผู้ยากจนก็ไม่มีโอกาสรู้จักกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
7. อาชญากรรมบนเครือข่าย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้น เช่น ปัญหาอาชญากรรม ตัวอย่างเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลับ การขโมยข้อมูลสารสนเทศ การให้บริการสารสนเทศที่มีการหลอกลวง รวมถึงการบ่อนทำลายข้อมูลและไวรัส
8. ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงาน การศึกษา บันเทิง ฯลฯ การจ้องมอง คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน มีผลเสียต่อสายตา ซึ่งทำให้สายตาผิดปกติ มีอาการแสบตา เวียนศรีษะ นอกจากนั้นยังมีผลต่อสุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท
http://botanikajr.blogspot.com/2008/03/blog-post.html ***
http://www.zoneza.com/view3833.htm
http://neung.kaengkhoi.ac.th/information1/techno_3_2.html
#6 กฎหมายที่เกี่ยวข้องความเป็นส่วนตัว
1. หลัก 50/50 เป็นหลักที่ใช้ตัดสินจริยธรรม หรือไม่

#getlostgetfound ใน #Papertowns
#Jumanji เป็นเรื่องของนักเรียน 4 คน
ที่ไม่พร้อมเปลี่ยนตามกฎของสังคม
#เล่าให้นักศึกษาฟัง
เพราะเชื่อว่านักศึกษา คือ ผู้ที่พร้อมเปลี่ยนแปลง
ว่า .. คุณพ่อของผมเสียชีวิตด้วยมะเร็ง คาดว่า ต้นเหตุจากสุรา
คุณยายเสียชีวิตด้วยมะเร็ง คาดว่า ต้นเหตุจากบุหรี่
ตัวผมก็ไม่อยากมีต้นเหตุจาก 2 สิ่งนั้น

ถือว่ารู้มา และเชื่อว่า "คนเราจะเปลี่ยนแปลงได้"
ก็ด้วยสิ่งนี้ ..
"ไปเรียนหนังสือ แล้วอ่านหนังสือ
เพื่อเรียนรู้ ฝึกทำ แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลง
"

ถ้า [ใคร] ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง ก็จะไม่ได้เปลี่ยน
คือ [คนนั้น] ก็ต้องอยู่ที่เดิม หรือ ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ไม่เปลี่ยนจาก จบมัธยม เป็น จบมหาวิทยาลัย
ไม่เปลี่ยนจาก ทำงานบ้าน เป็น ทำงานให้บริษัท
ไม่เปลี่ยนจาก ทำไม่ได้ เป็น ทำเป็น มีทักษะ และประสบการณ์
ไม่เปลี่ยนจาก ไม่เป็นที่รู้จัก เป็น ได้รับใบรับรองว่าผ่านมาตรฐาน

ฟังเพลง : รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ติ๊ก ชิโร่

อากาศร้อนบนถนน
ถ้าใครบีบแตรให้เรา แล้วคิดว่าเราทำไม่ถูกต้อง ก็แสดงว่ามีปัญหา ก็อยากจะลงโทษเขา ที่เขาทำไม่ถูก มาบีบแตรให้เรา ที่ภูเก็ต เป็นคลิปกล้องหน้ารถ
2. หลัก 50/50 รักน้องหมา ก็หาที่ให้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง

facebook.com
หยุด ! การ SET ZERO
เพราะสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากสุนัข แต่เกิดจากการทุจริตวัคซีนของข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันใช้ #Stopsetzerowithstopcorruption เพื่อประกาศจุดยืนในการต่อต้านการ SET ZERO สุนัข ร่วมกับชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ในอดีต
สาวประเภทสองมีโทสะ โยนชิวาวา ที่ฉี่และอึ โยนตึก คุก 2 เดือนไม่รอลงอาญา
โหด! อดีต ส.ส.ราชบุรี ฉุน หมากัดขา ชัก 9 มม. รัวยิง 6 นัดตายคาที่
ทางขึ้นม่อนพระยาแช่ มีสุนัขกว่า 300 ตัว จับไป วัดเวฬุวนาราม อ.แม่ทะ เป็นศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด
นางเจี๋ยน จื้อเฉิง 31 ปี สัตวแพทย์ ถูกกลุ่มเคลื่อนไหวสิทธิสัตว์ส่งจดหมายคุกคามและเรียกเธอว่า "คนฆ่าสัตว์หน้าสวย" เครียดจนรับไม่ได้ ต้องจากไป
3. หลัก 50/50 ซีรีย์เกาหลี จินตนาการ กับ BNK48
ภาพหนุ่มเกาหลี กับข้อความที่ว่า
"ทุกครั้งที่ดูซีรีย์ เราจะเริ่มมีผัวใหม่ทันที"
ก็เป็นเพียงภาพชวนคิด ชวนตั้ง ชวนตอบ คำถามในทางโลก
ถ้าทางธรรม คงไม่ผ่านศีล 5 ข้อ 3 แล้วหละครับ
แล้ว 30 ม.ค.61 ก็มีการแชร์ข้อความ
ของ นักแต่งเพลงชื่อดัง พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หรือ ปุ้ม ตาวัน
ที่วิพากษ์นักร้องวง BNK48 ที่กำลังดังจากเพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย"
อ่านแล้ว น้อง ๆ เค้าน่าจะรู้สึกเสียหาย และน่าฟ้องหมิ่นได้
คำที่ลุงเค้าใช้ ก็เป็น case study ของ การแสดงออกที่รุนแรง ได้อย่างชัดเจน
หลายคนคงบอกว่า ลุงเค้าจริงใจ คิดอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น ไม่เจือมารยาเลย
ถ้าว่ากันตาม การแบ่งส่วนของสมองว่า สมองมี 3 ส่วน หรือหลายช่วงพัฒนาการ
ถ้าใช้สมองส่วนหน้าที่พัฒนาการไปมาก ก็จะแสดงออกต่างออกไป
ถ้าใช้ก้านสมอง หรือ เรปทิเลียนเบรน (Reptilian Brain)
ที่คุมสัญชาตญาณ มุ่งเอาตัวรอด การกิน หิว กระหาย ก็คงเป็นอีกอย่าง

เพลง ชู้กะชู้ ของครู Aey ที่สอนเด็ก ๆ เต้น
4. หลัก 50/50 เกรด A กับ D
เคยไหม
ไม่ได้หวัง A แต่ผิดหวังที่ได้ D
มิหนำซ้ำคนรอบข้างยัง
รู้อีก
ที่ผ่านมาใช้ชีวิต
แค่ให้ผ่าน ๆ ไปในแต่ละวัน

ไม่ได้ใช้ชีวิตแต่ละวัน
เพื่อสร้างอนาคต
เพราะสร้างอนาคตต้องเริ่มสร้างวันนี้
#somewhereonlyweknow #annihilation
5. หลัก 50/50 กล้า หรือ กลัว (Brave or Fear)
หลัก 50/50
Comfort zone
Brave & Fear
Demand & Supply

กลัวที่จะกล้า
กล้าที่จะกลัว

BEING BRAVE IS HAVING THAT FEAR
BUT FINDING A WAY THROUGH IT.
ความกล้า
ไม่ได้ทำลายความกลัว
แต่ความกล้า คือ
การมีความกลัว
เป็นเพื่อนร่วมทาง
แต่ยังเอาชนะมันได้

กล้าปฎิเสธการเรียนรู้ เพราะไม่กลัวรับผล
กลัวปฎิเสธการเรียนรู้ เพราะไม่กล้ารับผล

กล้าออกกำลัง กลัวไม่มีกำลัง
กลัวออกกำลัง กล้าไม่มีกำลัง
กล้ากับกกลัว ในแต่ละมุมมอง
อนาคตต้องเริ่มในปัจจุบัน
ไม่ได้เริ่มในอนาคต

กล้าทำปัจจุบัน กลัวไม่เห็นอนาคต
กลัวทำปัจจุบัน กล้าไม่เห็นอนาคต

กล้าทำวันนี้ กลัวไม่เห็นพรุ่งนี้
กลัวทำวันนี้ กล้าไม่เห็นพรุ่งนี้

กลัวทำปัจจุบัน กล้าปล่อยอนาคตไป
กล้าทำปัจจุบัน กลัวปล่อยอนาคตไป

กล้าหยุดดื่ม กลัวเจ็บป่วย
กลัวหยุดดื่ม กล้าเจ็บป่วย

กลัวไม่ได้ดื่ม เพราะไม่กลัวป่วย
กล้าไม่ดื่ม เพราะไม่กล้าป่วย

กล้าไม่ดื่ม เพราะกลัวป่วย
กลัวไม่ได้ดื่ม เพราะกล้าป่วย
6. หลัก 50/50 พบในหนังมีตัวเอกเป็นตำรวจ และผู้ร้ายในคนเดียวกัน
อ่าน บทความข่าวอาชญากรรม ใน dek-d.com เรื่อง "มิคาอิล โพพคอฟ (Mikhail popkov)" ตำรวจดีเด่น สามีแสนดี และฆาตกรต่อเนื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดในรัสเซีย ก็จะพบว่าในชีวิตจริง หรือในภาพยนตร์หลายเรื่อง นำชีวิตจริงของบุคคลที่มีพฤติกรรมคล้ายตำรวจรายนี้ ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ค้นข้อมูลได้ยาก เพราะถ้าบอกพล็อตเรื่อง ก็จะเป็นการ สะ-ปอ-ยอย ซึ่งเป็นข้อห้ามของการเล่าเรื่องย่อที่จะอธิบายตอนจบ เรื่อง Mindhunters เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่ผู้ร้ายเล่าถึงข้อดีของการเป็นตำรวจ
บางครั้งตำรวจ ทหารที่ดี ก็ถูกเข้าใจผิด
กรณี .. เพื่อนให้นาฬิกามายืมใส่
สอดคล้องกับ เรื่องของ คุณธรรม จริยธรรม หรือจรรยาบรรณ ซึ่งกฎหมายมีประเด็น และรายละเอียดที่น่าสนใจมากมาย ผู้ใหญ่ท่านนี้ไม่ได้รับของ จากเพื่อนเกิน 3000 บาท แต่เพื่อนเค้าให้ยืมมา และตอนนี้ก็ส่งนาฬิกาคืนเพื่อนไปหมดแล้ว นี่ถ้ารับของเพื่อนมา ก็คงมีความผิด ฐานรับของกำนัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนดไว้
7. หลัก 50/50 หนีข้อสอบความดีไทย ไปอ่าน 8 คำถามวิชาปรัชญาของฝรั่งเศส
บทความจาก thematter.co
เล่าถึงความยาก ในการออกข้อสอบวัดความดี ที่ สทส. พยายามจะสร้างข้อสอบที่ใช้วัดความดีออกมาให้ได้ พูดถึงการมี วิชาจริยศาสตร์ (Ethics) ว่าเป็นวิชาที่ว่าด้วย "การขบคิดและถกเถียงว่า ไอ้ความดี ความงาม ที่เรายึดถือเชื่อถืออาจจะไม่ใช่สัจจะหรือเที่ยงแท้ก็ได้" ซึ่งผมก็มีโอกาสนำไปพูดคุยกับนักศึกษาในเชิงชวนขบคิดเหมือนกัน เคยดูหนัง กวนมึนโฮ นางเอกถามพระเอกว่า "คิดว่าถ่อย แล้วเท่เหรอ" ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าชวนคิดนะ
แล้ว VANAT PUTNARK ก็ชวนไปดูข้อสอบวัดนักเรียน ม.ปลาย ที่ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งนักปรัชญาคลาสสิก ที่ทุกคนต้องสอบ ไม่ว่าจะแผนไหน ที่ต้องเลือกตอบ 1 ข้อในเวลา 4 ชั่วโมง และชวนขบคิด ข้อสอบวิชาปรัชญา 8 คำถาม ประจำปี 2017 เป็นข้อสอบที่กลับไปตั้งคำถามกับมาตราฐานบางอย่างของสังคม ว่านักเรียนคิดอย่างไร .. เพราะจากคำถามเล็ก ๆ ที่ถามเด็ก ๆ อาจนำไปสู่ความเข้าใจใหญ่ ๆ ได้
8 คำถามสั้น ๆ เลือกตอบ
แต่ให้เวลา 4 ชั่วโมง จาก afhongkong.org

1. การที่เราปกป้องสิทธิของเรา เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองไหม?
(To defend one’s right is to defend one’s own interests?)
.. ถามถึงการให้ความหมายของสิทธิ กับ ผลประโยชน์
2. เราสามารถที่จะเป็นอิสระจากวัฒนธรรมของเราได้ไหม?
(Can one free themselves from their own culture?)
.. นอกจากต้องเข้าใจเรื่องวัฒนธรรม ยังต้องเข้าใจอิทธิพลของวัฒนธรรม
3. เหตุผลอธิบายทุกอย่างได้หรือไม่?
(Can reason make sense of everything?)
.. อีกหนึ่งคำถามระดับอภิปรัชญา ตัวอย่างคืออารมณ์และความรู้สึก เป็นดินแดนที่เหตุผลเข้าไม่ถึง
.. ถึงมีเรื่องของ 3 วินาที ไงครับ
4. งานศิลปะจำเป็นต้องงามไหม?
(Does a work of art necessarily possess beauty?)
.. ต้องนิยามได้ว่า ศิลปะ ความงาม ความเพลิดเพลิน เวลาและวัฒนธรรมเกี่ยวข้องไหม
5. เราจะ ‘รู้’ สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยการสังเกตการณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นไหม?
(Can knowing result merely from observing?)
.. นอกจากประสบการณ์นิยม ผ่านประสาทสัมผัส ยังมีสิ่งที่ไม่อาจสังเกต เช่น ฟิสิกส์ทฤษฏี หรือนามธรรม
6. สิทธิทุกอย่างที่เรามี มีความชอบธรรมหรือไม่?
(Is everything I have the right to do fair?)
.. ถ้าสิทธิคือสิ่งที่กฎหมายรับรอง แต่สิทธิอาจไม่เป็นธรรม (fair) รึเปล่า
7. มีการใช้เหตุผลไปในทางที่ผิดบ้างไหม?
(Is there such a thing as misuse of reason?)
.. ท้าทายการใช้เหตุผล ตัวอย่างการล่าอาณานิคม ความทันสมัยเป็นเหตุผลที่คนขาวใช้อ้างเข้ายึดครอง นึกถึง avatar
8. ความสุขเป็นสิ่งที่ต้องแสวงหาหรือไม่?
(Must one pursue happiness in order to find it?)
.. คำถามที่คัดง้างระหว่างปรัชญาแบบตะวันตกและตะวันออก ต้องแสวงหาถึงได้มา หรือความสุขอยู่ที่ใจ ไม่ต้องไปไหน

งานเขียนอีกเรื่องของ VANAT PUTNARK : อำลา Ursula K. Le Guin นักเขียนแฟนตาซีฯ
8. หลัก 50/50 วิทยาศาสตร์ว่าด้วยความดีกับความชั่ว
อ่านจาก ว่า "คีห์ล นักประสาทวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก พบความผิดปกติที่โดดเด่นในสมองของพวกจิตใจอันธพาล เขาทำการสแกนสมองของนักโทษกว่า 4,000 คน เพื่อวัดกิจกรรมในสมองและขนาดของสมองในบริเวณต่าง ๆ เขากล่าวว่า พวกจิตใจอันธพาล มีความบกพร่องในการเชื่อมต่อของโครงสร้างต่าง ๆ ภายในสมอง ซึ่งช่วยในการประมวลผลด้านอารมณ์ ตัดสินใจ ควบคุมแรงกระตุ้น และตั้งเป้าหมาย"
วิทยาศาสตร์ว่าด้วยความดีกับความชั่ว
คนที่จิตใจโอบอ้อมอารีที่สุด กับ อันธพาลใจบาปหยาบช้าที่สุด เป็นตัวอย่างของสัญชาตญาณที่ดีที่สุดและเลวที่สุดของเรา บนปลายด้านหนึ่งของสเปกตรัมศีลธรรม คือ การเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และลักษณะทางศีลธรรมอื่น ๆ ที่เราถือกันว่าเป็นความดีงาม ส่วนบนปลายอีกด้านหนึ่ง คือ ความเห็นแก่ตัว ความรุนแรง และแรงกระตุ้น เพื่อทำลายล้างที่เรามองว่าเป็นความชั่วร้าย
ทำให้นึกถึงวรรณกรรม Animal Farm ของ George Orwell
ในเรื่อง มีผู้นำคนแรก เป็นคนไม่ดี ผู้นำคนที่สองจึงยึดอำนาจ เพื่อต้องการความเท่าเทียม ไม่มีใครเหนือไปกว่าใคร ไม่ต้องการถูกเอารัดเอาเปรียบ รังเกียจพฤติกรรมที่ไม่ดีมากมาย เมื่อเวลาผ่านไป ใครมีปัญหาเรื่องกติกาความเท่าเทียม ก็จะถูกลงโทษ ฐานไม่ซื่อต่อระบบ เมื่อเวลาผ่านไป ผู้นำคนที่สองที่ล้มผู้นำคนแรก กลับมีพฤติกรรม ทำตัวเอาเปรียบคนอื่น เหมือนผู้นำคนแรก และหนักกว่าเดิม จนชาวฟาร์มรวมตัวโค่นล้มอำนาจผู้นำคนที่สอง แต่ในชีวิตจริงของ Joseph stalin นั้น ในเวลาต่อมาพฤติกรรมถูกเปิดเผย และถูกศาลพิพากษาถึงการกระทำในอดีตว่าเป็น ทรราช ไม่ใช่วีรบุรุษที่เค้ายกย่องตนเอง เหมือนตอนเค้ามีชีวิตอยู่
ตัวอย่าง หากผู้นำพบการกระทำความผิดที่รับไม่ได้ ก็จะถูกประหาร เหมือนข่าวที่เกาหลีเหนือ เรื่องประหาร นายจางซงแท๊ก อาเขยผู้ทรยศของผู้นำ ซึ่งแนวคิดของอาเขยเป็นในทางคิดปฏิวัติ และเปิดประเทศ
9. หลัก 50/50 กับการคิดต่างของมนุษย์ ที่เป็นเรื่องธรรมดา คิดต่างได้ เพราะ คิดต่างสร้างปัญญา แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์
ทั้งเรื่องคุณธรรม และจริยธรรม มีเกณฑ์การพิจารณาแตกต่างกันไปตามข้อมูล ความเชื่อ ทัศนคติ มุมมอง การเลือกข้าง หรือผลสรุป เรื่องเดียวกันในอีกวัฒนธรรมอาจถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิด หรือถูกก็ได้ ตัวอย่างการคิดต่างที่ชัดเจน คือ พฤติกรรมการทักทายที่แตกต่างกันของแต่ละชาติ เช่น ประเทศฝรั่งเศส จะแนบแก้มกับแก้มของอีกฝ่ายและทำเสียงจุ๊บ ประเทศอาร์เจนตินา จะหอมแก้มกันและทำเสียงจุ๊บ ประเทศนิวซีแลนด์ ชนเผ่าเมารี เอาจมูกแตะกันและคลึงเล็กน้อย วิธีนี้เรียกว่า "คีโอร่า" ประเทศไทย และประเทศอินเดีย จะยกมือไหว้ ประเทศสหรัฐอเมริกา จะพูดว่าไฮ และจับมือ ถ้าหนุ่มไทยมาขอแก้มชนแก้มกับสาวไทย คงเป็นเรื่องเป็นราวแน่ เพราะไม่ใช่จริยธรรมของคนไทย
   สรุปว่า ทุกคนเห็นต่างกันได้ เพราะมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน และกลุ่มคนที่มีภูมิหลังแบบเดียวกันก็มักจะคิดเหมือนกัน และถ้าเป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็มักจะคิดเหมือน ๆ กัน เช่น การเบียดเบียนสัตว์อื่นเป็นอาหาร หากถามมนุษย์ก็คงบอกว่าไม่ผิด ส่วนการตกปลาเป็นกีฬา ถ้าไปถามปลาก็เชื่อว่าพวกปลาของบอกว่าเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ประหารสถานเดียว ไม่ต้องรอลงอาญา
หมวกหกใบ : เป็นกิจกรรมที่ฝึกให้คิดต่างกันได้
มีภาพชวนคิดต่างใน /games
10. หลัก 50/50 glory and money ตาม Maslow's hierarchy of needs แล้ว
Money อยู่ต่ำสุด Glory อยู่สูงมาก แยกกันชัดเจน
พบว่า มีการหารือ ในเวทีด้านการศึกษา
ว่า คนเราได้รับเกียรติแล้ว เค้าก็ไม่น่ารับเงิน
ที่ต่างประเทศ เค้ารับเกียรติ ก็รู้สึกเพียงพอแล้ว
ในอีกมุมหนึ่ง
บางคน ยอมแลกเกียรติ กับ เงินทอง
บางคน เอาเงินทอง ไปแลกกับ เกียรติ
บางคน อยากได้เกียรติ แล้วเงินทองจะตามมา
บางคน อยากได้เงินทอง แล้วเกียรติจะตามมา
เวลาถกเถียงกันระหว่าง เกียรติ กับ เงินทอง
ถ้าคนมีเงินทองเยอะอยู่แล้ว จะเลือกเกียรติ
ถ้าคนมีเงินทองน้อย ก็จะเลือกเงินทอง เป็นธรรมดา
เรื่องนี้เอาไปเล่าในหัวข้อ คุณธรรม จริยธรรม
แต่สรุปว่า เป็นธรรมชาติของมนุษย์ น่าจะตรงกว่า
11. หลัก 50/50 Single gateway ปิดกั้นหมีพูห์
Single gateway เป็นนโยบายจากภาครัฐ ที่ทำให้การสื่อสารถูกจำกัด สามารถกำกับ ติดตาม และตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแล ให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ที่ประเทศจีน ผู้แทนของประชาชนเห็นว่าเรื่องใดไม่เหมาะสม ก็จะจำกัดการเผยแพร่ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง หมีพูห์ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นเป็นข่าวใน VOAThai.com ที่ถูกปิดกั้นในประเทศจีน
อ่านจาก kapook.com พบว่าประเทศที่ใช้ Single gateway ได้แก่ จีน เกาหลีเหนือ ลาว และแถบตะวันออกกลาง
ข้อดี (Advantage)
1. รัฐบาลสามารถคัดกรองและควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนในประเทศ
2. ยากต่อการก่อการร้าย
3. ป้องกันการเข้าเว็บไซตืผิดกฎหมาย เช่น เว็บไซต์ลามก อนาจาร เว็บไซต์การพนัน ฯลฯ
12. หลัก 50/50 เสียงสังคม กับ กฎหมาย
ระยะนี้ได้เห็น ความขัดแย้งทางเชื่อที่แตกต่างกัน ของ 2 ฝ่าย คือ "กฎหมายที่บัญญัติไว้" กับ "เสียงสังคมผ่านโซเชียล" ประเด็นค่อนข้างชัดที่ถูกหยิบมา เล่าในข่าว ในแฟนเพจ ในกลุ่ม มีการรวมภาพแล้วแชร์ใน ทวิตเตอร์ และเฟสบุ๊ค
- จอดรถขวางหน้าบ้านติดตลาด
- เข้าป่าระวังเสือดำ
- เก็บหวย 30 ล้าน
- นาฬิกายืมเพื่อน (4/96)
- ตายายเก็บเห็ด
- ครูเพ็ญทรัพย์ แพะหรือแกะ
- ขโมยให้เมียท้อง 5 เดือน ค่ามะพร้าว 3 ลูก 5 หมื่น
- โยนชิวาวา ลงตึก 5 ชั้น จำคุก 2 เดือน
- เสียงโอตะ บัตรช้างศึก กับเสื้อ BNK48 3000 บาท
13. หลัก 50/50 ประเด็นที่เลือกยาก
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอะไร เพราะเหตุใด
1. แผ่นไม้คาร์เนียเดธ กรณี jack and rose
2. หัวหมา หรือ หางราชสีห์ กรณี โจน จันได ที่ ไร่พันพรรณ
3. ผ้าขี้ริ้วห่อทอง หรือ ทองห่อผ้าขี้ริ้ว กรณี ธุรกิจขายฝัน รถหรู
4. เรียนที่ชอบ หรือ ชอบที่เรียน
5. สุขชนะ (ที่เชียร์การแข่ง) หรือ สุขสงบ (ที่ไม่มีการแข่ง)
6. เสมอภาค คือ ลดจากผู้สูงกว่าลงมา หรือ เพิ่มให้ผู้ต่ำกว่าสูงขึ้น (คนจน ดร.600 ป.โท6000)
7. เสมอภาค กับ ยุติธรรม กรณี รางวัลผลงานของหน่วย
8. อนุรักษ์ กับ พัฒนา กรณี วัดร้อยปีกลางหมู่บ้าน หรือ มดงาน
9. อำนาจยมทูต หรือฮีโร่ ใครอยู่ หรือ ใครไป ใน Death note
10. เปิดเผยความเป็นส่วนตัวเพื่อประเทศ หรือ ประเทศปกปิดความเป็นส่วนตัวของทุกคน
คำตอบ ไม่สำคัญเท่า คำอธิบายที่สมเหตุสมผล
14. หลัก 50/50 การศึกษา กับ การทำงาน
หลังน้อง suwanan ketiam แชร์ 8 เม.ย.61
พบเห็นประเด็น 1) ความสุขจากการทำงาน และ 2) ภาพเทียบการศึกษาและอาชีพ หลังจากนั้นก็มีผู้คนมากมายให้ความสนใจ เห็นได้จากสถิติในช่วงเวลาไม่ถึง 3 วัน มี like 1.2 แสน comment 1.3 หมื่น และแชร์ 4 หมื่น แตกประเด็นลงสื่อไปตามความสนใจกันมากมาย
เช่น 1) ความสุขในงาน 2) ระบบการศึกษา 3) สวัสดิการราชการ 4) กตัญญู 5) งานแรก
มีทั้งคนที่เห็นพร้อง และเห็นต่าง มองกันไปคนละมุม มีข้อมูลเพิ่มเติมสนับสนุนทั้งจากตัวน้องเอง และตัวของผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย มีคลิปเปิดใจ สุวนันท์ เกตุเอี่ยม หรือ รายการต่างคนต่างคิด เป็นธรรมดาที่จะคิดต่างในสังคมที่มีมุมมองมากมาย ทั้งที่ 1) คาดหวัง 2) ไม่ได้คาดหวัง และ 3) ไม่ได้เข้ามาในระบบการศึกษา
15. หลัก 50/50 Jack ma พา Alibaba.com เข้าไทย ดี หรือ ไม่ดี
จากกรณี Jack Ma ขายทุเรียน 80000 ลูกให้ดู
หมดใน 1 นาที ผ่าน TMall.com
เวลาคุยเรื่องนี้ ว่า ดี หรือ ไม่ดี
น่าจะตอบยากมาก ก่อนคุยกัน ต้องถามว่า
ผู้ร่วมเสวนา เป็นคนกลุ่มไหนกันบ้าง
เพราะบทบาทของแต่ละคน จะพกคำตอบมาด้วย
เป็น ผู้ค้ารายใหญ่ หรือ รายเล็ก
เป็น ผู้ค้า หรือ ลูกค้า
เป็น ผู้ได้ หรือ ผู้เสีย
เหมือนห้างใหญ่มาตั้งแถวบ้าน
ร้านเล็กเจ้ง แต่ลูกค้าเต็มห้าง
แล้วรัฐได้ภาษีเป็นกอบเป็นกำ
16. หลัก 50/50 ความไว้ใจ กับความไม่ไว้ใจ
การพิสูจน์ความไม่ไว้ใจ = ความไว้ใจ
ดังนั้น
อย่าไว้ใจใครโดยง่าย แม้แต่ตนเอง
อย่าไว้ใจใครโดยง่าย แม้แต่คู่ชีวิต
อย่าไว้ใจใครโดยง่าย แม้แต่พ่อ แม่ ลูก หรือหลาน
อย่าไว้ใจใครโดยง่าย แม้แต่คนที่น่าไว้ใจ

ก่อนจะไว้ใจใคร ต้องคิดทบทวนหลายรอบ
เพื่อลดโอกาสผิดพลาด และเสียใจในภายหลัง

รักได้ครั้งละคน เชื่อใจได้คนละครั้ง
ตั๊กแตน ชลดา
17. หลัก 50/50 มุมมอง อนุรักษ์ สะพานขาว ลำปาง
คนเราชอบ #ไม่เหมือนกัน ประเด็น #อนุรักษ์ #โบราณสถาน
เป็นที่ถกเถียงกันมาก ว่า
1. อนุรักษ์ = รักษาสภาพเดิม
2. อนุรักษ์ = พัฒนา
กระแสต่อ สะพานขาว มีหลากหลาย แต่ถ้ามีการเบี่ยงประเด็น ก็จะกลายเป็น #ล่าแม่มด
"ล่าแม่มดผิดกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิ์ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ซึ่งเป็นโทษที่ยอมความไมได้ พอยอมความไม่ได้ พอเราฟอร์เวิร์ดก็มีความผิดส่งต่อไปเรื่อย ๆ เจ้าของเว็บก็มีความผิด ในฐานะเป็นตัวการร่วม ส่วนคนที่รีทวิตต่อก็ต้องระวัง อาจเหยื่อการถูกเจาะขโมยข้อมูลได้ ในสหรัฐอเมริกา บริษัทหลายแห่งสืบค้นประวัติผู้สมัครงานจากเว็บไซต์กูเกิล เมื่อพบว่าใครเคยทำผิด ก็จะถูกไล่ออกทันที"
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายฯ กล่าว
18. หลัก 50/50 เส้นขนาน ฆ่าให้ตาย & ไว้ชีวิต

29 พฤษภาคม 2563
ท่ามกลางโควิด-19
ตำรวจผิวชาวทำเกินเหตุ
เกิดการประท้วงในอเมริกา
จะทำอย่างไร ต่อไป
อ่านพบในเฟสบุ๊คของ อ.จักร์กฤษ เพิ่มพูล
บนเส้นขนาน : ฆ่าให้ตาย & ไว้ชีวิต : สิทธิมนุษยชน#ทัณฑวิทยา
เมื่อฐานคิดต่างกัน บริบททางสังคมต่างกัน หนทางที่ทั้งฝ่ายชูประเด็นสิทธิมนุษยชน และฝ่ายที่เชื่อวิธีการลงทัณฑ์แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน กรณีประหารชีวิตนายธีรศักดิ์ หลงจิ จึงยากที่จะมาบรรจบกันได้ การลงโทษนายธีรศักดิ์ เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายปกติที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่ เป็นเรื่องเฉพาะคดี ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญา หรือข้อตกลงใด ๆ
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรไปวิพากษ์ วิจารณ์ ด่าทอแอมเนสตี้ พวกเขาก็ทำไปตามหน้าที่ เพียงแต่จังหวะเวลา ความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ พื้นฐานของสังคมไทย เบาบางเกินไป ประเมินสถานการณ์ต่ำไป ขาดความละเอียดอ่อน ในสถานการณ์ที่สังคมกำลังรุ่มร้อน ขาดทักษะในการสื่อสารและอธิบายความ คำยืนยันในการปกป้องสิทธิมนุษยชน จึงถูกทำให้เข้าใจว่าเป็นการปกป้องและประท้วงการประหารชีวิตนายธีรศักดิ์ไป
พวกเขา พยายามอธิบายว่า โทษประหารชีวิตเป็นการละเมิดสิทธิที่จะมีชีวิต ที่ประกาศไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คำอธิบายเชิงหลักการนี้ ย้อนแย้งกับภาพนายธีรศักดิ์ ใช้มีดกระหน่ำแทงเหยื่อถึง 24 แผล เพื่อชิงโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ จนเหยื่อตายอย่างทุกข์ทรมาน
คำถามจึงดังกระหึ่มขึ้นว่า เหยื่อของนายธีรศักดิ์ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.5 อายุเพียง 17 ปี เขามีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ตามปฏิญญาสากลนั้นหรือไม่ และการลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยม เพื่อชิงเอาทรัพย์เขา ถือว่าเป็นการกระทำของเพื่อนมนุษย์ ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม อีกทั้งย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาหรือไม่
19. หลัก 50/50 ทุกการกระทำ [มักจะ] มีที่มา และที่ไป
ทุกการกระทำ ทุกการโพสต์ ทุกความคิดเห็น จะมีเรื่องราวประกอบมากมาย หรือไม่มีเลยก็ได้ ภาพนี้มีข้อความประกอบภาพว่า "ออกไปเกิ้ก" เป็นมุมมองของการมององค์รวม และเป้าหมายหลัก แต่ละคน แต่ละทีม ที่ไปร่วมเกิ้กนั้น มีที่มาที่ไปต่างกัน
1. แสดงถึงจิตอาสา ก็จะร่วมเห็นกดไลท์กันทุกคน จะมีใครกล้าส่งภาพนี้เป็นเม้นท์ ต่อท้ายภาพเพื่อนที่ไปทำจิตอาสาล่ะ
2. หัวหน้าสั่งให้ไป ต้องทำทีม ต้องร่วมทีม
3. บทบาทมันใช่ ไม่ไปก็ถูกถาม เป็นหน้าที่ของกลุ่ม
4. มีอาชีพบอกเล่าความจริง ต้องเข้าถึงพื้นที่ เพื่อตอบวัตถุประสงค์อาชีพ
20. หลัก 50/50 เห็นเอาเปรียบ แล้วมองตลก .. ขาดคุณธรรมไปชั่วอึดใจ

อ้างอิง : manythings.org
เรื่องนี้ .. ฝรั่งตลกจริง ๆ หรือ + แสดงว่ามนุษย์บางคนมีความสุข
เมื่อตนเองได้ประโยชน์ แม้คนอื่นเดือดร้อน
+ แสดงว่ามนุษย์บางคนมีความสุข
เมื่อเห็นบางคน เอารัดเอาเปรียบอีกคน
.. (ที่บอกว่าฝรั่ง เพราะเป็นภาษาอังกฤษ)
เคยมีผลสำรวจเอแบคโพลว่า "ไทย OK" ถ้ามีการคอร์รัปชั่นแล้ว ตนเองได้ประโยชน์
ซึ่งโพลบอกว่าไม่ถูกต้อง .. จริงในมุมเขา
เพราะเหตุนี้ จงควรส่งเสริมคุณธรรมเยอะ ๆ
จะได้สมเป็นเมืองพุทธ ที่ยึดในเมตตาธรรม
อ้างอิง : อึ้ง! คนไทยรับได้รัฐบาลคอร์รัปชั่น หากได้ประโยชน์ด้วย
21. หลัก 50/50 อวด สมถะ ความรุนแรง และสันติ

คำคมจาก เรื่องนาจา "ดีชั่วอยู่ที่ตัวทํา สูงต่ำอยู่ที่ทําตัว"
การที่เรารู้ว่าเรา คือ ใคร มาจากไหน และจะไปไหน น่าจะเป็นการดี
หรือจะไม่รู้อะไรเลย ก็ย่อมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่จะเลือกรับรู้ หรือเลือกไม่รับรู้
มีคำหลายคำน่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรม เช่น อวด [#เล่าสู่กันฟัง 62-272]
อ่านเพิ่มเติมที่ https://themomentum.co/happy-self-help-socialmedia-show/
แล้วเคยอ่านงาน เรื่อง ความรุนแรง (Violence) กับ รักสันติ (Peace) [#เล่าสู่กันฟัง 62-273]
ที่พิจารณาว่า สิ่งใดใน 2 สิ่งนี้ อะไรที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ คนหนึ่งที่เสนอแนวคิดคือ ชาร์ล ดาร์วิน (1809-1882) ก็อย่างหนึ่ง ส่วนความเห็นที่ยึดหลักทางศาสนาก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งบทสรุปของบทความนี้
"ความรุนแรงจึงเป็นความผิดปกติของมนุษย์" และ "สภาพธรรมชาติของมนุษย์คือสันติ (Peace)"
หากพูดถึงความรุนแรงและสันติ ทำให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่องนาจา (Ne zha) ที่มีไข่มุกพลังวัตร ที่ถูกสกัดเป็นไข่มุขสวรรค์ และโอสถปีศาจ เก็บไว้ใน บัววิเศษเจ็ดสี
อ่านเพิ่มเติมที่ https://deepsouthwatch.org/th/node/10632
22. หลัก 50/50 คุณค่าของความลับ สิ่งหวงแหน ที่ค่าสูงต่ำต่างกันไป

สิ่งที่อยู่ในคัมภีร์ อาจสำคัญเอามาก ๆ สำหรับบางคน แต่เมื่อถูกเปิดอ่านแล้ว สำหรับบางคนแล้ว อาจสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตน ที่เข้าแย่งชิงมันมา หรือทำร้ายใครต่อใครที่คิดจะแย่งชิง แต่สำหรับบางคน อ่านแล้ว ก็อยากทำลายให้สิ้น อาจเพราะยอมไม่ได้ที่จะให้ใครอื่นได้ครอบครองอีก คิดว่าสำคัญเหมือนกัน แต่คิดไม่เหมือนกัน คิดต่างกันไปคนละมุม
sanook.com
นิทานสอนใจ มูลค่าของความลับ ในมือของพ่อ
ในค่ำคืนหนึ่ง หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว
คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบ แล้วบอกลูกว่าพ่อมีอะไรให้ดู ซึ่งสำคัญมาก
ว่าแล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่าง ออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้
คุณพ่อถามว่าอยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ ลูกพยักหน้า
ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที ลูกทำตาม
คุณพ่อว่า ไม่พอ ต้อง 5 ที และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที
จนลูกอุทธรณ์ ก็ลูกอยากทราบนี่คะว่า เป็นอะไร
เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือ เหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เอง
คุณพ่อหัวเราะ แล้วกำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม
ถามว่าอยากดูอีกมั้ย ถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ที
ลูกว่าหนูรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ
คุณพ่อว่า เอ้า เขกพื้น 1 ทีก็ได้
ลูกก็บอกว่าทราบแล้ว ไม่อยากดูอีกเบื่อ
คุณพ่อว่าให้ดูฟรี ๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก
ลูกก็ดูไปอย่างนั้นเอง ..
คุณพ่อเลยสอนว่า "นี่นะลูก อะไรที่เป็นความลับ
คนมักยอมทำทุกอย่างที่จะได้สมปรารถนา
อยากดู อยากรู้ อยากเห็น
แต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ดูบ่อย ๆ แล้วก็มักจะเบื่อ
ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากดูเลย
แล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับลูกผู้หญิงเป็นสิ่งที่มีค่า
ถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไร
ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาท ที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก
"
23. หลัก 50/50 รัฐบาลใช้อำนาจเพราะเชื่อว่าสุขภาพสำคัญกว่าเสรีภาพ
ผมก็เชื่อของผมว่า ชีวิต สำคัญกว่า เสรีภาพ
แต่ 3 เมษายน 2563 รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว สี่ทุ่มถึงตีสี่ เพื่อยุติข้อถกเถียงเรื่องอยู่บ้าน หรือท่องราตรีดี ยุติคนที่คิดต่างว่า เสรีภาพ สำคัญกว่า สุขภาพ สรุปว่าออกมาเดินโต๋เต๋ตอนกลางคืนกับเพื่อน ฟังเพลง ขับรถกินลมชมวิวดึกดื่น เดินสวนไม่ได้นะครับ สุขภาพจะเสียเอา สุขภาพของคนในชาติจะเสียเอา อยู่บ้านเพื่อชาติกัน บางคนเค้าถึงกับ Work From Home นักเรียน นักศึกษ นิสิต ก็ Learn From Home กันแล้ว แต่สำหรับบางคนไม่ชอบอยู่บ้าน เห็นอิตาลี อเมริกา และอีกหลายประเทศที่เค้ามีเสรีภาพเข้มแข็ง ไปไหนมาไหนกัน ไม่หวันเกรงโควิต-19 เท่าที่ควร ก็คงเป็นที่ถกเถียงกันว่า สุขภาพ กับ เสรีภาพ อย่างไหนสำคัญกว่ากันไปอีกนาน แต่เพื่อนที่ทำงานผม สุขภาพสำคัญที่สุด เห็นฉีดแอลกอฮอล์ฟุ้มเต็มห้อง กระแอมกระไอหน่อยก็ถูกจ้องตาเขียวล่ะ สวมหน้ากากเข้าหากันตลอด
24. หลัก 50/50 ข่าวลวง ว่าไวรัสส่งผ่านเสา 5G
มีเรื่องจริงอยู่มากมาย เรื่องโกหกก็มากมี สวดมนต์สู้โควิต แต่มีพระท่านออกมาปรามว่าไวรัสไม่ใช่ผีจะได้ทำพิธีแล้วไล่ได้ ที่ได้ผล คือ #อยู่บ้านช่วยชาติ นี่ประเทศแถวประเทศตะวันออก เป็นข่าวออกดังที่ฟังแล้วต้องคิดตาม แล้วกระแสสวดมนต์ก็หายไป ส่วนประเทศทางตะวันตก มีคนเชื่อว่าเสา 5G ส่งไวรัสโควิด แล้วก็ไปเผาเสาส่งสัญญาณกันจริง ๆ
nationtv.tv
ในชีวิตจริง คนเราก็คงไม่ได้คิดมาก สำหรับบางคนเชื่ออะไรไปก็คงไม่แปลก บางทีเรื่องจริงกับเรื่องปลอม ห่างกันที่ 50/50 แต่ข่าวปลอมส่งผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเกินกว่าจะจินตนาการ ไม่ใช่แค่ขำขำแน่นอน เคยมีโบสถ์ที่ซ็องนัมเชื่อว่าพ่นสเปรย์น้ำเกลือฆ่าไวรัส หรือป้องปรามไวรัสได้ จึงฉีดให้กับผู้เข้าไปทำพิธีในโบสถ์ ติดกันเกือบทั้งโบสถ์มาแล้ว การเชื่อข่าวลวงเรื่องอาการติดไวรัสก็ทำให้ผู้ป่วยอาจไปรับการรักษาช้า และกลายเป็น Super Spreader โดยไม่ตั้งใจจากความเชื่อในข่าวลวง
fortune.com
ลักษณะของบุคคล ตามทฤษฎีแรงจูงใจทางจริยธรรม [6]p.82
แบ่งลักษณะบุคคลออกได้ 5 กลุ่ม ของ Peck and Havighurst
(1960=2503, อ้างถึงใน ดวงเดือน พันธุมนาวิน , 2523)
1. กลุ่มปราศจากจริยธรรม (Amoral person)
2. กลุ่มเอาแต่ได้ (Expedient person)
3. กลุ่มคล้อยตาม (Conforming person)
4. กลุ่มตั้งใจจริงแต่ขาดเหตุผล (Irrational conscientious person)
5. กลุ่มเห็นแต่ผู้อื่นอย่างมีเหตุผล (Rational altruistic person)
จรรยาบรรณของอาจารย์ที่ปรึกษา
จรรยาบรรณของอาจารย์ที่ปรึกษา ในคู่มืออาจารย์ที่ปรึกษา
(Advisor handbook of yonok university) ของมหาวิทยาลัยโยนก มีดังนี้
1. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพและสิทธิประโยชน์ของนักศึกษา โดยจะต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดผลเสียหายแก่นักศึกษาอย่างไม่เป็นธรรม
2. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องรักษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของนักศึกษาในความดูแลให้เป็นความลับ
3. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องพยายามช่วยเหลือนักศึกษาจนสุดความสามารถ หากมีปัญหาใดที่เกินความสามารถ ที่จะช่วยเหลือได้ก็ควรดำเนินการส่งนักศึกษาไปรับบริการจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
4. อาจารย์ที่ปรึกษาไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์บุคคลหรือมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาฟังในทางที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่บุคคลหรือมหาวิทยาลัย
5. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องเป็นผู้มีความประพฤติที่เหมาะสมตามจรรยาแห่งวิชาชีพ และมีศีลธรรมจรรยาที่ดีงาม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักศึกษา
6. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำปรึกษาวิชาการแก่นักศึกษาในความดูแลทุกคนด้วยความเสมอภาค
7. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องปฏิบัติตนด้วยความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น สังคม และประเทศชาติ
thaiall.com/blog/burin/6207/
จรรยาบรรณครู พ.ศ.2539 [หมู่บ้านครู] 1. ครูต้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม ให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
2. ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัย ที่ถูกต้องดีงาม ให้เกิดแก่ศิษย์ อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
3. ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
4. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์
5. ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ให้ศิษย์ กระทำการใด ๆ อันเป็นการหาผลประโยชน์ ให้แก่ตนโดยมิชอบ
6. ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งทางด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทาง วิทยาการ เศรษฐกิจสังคม และการเมืองอยู่เสมอ
7. ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครูและเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์กรวิชาชีพครู
8. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
9. ครูพึงประพฤติ ปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทย
thaiall.com/learn/toremember.htm
แนวปฏิบัติตามหลักวิชาชีพแต่ละสาขาอาชีพ [5]p.70 จริยธรรมของนักธุรกิจ
1. มีสัจจะ ความจริงใจในอาชีพของตน
2. รับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมงานทุกคนด้วยความเมตตา
3. เสียภาษีอากรถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
4. ปฏิบัติตนเป็นกัลยาณมิตรกับทุกคน
5. มีน้ำใจไมตรีต่อลูกค้าทุกคนเสมอภาคกัน
6. คำนึงถึงหน้าที่ที่รับผิดชอบด้วยความยุติธรรม
จริยธรรมของข้าราชการ
1. ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย
2. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
3. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
4. ต้องรักษาความลับของทางราชการ
5. ต้องมีความอดทน ไม่โกรธง่าย ไม่ฉุนเฉียว
6. มีความสุภาพ อ่อนน้อม มีสัมมาคารวะ
7. ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
จริยธรรมของนักสื่อสารมวลชน
1. มีความสุจริตต่อวิชาชีพ ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง
2. เสนอข่าวหรือข้อมูลตามหลักฐานและความเป็นจริง
3. ยกย่องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
4. คำนึงถึงประโยชน์ของสังคมส่วนรวมมากกว่าของตนเองและพวกพ้อง
5. มีความรับผิดชอบต่อข้อมูลหรือข่าวที่เสนอออกไป
6. วางตัวเป็นกลางไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
จริยธรรมของแพทย์
1. ไม่กระทำต่อผู้ป่วยเสมือนกับกำลังทำการเพื่อทดลอง
2. รักษาความลับของผู้ป่วยในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ต้องการให้เปิดเผย
3. ร่วมมือกับคณะแพทย์และผู้เกี่ยวข้องให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ขวนขวายหาความรู้ในภารกิจของตนให้ทันสมัยอยู่เสมอ
5. ไม่หลอกผู้ป่วยให้หลงเข้าใจผิดเพื่อประโยชน์ของตน
6. ไม่กระทำการใด ๆ ในการรักษาพยาบาล อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายและศีลธรรม
จริยธรรมของนักกฎหมาย
1. รักเกียรติและศักดิ์ศรีของนักกฎหมาย
2. มีความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง
3. ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และจรรยาบรรณของนักกฎหมาย
4. ไม่ใช้วิชาความรู้เพื่อเป็นการเอารัดเอาเปรียบบุคคลอื่น
5. ต้องซื่อสัตย์ สุจริตต่อตนเองและวิชาชีพ
6. ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม
จริยธรรมของครู-อาจารย์
1. เคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา
2. ศรัทธาในหน้าที่และอาชีพครู
3. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานและศิษย์
4. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างเคร่งครัด
5. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
6. สร้างความสามัคคีให้เกิดมีในหมู่คณะ
7. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์
8. ปฏิบัติตนอยู่ในกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณครูอย่างเคร่งครัด
9. มีจิตใจเมตตากรุณาต่อศิษย์
10. งดเว้นอบายมุขทุกประการ
จริยธรรมในกลุ่มอาชีพสารสนเทศ
1. มีความรับผิดชอบต่อสังคม
2. ไม่กระทำการอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย
3. ไม่ใช้ความรู้ทางวิชาชีพสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
4. ไม่กระทำการอันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
5. ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้างหรือนำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด
6. สร้างสรรค์ผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
7. ไม่นำเสนอในสิ่งที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีและศีลธรรมอันดี
จรรยาบรรณสื่อสารมวลชนสากล 23 ข้อ
1. ต้องกระทำตนให้อยู่ในขอบเขตของความเหมาะสมมีกริยาดี
(The bounds of decency)
2. ไม่สร้างข่าวขึ้นเอง
(Do not attempt to make news)
3. ต้องเสนอข้อเท็จจริงทั้งหมดแก่ผู้รับสาร
(The truth and the whole truth)
4. ไม่ก้าวก่ายสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น
(Do not to invade the private rights)
5. ไม่บังคับบุคคลให้พูด
(Do not to force individuals to speak)
6. ซื่อสัตย์ต่อบุคคลที่ต่อสู้เพื่อสังคม
(Play fair with a person against whom derogatory charges)
7. ซื่อสัตย์ต่อบุคคลที่นำมากล่าวถึงในคอลัมน์
(Play fair with persons quoted in its columns)
8. รักษาไว้ซึ่งความลับของแหล่งข่าว
(Keep the confidence of its news sources)
9. ไม่ปิดบังอำพรางข่าวที่นำเสนอ
(Do not suppress news)
10. ไม่ควรขายข่าว ขายคอลัมน์เพื่อเงิน หรือความพอใจส่วนตัว
(Do not "sell" its news colums for money or courtesies)
11. ละเว้นจากการเข้าร่วมพรรคการเมือง
(Refrain from allowing party politics)
12. ต้องบริการคนส่วนรวม มิใช่บริการคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
(Serve the whole society, not just one "class")
13. ช่วยต่อสู้และปราบปรามอาชญากร
(Fight and discourage crime)
14. ต้องเคารพ และช่วยผดุงกฏหมายบ้านเมือง
(Must respect and aid the law and the courts)
15. สร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ชุมชน
(Seek to build its community)
16. ไม่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างญาติและเพื่อนของผู้อื่น
(Not injure the relatives and friends)
17. คำนึงว่าการหย่าร้าง การฆ่าตัวตายนั้น
เป็นปัญหาสังคมสิ่งหนึ่งไม่ควรเสนอข่าวไปในเชิงไม่สุภาพ

(To recognize divorce, suicide as an unfortunate social problem)
18. อย่ากล่าวโจมตีคู่แข่ง
(Do not attack on competitive)
19. อย่าเยาะเย้ยความวิกลจริต ด้อยปัญญา หรืออาภัพของบุคคล
(Do not ridicule the insane or the feebleminded or misfortunes)
20. เคารพศาสนา สัญชาติ และเชื้อชาติของบุคคล
(Respect churches, nationalities and races)
21. หน้ากีฬาควรเขียนถึงทุก ๆ คน
(Sports page is written for everybody)
22. แก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในทันที
(Be prompt in correcting errors)
23. จำไว้ว่าข่าวที่นำเสนอนั้น มีเยาวชนชายหญิงอ่านด้วย
(Remember that the new is read by young boys and girls)
https://www.thairath.co.th/content/80514
https://www.facebook.com/notes
หยุดซ้ำเติม หรือ
อย่าเยาะเย้ยความวิกลจริต ด้อยปัญญา หรืออาภัพของบุคคล

1. ล้อมวงข่าว
แฟนคลับ SHINee วอน อย่าซ้ำเติมความสูญเสีย ด้านจิตแพทย์แนะ วิธีป้องกันเหตุฆ่าตัวตาย
youtube.com

2. อย่าเรียก ญาติฆาตกร!
พ่อ "เก่ง" วอนสังคมหยุดซ้ำเติม รับช็อกฆ่า "หมอปอ"
amarintv.com

3. ครอบครัวรับศพ ดร.วันชัย
เดือดฉีกสมุดนักข่าวปมถ่ายทอดสด
sanook.com

4. รถขนเบียร์คว่ำ
ไปช่วยกันขนรังเบียร์ จ.ขอนแก่น
youtube.com

5. โซเชียลจวกเละ!
รถขนเห็ดเผาะตกถนน แทนที่จะเข้าช่วย คนแห่เก็บต่อหน้าคนบาดเจ็บ
matichon.co.th

6. สภา นสพ.
เรียกร้อง "สื่อ" หยุดซ้ำเติมเด็ก ระงับตีพิมพ์ "ภาพ- ชื่อ" นักแสดงซีรี่ส์วัยรุ่น
isranews.org
จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 3 พ.ย.2553
หมวด ๑ บททั่วไป
หมวด ๒ ความโปร่งใส ความเป็นอิสระ ความเที่ยงธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต
หมวด ๓ ความรู้ ความสามารถ และมาตรฐานในการปฏิบัติงาน
หมวด ๔ การรักษาความลับ
หมวด ๕ ความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ
หมวด ๖ ความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ผู้เป็นหุ้นส่วน บุคคล หรือนิติบุคคลที่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีปฏิบัติหน้าที่ให้
หมวด ๗ ความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพ และจรรยาบรรณทั่วไป
fap.or.th/Article/Detail/66981
จริยธรรมของกรรมการและพนักงาน บขส.
ระเบียบบริษัท ขนส่ง จำกัด ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของกรรมการและพนักงาน พ.ศ.2553
(ข้อ ๕) มาตรฐานจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก สำหรับ กรรมการและพนักงานทุกคน
1. การยึดมั่นในคุณธรรม และจริยธรรม
2. การมีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ
3. การยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
4. การยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรม และถูกกฎหมาย
5. การให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็ว มีอัธยาศัย และไม่เลือกปฏิบัติ
6. การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง
7. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษามาตรฐานมีคุณภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้
8. การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
9. การยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพขององค์กร
มาตรฐานจริยธรรมขององค์กร
(ข้อ ๖) 1. กรรมการและพนักงานต้องจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
(ข้อ ๗) 2. กรรมการและพนักงานต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ
(ข้อ ๘) 3. กรรมการและพนักงาน ควรประพฤติปฏิบัติและพัฒนาตนเองในทางที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรอยู่เสมอ โดยศึกษาหาความรู้และประสบการณ์เพื่อเพิ่มพูนความสามารถและยึดมั่นในคุณธรรม
(ข้อ ๙) 4. กรรมการและพนักงาน ต้องรักษาความลับที่ได้จากการปฏิบัติหน้าที่ การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาต หรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
(ข้อ ๑๐) 5. กรรมการและพนักงาน ต้องรักษา และเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างผู้ร่วมงาน พร้อมกับให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในทางที่ชอบ
(ข้อ ๑๑) 6. กรรมการและพนักงาน ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งไปแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในทางทรัพย์สินหรือไม่ก็ตาม ตลอดจนไม่รับของขวัญ ของกำนัล หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ร้องเรียน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ อันอาจจะเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน เว้นแต่เป็นการให้โดยธรรมจรรยาหรือการให้ตามประเพณี
(ข้อ ๑๒) 7. กรรมการและพนักงาน ต้องไม่นำทรัพย์สินขององค์กร ทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งเทคโนโลยี ข้อมูลการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนสิ่งประดิษฐ์และข้อมูลอื่น ๆ ขององค์กร ที่ไม่พึงเปิดเผยไปใช้ เพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือผู้อื่นอันมิได้เกี่ยวกับกิจการขององค์กร
(ข้อ ๑๓) 8. กรรมการและพนักงาน ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความเสียสละ ทุ่มเทสติปัญญา ความรู้ความสามารถ ให้บรรลุผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
(ข้อ ๑๔) 9. กรรมการและพนักงาน ต้องมุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้วยความเป็นธรรม รวดเร็ว และมุ่งเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานและประชาชน
(ข้อ ๑๕) 10. พนักงาน ต้องปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ คำสั่งขององค์กร และคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในทางที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างเคร่งครัด และเป็นผู้รักษา กฎ ระเบียบ วินัย ในตนเองร่วมมือดูแลให้พนักงานอื่นร่วมกันรักษาระเบียบวินัยขององค์กรด้วย
(ข้อ ๑๖) 11. พนักงาน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ เรียบร้อย และให้บริการกับประชาชนอย่างรวดเร็ว ให้ความสะดวกในการติดต่อ ตลอดจนต้องปรับปรุงการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ คำนึงถึงผลประโยชน์และความพึงพอใจของประชาชนที่ใช้บริการ
(ข้อ ๑๗) 12. พนักงาน ต้องประพฤติตนให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วยความสุภาพ มีน้ำใจ มีมนุษย์สัมพันธ์อันดี ต้องไม่ปิดบังข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของเพื่อนร่วมงาน และไม่นำผลงานของผู้อื่นมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน
home.transport.co.th/images/authorname/18.pdf
ประเด็น พ่อแม่ลูก 4 คน ร้องไห้เสียงดัง ถูกรถทัวร์ 999 ไล่ลงกลางทาง
บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์ หรือ ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคคลและองค์กร [5] บุคลากรทางด้านคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่
1. ผู้บริหารระดับสูงในการพัฒนาระบบสารสนเทศหรือผู้จัดการศูนย์คอมพิวเตอร์
2. หัวหน้าฝ่ายหรือผู้ดูแลเกี่ยวข้องกับระบบและโปรแกรม
3. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์

1. ผู้บริหารระดับสูงในการพัฒนาระบบสารสนเทศหรือผู้จัดการศูนย์คอมพิวเตอร์
อาจมีชื่ออื่น เช่น
ผู้บริหารด้านระบบสารสนเทศขององค์กร (Chief Information Officer : CIO)
หรือ IRM Manager (Information Resource Management Manager)
หรือ ผู้จัดการศูนย์คอมพิวเตอร์ (Electronics Data Processing Manager)
มีหน้าที่กำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์ วางแผน จัดการงบประมาณ เตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และบุคลากร
ส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เท่าทัน

2. หัวหน้าฝ่ายหรือผู้ดูแลเกี่ยวข้องกับระบบและโปรแกรม
มีอยู่หลายส่วน ประกอบด้วย
- นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) และออกแบบระบบ (System Designers) เน้นด้านพัฒนาระบบขึ้นมา
- วิศวกรระบบ (System Engineer) เน้นการใช้งานฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
- วิศวกรซอฟท์แวร์ (Software Engineer) ดูแล และวิเคราะห์ ประเมินผลการใช้งานซอฟท์แวร์ คุมโครงการ
- ผู้บริหาระบบเครือข่าย (Network Administrator) ดูแลเครือข่าย
- นักโปรแกรมระบบ (System Programmer) เข้าใจฮาร์ดแวร์ในระบบ และใช้ระบบปฏิบัติการได้เป็นอย่างดี
- นักพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ (Application Programmer) ดูแลและพัฒนาระบบในความรับผิดชอบ
- ผู้บริหารระบบฐานข้อมูล (Database Administrator : DBA) ดูแลด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
- นักพัฒนาโปรแกรม หรือผู้เขียนโปรแกรม (Programmer) พัฒนาโปรแกรมภายใต้ข้อกำหนด เพื่อนำไปใช้งาน

3. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์
- ผู้ปฏิบัติงานคอมพิวเตอร์ (Computer operator) เป็นผู้ดูแล บำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
- ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ (Computer User) เป็นผู้ให้ข้อมูล หรือบันทึกข้อมูลแก่คอมพิวเตอร์
ต.ย. ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมทางเทคโนโลยี หรือปัญหาทางจริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์ [5] ปัญหานั้น มีแหล่งกำเนิดได้ 3 แหล่ง
1. ปัญหาการขาดจริยธรรมของนักคอมพิวเตอร์
เช่น การนำข้อมูลลับไปเผยแพร่ต่อ
2. ปัญหาการขาดจริยธรรมของผู้ใช้ระบบเครือข่าย
เช่น การส่งสแปม
3. ปัญหาการก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์
เช่น แ ฮ ก เ ก อ ร์ หรือ แ ค ร ก เ ก อ ร์
ซึ่ง ปัญหาการก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในระบบคอมพิวเตอร์
โดยเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "แ ฮ ก เ ก อ ร์"
เป็นกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญในการถอดรหัสที่ป้องกัน และเจาะระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องเป้าหมายได้
การกระทำของพวกเขามักผิดทั้งจริยธรรม และกฎหมาย
การป้องกันอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ การป้องกันอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Preventing computer crime) จากการเรียนรู้เทคนิคการเจาะข้อมูลของนักก่อกวนคอมพิวเตอร์ (Hacker) ทั้งหลาย องค์กรต่าง ๆ สามารถหาวิธีที่เหมาะสมเป็นการป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้
1. การว่าจ้างอย่างรอบคอบและระมัดระวัง (Hirecarefully) ดังที่ได้เคยกล่าวไว้แล้วว่าปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มาจากพนักงานภายในองค์กร ดังนั้นในกระบวนการจ้างคนเข้าทำงานต้องดูคนที่ซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ เป็นการยากที่จะสรรหาคนดังกล่าว แต่เราสามารถสอบถามดูข้อมูลอ้างอิงเก่า ๆ ของเขาได้ หรือดูนิสัยส่วนตัวว่าดื่มสุรา สูบบุหรี่ และเล่นการพนันหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ประกอบกันเข้าจะเป็นสิ่งบ่งชี้นิสัยของคนได้
2. ระวังพวกที่ไม่พอใจ (Beware of malcontents) ปัญหาหลักในการป้องกันอาชญากรคอมพิวเตอร์ก็คือพนักงานในองค์กรนั้นเอง พนักงานเหล่านั้นมีความรู้และความเชียวชาญในระบบคอมพิวเตอร์แต่ไม่พอใจการบริหารงานของผู้บังคับบัญชาเนื่องจากไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่ บางครั้งถูกให้ออกจากงาน และเกิดความแค้นเคือง ทำให้มีการขโมย การทำลาย หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่สำคัญภายในองค์กร
3. การแยกหน้าที่รับผิดชอบของพนักงาน (Separate employee function) ในกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกันเรากำหนดและบ่งบอกว่าใครคนใดคนหนึ่งเป็นอาชญากรทางคอมพิวเตอร์นั้นคงยาก มีวิธีการใดบ้างที่จะแก้ปัญหาถ้าหากมีคนไม่ดีซึ่งประสงค์ร้ายต่อข้อมูลขององค์กร ได้มีหลายบริษัททีเดียวที่พยายามจัดรูปแบบการทำงานของพนักงานที่คาดว่าน่าจะล่อแหล่มต่อการก่ออาชญากรรมข้อมูล เป็นต้นว่า คนที่มีหน้าที่จ่ายเช็ค (Check) ในองค์กรก็ไม่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ปรับข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเดือน หรือแม้แต่ในบางธนาคารก็จะกันพื้นที่จำเพาะบางส่วนในเช็คไว้ให้เป็นพื้นที่สำหรับเจ้าของเช็คได้ทำการเซ็นชื่อ
4. การจำกัดการใช้งานในระบบ (Restrict system use) คนในองค์กรน่าที่จะมีสิทธิในการใช้ทรัพยากรข้อมูลเท่าที่เหมาะสมกับหน้าที่งานของเขาเท่านั้น แต่ก็ยากที่จะบ่งชี้ชัดแบบนี้ องค์กรเองต้องหาขั้นตอนวิธีใหม่ในการควบคุมข้อมูลที่สำคัญขององค์การ เราอาจจะไม่อนุญาตให้พนักงานมีการดึงหรือเรียกใช้ข้อมูลเกินลักษณะงานที่เขาควรจะเรียนรู้ โดยซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สามารถควบคุมการใช้ข้อมูลดังกล่าวได้ ยิ่งกว่านั้นเราควรกำหนดขั้นตอนการทำงานและลักษณะการใช้งานของข้อมูลไว้ด้วย ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับชนิดของข้อมูล และลักษณะเฉพาะขององค์กรนั้น ๆ เองด้วย
5. การป้องกันทรัพยากรข้อมูลด้วยรหัสผ่านหรือการตรวจสอบการมีสิทธิใช้งานของผู้ใช้ (Protect resources with passwords or other user authorization cheeks a password) รหัสผ่าน (Password) เป็นกลุ่มข้อมูลที่ประกอบไปด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์อื่น ๆ ที่ประกอบกันเข้า และใช้สำหรับป้อยเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเราสามารถที่จะใช้งานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ได้อย่างถูกต้อง และจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มคนที่มีรหัสผ่านเท่านั้น เช่น การใช้งานคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Mainframe) และการใช้งานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั้นจำเป็นต้องใช้รหัสผ่าน เพราะระบบดังกล่าวออกแบบมาสำหรับผู้ใช้หลาย ๆ คน และใช้ในเวลาเดียวกันได้ด้วยอย่างไรก็ตามรหัสผ่านต้องได้รับการเปลี่ยนอยู่เรื่อย ๆ ในช่วงเวลากำหนด ทั้งนี้เพื่อป้องกันและลดการล่วงรู้ไปถึงผู้อื่นให้น้อยที่สุด
6. การเข้ารหัสข้อมูลโปรแกรม (Encrypt data and programs) การเข้ารหัสข้อมูลเป้นกระบวนในการซ้อนหรือเปลี่ยนรูปข้อมูลและโปรแกรมให้อยู่ในรูปของรหัสชนิดใดชนิดหนึ่ง เพื่อไม่ให้คนอื่นทราบว่าข้อมูลจริงคืออะไร ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญขององค์กรจำเป็นต้องเข้ารหัสก่อนการส่งไปยังผู้รับซึ่งอาจจะจัดหาโปรแกรมการเข้ารหัสที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือจะพัฒนาขึ้นมาใหม่เองก็ได้ ในปี ค.ศ 1988 วิธีการเข้ารหัสข้อมูลได้รับการพัฒนาขึ้นจากสำนักกำหนดมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา และธนาคารก็ได้ใช้ในการทำธุรกิจของตนเอง และการติดต่อกับกรมธนารักษ์ด้วย
7. การเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของระบบข้อมูล (Monitor system transactions) ในการเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของระบบข้อมูลเคลื่อนไหว หรือระบบจัดทำรายการต่าง ๆ นั้นจะมีโปรแกรมช่วยงานด้านนี้โดยเฉพาะโดยโปรแกรมจะคอยบันทึกว่ามีใครเข้ามาใช้ระบบบ้าง เวลาเท่าใด ณ ที่แห่งใดของข้อมูล และวกลับออกไปเวลาใดแฟ้มข้อมูลใดที่ดึงไปใช้ปรับปรุงข้อมูล เป็นต้นว่า ลบ เพิ่ม เปลี่ยนแปลงอื่น ๆ นั้นทำที่ข้อมูลชุดใด
8. การตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ (Conduct frequent audit) อาชญากรคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะถูกเปิดเผยและถูกจับได้โดยความบังเอิญ บางครั้งก็ใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะจับได้ ในกรณีตัวอย่างของนาย M. Buss และ Lynn salerno ได้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในการลักลอบดึงข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตจากสำนักงานเครดิตและใช้บัตรดังกล่าวซื้อสินค้าคิดเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ และในที่สุดถูกจับได้เมื่อบุรุษไปรษณีย์ เกิดความสงสัยว่าทำไมถึงมีจดหมายและพัสดุต่าง ๆ
9. การให้ความรู้ผู้ร่วมงานในเรื่องระบบความปลอดภัยของข้อมูล (Educate people in security measures) พนักงานทุกคนควรต้องรู้ระบบความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กรเป็นอย่างดี ในกรณีตัวอย่างของพนักงานไม่พอใจผู้บริหารอาจเนื่องมาจากการที่ไม่ได้รับเลื่อนตำแหน่งหน้าที่ หรือเรื่องอื่น ๆ พนักงานในลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะคุกคามระบบความปลอดภัยข้อมูลขององค์กร โดยพยายามที่เข้าไปดูข้อมูลที่สำคัญขององค์กร และสอบถามข้อมูลที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยซึ่งไม่ใช่ภารกิจหรือหน้าที่ของพนักงานคนดังกล่าวที่จะต้องทำเช่นนั้น
ข้อมูลจาก http://bcom-technology.blogspot.com/2012/02/blog-post_238.html
การลักลอบดักข้อมูล (Data Interception) การลักลอบดักข้อมูล หมายถึง การลักลอบดักข้อมูลโดยวิธีการทางเทคนิค (Technical Means) เพื่อลักลอบดักฟัง ตรวจสอบหรือติดตามเนื้อหาสาระของข่าวสารที่สื่อสารถึงกันระหว่างบุคคล หรือกรณีเป็นการกระทำอันเป็นการล่อลวง หรือจัดหาข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น รวมทั้งการแอบบันทึกข้อมูลที่สื่อสารถึงกันด้วย ทั้งนี้วิธีการทางเทคนิคยังหมายถึง อุปกรณ์ที่มีสายเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย และหมายรวมถึงอุปกรณ์ประเภทไร้สาย เช่น การติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
kmitl.ac.th/agritech/nutthakorn/04093009_2204/isweb/Lesson%2028.htm
การเข้ารหัส (Cryptography หรือ Encryption) การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) หมายถึง วิธีการที่ทำเปลี่ยนแปลงข้อมูลเพื่อไม่ให้สามารถแปลความได้จากบุคคลที่เราไม่ต้องการให้เขาเข้าใจข้อมูล ส่วนการถอดรหัสข้อมูล นั้นจะมีวิธีการที่ตรงกันข้ามกับการเข้ารหัสข้อมูล กล่าวคือการถอดรหัส (Decryption) หมายถึง วิธีการที่ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ได้จากการเข้ารหัสข้อมูล เป็นข้อมูลก่อนที่จะถูกทำการเข้ารหัส การที่จะทำให้ข้อมูลเป็นความลับ จุดหลักคือ ต้องไม่ให้ข้อมูลความลับนี้ถูกอ่านโดยบุคคลอื่น แต่ให้ถูกอ่านได้โดยบุคคลที่เราต้องการให้อ่านได้เท่านั้น โดยการนำเอาข้อความเดิมที่สามารถอ่านได้ (Plain text,Clear Text) มาทำการเข้ารหัสก่อน เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อความเดิมให้ไปเป็นข้อความที่เราเข้ารหัส (Ciphertext) ก่อนที่จะส่งต่อไปให้บุคคลที่เราต้องการที่จะติดต่อด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นสามารถที่จะแอบอ่านข้อความที่ส่งมาโดยที่ข้อความที่เราเข้ารหัสแล้ว
nextproject.net/contents/?00044
ถูกใส่ร้ายว่าติดกล้องแอบถ่าย
24 ธ.ค.57 หนุ่มคนหนึ่ง ชีวิตพังเพราะโดนใส่ร้ายจากมนุษย์กล้อง ว่าเขาเป็นโรคจิต ติดกล้องแอบถ่ายไว้ในรองเท้า เป็นตัวอย่างหนึ่งของการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Violation of Privacy) และผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 397 ผู้ใดในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#เช็คก่อนแชร์ youtube.com/watch?v=4YPyJHG8sqs http://news.ch7.com/detail/185345
ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
สิทธิในความเป็นส่วนตัวหรือ สิทธิส่วนบุคคล หมายถึง สิทธิของบุคคลที่ประกอบไปด้วยสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว ในเรื่องดังกล่าวน่าจะจัดอยู่ในเรื่องของความเป็นอยู่ส่วนตัวซึ่งหมายความว่า สถานะที่บุคคลจะรอดพ้นจากการสังเกต การรู้เห็น การสืบความลับ การรบกวนต่าง ๆ และความมีสันโดษ ไม่ติดต่อสัมพันธ์กับสังคม โดยทั้งนี้ ขอบเขตที่บุคคลควรได้รับการคุ้มครองและการเคารพในสิทธิส่วนบุคคลก็คือการดำรงชีวิตอย่างเป็นอิสระ มีการพัฒนาบุคลิกลักษณะตามที่ต้องการ สิทธิที่จะแสวงหาความสุขในชีวิตตามวิถีทางที่อาจเป็นไปได้และเป็นความพอใจตราบเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนและไม่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
อีกความหมายคือ สิทธิที่มีเพียงลำพังที่จะควบคุมข้อมูลที่จะให้เปิดเผยเพียงใด ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองค์กร เช่น facebook สามารถกำหนดได้ว่าจะให้เห็นคนเดียว เพื่อน หรือสาธารณะ เมื่อมีการโพสต์ข้อมูลในแต่ละครั้ง และนั่นคือสิทธิความเป็นส่วนตัว
pub-law.net/publaw/view.aspx?ID=609
ซึ่งสิทธิในความเป็นส่วนตัวหรือสิทธิส่วนบุคคล นี้เป็น สิทธิขันพื้นฐาน มีบัญญัติไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 35
มาตรา 35 สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่ ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ ส่วนตัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการแสวงประโยชน์โดยมิชอบจากข้อมูล ส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ เป็นต้น
http://th.wikipedia.org

บุคคลมีสิทธิที่จะอยู่โดยลำพัง
พรบ. จะคุ้มครองสิทธิที่จะอยู่โดยลำพัง ไม่ให้ถูกละเมิด

News of the world
หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ
? เด็กหญิง Milly Dowler ชาวอังกฤษวัย 13 ปี
? นักข่าวจ่ายเงินติดสินบนผิดกฎหมายให้ตำรวจ
? Mulcaire และ Clive Goodman ติดคุกในความผิด
ฐานล้วงข้อมูล voicemail สมาชิกราชวงศ์อังกฤษ
ความถูกต้อง (Information Accuracy) ความถูกต้อง หมายถึง ความที่ข้อมูลคงสภาพเดิมจากแหล่งที่มา ไม่เปลี่ยนแปลงระหว่างการประมวลผล ย่อมมีความน่าเชื่อถือ แล้วนำข้อมูลที่ถูกต้องเข้าไปจัดเก็บ ก็จะทำให้สิ่งที่จัดเก็บนั้นมีความถูกต้อง หากเป็นข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลขยะเข้าไป ก็จะเก็บขยะ เรียกใช้ก็จะได้ขยะ ดังคำว่า Garbage in, Gargage out แล้วข้อมูลที่ถูกต้องจะต้องมีการตรวจสอบอย่างเหมาะสม เช่น ข้อมูลผลการเรียน ข้อมูลเงินฝาก ข้อมูลยอดขาย หากข้อมูลไม่ถูกต้องก็จะทำให้องค์กรไม่น่าเชื่อถือ ดังที่ ประธานและผู้บริหารระดับสูงอีก 7 คนของ "โตชิบา" ยื่นใบลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีอื้อฉาวแต่งบัญชีบริษัท
ความเป็นเจ้าของ (Information Property) สิทธิความเป็นเจ้าของ หมายถึง กรรมสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์สิน อาจเป็นทรัพย์สินจับต้องได้ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ หรือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่จับต้องไม่ได้ เช่น เพลง ซอฟท์แวร์ แต่สามารถถ่ายทอด และบันทึกไว้ได้
คำสำคัญ ref.
- Copyright หรือ software license จ่ายเงินซื้อ เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการนำมาใช้
- Shareware ได้สิทธิ์ในการทดลองใช้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
- Freeware ได้สิทธิ์ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพร่ได้
ความเป็นเจ้าของบทความใน wikipedia.org
ผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิกิพีเดียบางคนอาจรู้สึกเป็นเจ้าของสิ่งที่ตนได้ร่วมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นบทความ แม่แบบ หมวดหมู่ ไฟล์ภาพ ไฟล์เสียง หรือแม้แต่สถานีย่อย ผลจากความรู้สึกนี้ทำให้เขากีดกันการแก้ไขบทความนั้นจากผู้ใช้อื่น ซึ่งโดยแท้จริงแล้วการเอาใจใส่ต่อบทความที่คุณสนใจในหน้ารายการเฝ้าดูนั้นอาจสื่อถึงความที่คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ หรือบทความนั้นเป็นสิ่งที่คุณสนใจ แต่หากการเอาใจใส่ถึงหน้านั้น ๆ เริ่มทำให้คุณถือว่าบทความนั้นเป็นของตนเอง การกระทำเช่นนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ความเชื่อที่ว่าบทความใด ๆ ก็ตามนั้นมีเจ้าของเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ง่ายในวิกิพีเดีย
เมื่อคุณเลือกเขียนบทความในวิกิพีเดียแล้ว คุณไม่สามารถกันไม่ให้ผู้อื่นมาแก้ไขบทความ "ของคุณ" ได้ ตามที่ระบุไว้เมื่อมีการแก้ไขหรือสร้างหน้าใหม่ว่า ถ้าไม่ต้องการให้งานของคุณถูกแก้ไขอย่างเสรี กรุณาอย่าส่งผลงานนั้นเข้ามาในวิกิพีเดีย เช่นเดียวกัน หากคุณเห็นว่าการจัดหมวดหมู่ รูปแบบ ลักษณะการเขียนแบบใดน่าจะเหมาะสมกับวิกิพีเดีย แต่ไม่อยากให้มีการแก้ไขหรือปรับปรุงอีกระหว่างนั้น อย่าบันทึกการปรับปรุงนั้น
กรณีที่คุณแก้ไขท่ามกลางสงครามการแก้ไข[2] คุณอาจหาเวลาหยุดพักจากบทความนั้นก่อนชั่วคราว แล้วค่อยกลับมาดูใหม่ทีหลังก็ยังได้ กรณีที่มีผู้ใช้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบทความ ลองคุยกับผู้เขียนคนอื่น ๆ ในหน้านั้น พูดคุยในหน้าพูดคุยและหาทางลดการโต้เถียงลง อย่างไรก็ดี แม้ไม่มีใครเป็นเจ้าของบทความของวิกิพีเดียก็ตาม การเคารพนับถือในการแก้ไขและแนวความคิดของผู้ใช้คนอื่นก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นหากต้องการนำเนื้อหาใด ๆ ออกหรือเรียบเรียงเนื้อหาใหม่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหานั้นเขียนโดยผู้เขียนคนใดคนหนึ่ง การพูดคุยปรึกษาเพื่อพัฒนาบทความคู่กับผู้เขียนที่เขียนเนื้อหานั้น ๆ แทนที่จะต่อต้าน จะทำให้การเขียนบทความมีประสิทธิภาพมากกว่า
wiki: ความเป็นเจ้าของบทความ
การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) การเข้าถึงข้อมูล หมายถึง การกำหนดให้มีการเข้าตามระดับ หรือสิทธิที่ระบบมอบให้กับผู้ใช้แต่ละคน เพื่อรักษาความลับของข้อมูลในแต่ละหน่วยงาน ในหน่วยงานเดียวกันก็จะมีสิทธิไม่เหมือนกันต่อข้อมูลแต่ละรายการ ที่จะ read, insert, update หรือ delete
หัวหน้าทีมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น "อาซาฮี" พลาด โพสต์อวัยวะเพศในกลุ่มไลน์
27 ก.ค.58 นักข่าวพลาดโพสต์ของลับเข้ากลุ่มนักข่าวที่ใช้อย่างเป็นทางการของไทย โฆษกสถานีวิทยุโทรทัศน์ 'อาซาฮี' สื่อใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ขอโทษ แล้วนักข่าวผู้ไม่มีการเปิดเผยชื่อรายนี้ถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมอย่างยิ่งของเขา ซึ่งผิดหลักจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพราะความเป็นส่วนตัวก็ต้องเป็นส่วนตัวจริง ที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ แต่พฤติกรรมถ่ายของลับแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะถ้าพลาดเหมือนที่พลาดนี้ ก็จะทำลายอนาคตได้ทันที จึงเป็นบทเรียนว่า ไม่ควรถ่ายรูป อวัยวะเพศ หรือการร่วมเพศของตน เพราะอาจหลุดไปที่ไหน ๆ ได้ เช่น !pantip.com แอนนาที่คลิปหลุดกับแฟนเก่า หรือ แนนนี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ กับ โจ หรือ แตงโม ภัทรธิดา กับ ด็อจ บีมิกซ์
Ethics of information technology using = PAPA [2]p.358
(Richard Mason อ้างอิงใน O'Brien 1996:599)
กฎหมายอาญา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ทั้งจำ ทั้งปรับ

ต้นปี 2561 มีกระแส เรื่องเด็ก ๆ อย่างรุนแรง
เห็นกระแสฝั่งชื่นชม กลบ กระแสฝั่งตำหนิ
สิ่งที่ทำได้คงมีไม่มากนัก ก็ลอง ๆ ทำกันไปได้
แต่มีบางคนก็ "ช่างกล้า" ออกมาให้เห็น
จนใครก็คงไม่กล้าออกมา แสดงความเห็นตำหนิ
หากมี ก็จะโดนสังคมเหยียบย่ำจนจมดินว่า "คิดลบ"
ใครไม่คิดบวก จะถูกคลื่น social เหยียบให้มิดจมดิน
.. จำไว้เลยนะครับ
.. ว่าเราต้องพึ่งพาสังคมกันอยู่
มนุษย์เรา เล่นเกมยิงปืน
พอเล่นบ่อย ๆ
ก็อยากยิงนอกเกมบ้าง
เหมือนดูซีรีย์เกาหลี
ก็อยากมีแฟนเป็นพระเอก
ต.ย. คล้าย โชซงฮุย
ฆ่าหมู่นศ.มะกัน
Mark Salling ผู้แสดงซีรีส์ Glee มีสื่อ "อะ-นา-จาน" เด็กในคอมฯ ผิดกฎหมาย
พบว่า มีการเปิดเผยสาเหตุการตาย ของ Mark Salling ผู้แสดงซีรีส์ Glee ที่มีปัญหาทางจิต ว่าเค้าเสียชีวิตที่ park in the San Fernando Valley เค้ากำลังจะถูกทำการพิพากษาวางโทษ กรณี "มี child p0rn" .. ใน eonline.com : ".. he awaited sentencing in a chiId p0rn0gra_phy case. .." ส่วนใน matichon.co.th ระบุชัดว่า เค้ากำลังจะขึ้นศาล คดีมีภาพอนาจารของผู้เยาว์กว่า 50,000 ภาพในครอบครอง ทั้งใน laptop และ storage
ตามกฎหมายไทย
ที่ต้องสอดคล้องกับ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของสหประชาชาติ พบใน พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ.๒๕๕๘ ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ (PDF) ระบุว่ามีสื่อที่ว่านี้ 1) ครอบครอง ก็ผิด จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 2) ส่งต่อ ก็ผิด จำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000
ตาม กฎหมายอาญา ใน ilaw.or.th
"มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
"มาตรา 287/2 ผู้ใด (1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก (2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก (3) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท"
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime หรือ Cyber Crime)
อาชญากรรมหลายรูปแบบ ดังนี้
1. ลักลอบขโมย (Thief) หรือดักดูข้อมูล (Sniffer) ทำให้ข้อมูลที่ถูกปกปิดไว้รั่วไหล
2. ละเมิดสิทธิ (Pirate) ทำให้ผู้มีสิทธิถูกต้องตามกฎหมายเสียผลประโยชน์
3. แพร่ภาพ เสียง ลามก อนาจาร และข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (Illegal media) ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถูกเผยแพร่
4. ก่อกวน หรือทำลายระบบสาธารณูปโภค (Disturb) ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
5. หลอกลวงให้ร่วมค้าขาย หรือลงทุนปลอม (Fraudulent) ทำให้เสียเงินลงทุนค้าขายที่ไม่เกิดขึ้นจริง
6. โอนเงินจากบัญชีผู้อื่นเข้าบัญชีของตน (Bank transfer) ทำให้เสียเงินที่สะสมไว้ ด้วยการโอนเงินให้คนที่ไม่รู้จัก
หมายเหตุ ย้ายการฟอกเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ออก เพราะน่าจะเกิดขึ้นในทางธุรกิจมากกว่าคอมพิวเตอร์
http://www.bua-yai.ac.th/../ethies_back.html *
http://www.microsoft.com/../cybercrime.aspx
http://www.thaiall.com/pptx/crime.pptx
http://www.thaiall.com/blog (เตือนภัย call center)
20 พ.ย.57 ทลายแก๊งคอลฯ ใช้เชียงใหม่โทรตุ๋นเหยื่อจีน

อาชญากรคอมพิวเตอร์
คือ ผู้กระทำผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนสำคัญ มีดังนี้
1. Novices คือ พวกมือสมัครเล่น
2. Queer คือ พวกจิตไม่ปกติ
3. Dreamer คือ พวกบ้าลัทธิ
4. Hacker คือ พวกเจาะระบบคอมพิวเตอร์
5. Cracker คือ พวกชอบก่อความเสียหาย
6. Organized Criminal คือ พวกกลุ่มอาชญากรที่ร่วมมือกัน
7. Career Criminal คือ พวกอาชญากรมืออาชีพ

Fraud [#]
N. การโกง การหลอกลวง การฉ้อฉล เล่ห์ ผู้หลอกลวง นักต้ม ของปลอม คนหลอกลวง syn:(cheat)(deception)(trick) ต.ย. เผยโฉม 10 กลโกงทางอินเทอร์เน็ต

การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
1. ใช้รหัสผู้ใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password)
2. ใช้อุปกรณ์ทางกายภาพ (Physical Device) เช่น บัตรแม่เหล็ก หรือกุญแจ
3. ใช้อุปกรณ์ทางชีวภาพ (Biometric Device) เช่น ลายนิ้วมือ หรือเสียง
4. ระบบเรียกกลับ (Callback System) เช่น ระบบยืนยันตัวตนด้วยอีเมล
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ประเภทต่าง ๆ (จากเว็บ microsoft)
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่อยู่บนระบบดังกล่าว ส่วนในมุมมองที่กว้างขึ้น "อาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์" หมายถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งอาศัยหรือมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมประเภทนี้ไม่ถือเป็นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์โดยตรง
ในการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 10 ว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด (The Tenth United Nations Congress on the Prevention of Crime and the Treatment of Offenders) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา เมื่อวันที่ 10-17 เมษายน 2543 ได้มีการจำแนกประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท คือ การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต, การสร้างความเสียหายแก่ข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์, การก่อกวนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย, การยับยั้งข้อมูลที่ส่งถึง/จากและภายในระบบหรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจารกรรมข้อมูลบนคอมพิวเตอร์
โครงการอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (Cyber-Crime and Intellectual Property Theft) พยายามที่จะเก็บรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล และค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 6 ประเภท ที่ได้รับความนิยม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและผู้บริโภค นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับขอบเขตและความซับซ้อนของปัญหา รวมถึงนโยบายปัจจุบันและความพยายามในการปัญหานี้
อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้แก่
1. การเงิน – อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจในการทำธุรกรรม อี-คอมเมิร์ซ(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)
2. การละเมิดลิขสิทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมายรวมถึง การละเมิดลิขสิทธิ์ ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์
3. การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การเจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่น ๆ (เช่น การปลอมแปลง การก่อการร้าย ฯลฯ)
4. การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่วไป โดยการกระทำที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน หรืออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว
5. ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกำหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผลหรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตามข้อกำหนด 47 USC 223 การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารในรูปแบบใด ๆ แก่เยาวชนถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางใหม่สำหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่องวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง
6. ภายในโรงเรียน – ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่เยาวชนจำเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดยเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด
บทความโดย : กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์
ข้อมูลจาก microsoft.com/thailand/piracy/cybercrime.aspx
DoS = Denial of Service

techliebe.com
DoS (Denial of Service) เป็นภัยคุกคามแบบหนึ่งทางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และเครื่องบริการ เมื่อมีผู้ไม่หวังดี (Attacker's PC) ต้องการโจมตี เพื่อให้เครื่องเป้าหมาย (Target PC) ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ ด้วยการส่งคำร้องขอรับบริการ (Request) ไปยังเครื่องเป้าหมาย (Victim Website) เป็นปริมาณมากอย่างท่วมท้น (Flood) ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ (Zombie PC) จำนวนมากที่เคยยึดไว้ จนไม่อาจให้บริการผู้ใช้ทั่วไปได้ (Unable to response) วิธีที่ผู้ไม่หวังดีทำ (How to) คือ การเข้าควบคุมเครื่องเหยื่อที่ไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ เครื่องใดถูกควบคุมได้จะเรียกว่า Zombie PC ส่วนเครื่องเหยื่อที่คุมไม่ได้แต่ต้องการโจมตี เรียกว่า Victim Website ในการโจมตีนั้น ผู้ไม่หวังดี (Intruder) จะส่งคำสั่งให้เครื่อง Zombie PC ทุกเครื่อง ส่งความต้องการปริมาณมากพร้อมกัน ไปยังเครื่องเป้าหมายเครื่องเดียว เมื่อรับความต้องการปริมาณมากแล้วตอบสนองไม่ได้ ก็จะปฏิเสธคำร้องขอข้อมูล ถ้าเครื่องของผู้ใช้ทั่วไปส่งคำร้องปกติเข้าไปในภายหลัง หรือในระหว่างที่ถูกโจมตี ก็จะได้รับข้อความว่า Unable to connect ซึ่งตัวอย่างหนึ่งของการโจมตี คือ F5 ถล่ม Single gateway หรือ คลิปอธิบายเรื่อง DoS
ผู้เชี่ยวชาญ (expert or technician) ผู้เชี่ยวชาญ (expert) คือ ผู้ชำนาญ หรือผู้มีประสบการณ์ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ หรือ ผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นในสาขาใดสาขาหนึ่ง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอาจแบ่งได้ 2 แบบ คือ ภายนอกองค์กร กับภายในองค์กร ถ้าเป็นภายในองค์กร หมายถึง ผู้ดูแลรับผิดชอบงานด้านไอที เช่น ผู้ดูแลเครื่องบริการ ผู้ดูแลเครือข่าย ผู้ดูแลห้องปฏิบัติการ ผู้ให้การสนับสนุนด้านซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ เป็นต้น
ตัวอย่างผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
จอห์น รัตนเวโรจน์ (นูโว) นายกสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2552 (ie show)
หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ผู้จัดรายการ แบไต๋ไฮเทค
สุภาภรณ์ มารมย์ (it update)
ปานระพี รพีพันธุ์ (it 24 Hrs)
กิตติพล อัจฉริยากรชัย (ie metapolis)
ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ (daily it)
ปริญญา หอมเอนก (cyber911) [selfsolve]

จริยธรรมสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ACM (Association for Computing Machinery) = สมาคมผู้ใช้เครื่องจักรคำนวณ
1. ACM ได้กำหนด GENERAL MORAL IMPERATIVES
1.1 ช่วยเหลือมนุษย์และสังคม (Contribute to society and human well-being)
1.2 หลีกเลี่ยงการทำอันตรายต่อผู้อื่น (Avoid harm to others)
1.3 ซื่อสัตย์และประพฤติตนให้น่าไว้วางใจ (Be honest and trustworthy)
1.4 ยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ (Be fair and take action not to discriminate)
1.5 เคารพในสิทธิความเป็นเจ้าของรวมทั้งลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรของผู้อื่น (Honor property rights including copyrights and patent)
1.6 ให้เครดิตแก่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา (Give proper credit for intellectual property)
1.7 เคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น (Respect the privacy of others)
1.8 รักษาความลับของข้อมูล (Honor confidentiality)

2. ACM ได้กำหนด MORE SPECIFIC PROFESSIONAL RESPONSIBILITIES
As an ACM computing professional I will ....
2.1 มุ่งมั่นทำงานให้สำเร็จ มีคุณภาพสูงสุด มีประสิทธิผล และมีศักดิ์ศรีอย่างมืออาชีพ ทั้งในกระบวนการและผลิตภัณฑ์
(Strive to achieve the highest quality, effectiveness and dignity in both the process and products of professional work)
2.2 ทั้งการจัดหาและการบำรุงรักษา ทำเต็มความสามารถอย่างมืออาชีพ
(Acquire and maintain professional competence)
2.3 รู้และเคารพกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทำงานอย่างมืออาชีพ
(Know and respect existing laws pertaining to professional work)
2.4 ยอมรับและให้มีการตรวจสอบความเป็นมืออาชีพอย่างเหมาะสม
(Accept and provide appropriate professional review)
2.5 สร้างความเข้าใจ และมีการประเมินครอบคลุมระบบคอมพิวเตอร์ที่ส่งผลกระทบทั้งหมด รวมถึงการวิเคราะห์ความเสี่ยง
(Give comprehensive and thorough evaluations of computer systems and their impacts, including analysis of possible risks)
2.6 รับผิดชอบต่อสัญญาเกียรติยศ ข้อตกลง และการได้รับมอบหมาย
(Honor contracts, agreements, and assigned responsibilities)
2.7 พัฒนาให้สาธารณชนมีความเข้าใจ และรู้ผลกระทบเกี่ยวกับการประมวผล
(Improve public understanding of computing and its consequences)
2.8 การเข้าถึงการประมวลผล และทรัพยากรต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น
(Access computing and communication resources only when authorized to do so)

3. ACM ได้กำหนด ORGANIZATIONAL LEADERSHIP IMPERATIVES
As an ACM member and an organizational leader, I will ....
3.1 ประสานองค์กร ชุมชน สมาชิก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมให้มีการยอมรับอย่างเต็มกำลัง
(Articulate social responsibilities of members of an organizational unit and encourage full acceptance of those responsibilities)
3.2 จัดการบุคลากร และทรัพยากร เพื่อสร้างระบบสารสนเทศ ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตการทำงาน
(Manage personnel and resources to design and build information systems that enhance the quality of working life)
3.3 รับทราบ สนับสนุน และให้สิทธิ์การใช้ทรัพยากร เพื่อการประมวลผล และการสื่อสารในองค์กร
(Acknowledge and support proper and authorized uses of an organization's computing and communication resources)
3.4 ทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้องจะใช้ระบบที่ถูกตรวจสอบผลกระทบจากการประเมินและออกแบบว่าตรงกับความต้องการได้ชัดเจน
(Ensure that users and those who will be affected by a system have their needs clearly articulated during the assessment and design of requirements; later the system must be validated to meet requirements.)
3.5 ประสานและสนับสนุนนโยบายป้องกันสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้ และที่จะกระทบระบบประมวลผลอื่น ๆ
(Articulate and support policies that protect the dignity of users and others affected by a computing system)
3.6 เปิดโอกาสให้สมาชิกขององค์กรได้เรียนรู้หลักการทำงาน และข้อจำกัดของระบบคอมพิวเตอร์
(Create opportunities for members of the organization to learn the principles and limitations of computer systems.)
ค่านิยม
รศ.สุพัตรา สุภาพ
ค่านิยม คือ ความเชื่อ หรือความรู้สึกนึกคิดของบุคคล มีช่วงระยะเวลาในการสร้างขึ้นมา แล้วดำเนินอยู่จนกลายเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และกลายเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของบุคคล ตัวอย่างของค่านิยม เช่น ความรักในอิสรภาพ ความซื่อสัตย์ หรือความเชื่อฟัง ซึ่งจะแสดงออกเป็นพฤติกรรม

อิทธิพลของค่านิยมที่มีต่อพฤติกรรมของบุคคล
รองศาสตราจารย์สุพัตรา สุภาพ ได้แบ่งค่านิยมสังคมเมืองและค่านิยมสังคมชนบทของสังคมไทย ไว้ดังนี้
ค่านิยมสังคมเมือง
1. เชื่อในเรื่องเหตุและผล 2. ขึ้นอยู่กับเวลา 3. แข่งขันมาก 4. นิยมตะวันตก 5. ชอบจัดงานพิธี 6. ฟุ่มเฟือยหรูหรา 7. นิยมวัตถุ 8. ชอบทำอะไรเป็นทางการ 9. ยกย่องผู้มีอำนาจผู้มีตำแหน่ง 10.วินัย 11. ไม่รักของส่วนรวม 12. พูดมากกว่าทำ 13. ไม่ชอบเห็นใครเหนือกว่า 14. เห็นแก่ตัวไม่เชื่อใจใคร
ค่านิยมสังคมชนบท
1. ยอมรับบุญรับกรรมไม่โต้แย้ง 2. ขึ้นอยู่กับธรรมชาติ 3. เชื่อถือโชคลาง 4. ชอบเสี่ยงโชค 5. นิยมเครื่องประดับ 6. นิยมคุณความดี 7. นิยมพิธีการและการทำบุญเกินกำลัง 8. ชอบเป็นฝ่ายรับมากกว่าฝ่ายรุก 9. ทำงานเป็นเล่น ทำเล่นเป็นงาน 10. พึ่งพาอาศัยกัน 11. มีความเป็นส่วนตัวมากเกินไป 12. รักญาติพี่น้อง 13. มีความสันโดษ 14. หวังความสุขชั่วหน้า
เอกสารอ้างอิง
สุพัตรา สุภาพ. (2540). สังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช จำกัด.
สุพัตรา สุภาพและคณะ. (2533). หนังสือเรียนสังคมศึกษา ส401. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช จำกัด.
http://joommyjang.blogspot.com/2012/02/blog-post.html
http://www.novabizz.com/NovaAce/Behavior/
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=891925

29 ก.ค.57 ตร. เผยผลการศึกษาวิจัยว่าปี 2551-2556 มีตำรวจฆ่าตัวตายถึง 172 คน เฉลี่ยปีละ 29 นาย และเมื่อเปรียบเทียบแล้วจะมีอัตราสูงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า เนื่องจากเครียดงาน ส่วนตัว หนี้สิน ครบองค์ประกอบก็มักจะก่อเหตุเศร้าสลด เพราะมีอาวุธอยู่ใกล้ตัว
http://www2.thairath.co.th/content/440802
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000086013
ค่านิยมไทย 12 ประการ

ข้อมูลจาก .. เดลินิวส์
ฉบับวันที่ 17 ก.ค. 2557 (กรอบบ่าย)
moe.go.th

คำคมวันนี้
อุดมการณ์ = จินตนาการ
ปฏิบัติการ = ความเป็นจริง
ถ้าปฏิบัติการ ห่างไกลอุดมการณ์มากนัก
ก็จะมีคนเห็นว่า ห่างล่ะ
สพฐ.รับลูก คสช.สร้างค่านิยมคนไทยใหม่
ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)
เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง
ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า...
ที่ประชุมได้หารือถึงการสร้างค่านิยมหลักของคนไทย
ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เข้มแข็ง โดยต้องสร้างคนในชาติ
ให้มีค่านิยมไทย 12 ประการ ได้แก่
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน
3. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม
5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์
7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
9. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ
10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
12. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว กับภาครัฐ
ในเวทีประกวด Miss Universe ที่ Atlanta, Georgia, USA. ปี 2019
Steve Harvey ถามว่า "การเฝ้าระวังของรัฐบาลนั้น เพื่อรักษาประเทศและประชาชนของพวกเขาให้ปลอดภัย แต่บางคนเชื่อว่านี่เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเรา อะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับคุณ ระหว่าง ความเป็นส่วนตัว หรือความปลอดภัย"
ฟ้าใส ตอบว่า "นั่นเป็นคำถามที่ยากมาก ฉันเชื่อว่าทุกประเทศมีนโยบายของรัฐบาล ที่จะทำให้เราปลอดภัย และฉันเชื่อว่ามันไม่ควรล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของเรา เพราะเรามีสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัวของตนเอง"
ต่อด้วย "แต่การรักษาความปลอดภัยก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ดังนั้นฉันเชื่อว่าเพื่อให้สังคมดีขึ้น เราควรให้รัฐบาลมองหาความพอดีที่อยู่กึ่งกลาง ในการเข้าถึงความเป็นส่วนตัว ที่จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้"
หลังอ่านคำถาม และคำตอบแล้ว ถ้าผมเป็นผู้ตอบ แล้วมีโอกาสมีเวลา จะตอบว่า "รัฐบาลมีหน้าที่ป้องปราบการละเมิดสิทธิ รวมถึงสอบสวนในยามที่มีเหตุการณ์ร้าย อาจต้องเข้าถึงข้อมูลระดับบุคคลในระดับหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนไม่ถูกละเมิดโดยผู้ไม่ประสงค์ดี แล้วหลบหนีได้ โดยสรุป สังคมที่ปลอดภัยคือสังคมที่ภาครัฐปกป้องประชาชนได้ และอาจต้องเข้าถึงข้อมูลความเป็นส่วนตัวได้เท่าที่จำเป็น"
#7 อาชญากรรมผ่านสื่อทางคอมพิวเตอร์
ต.ย.7.1 - แฟนทางเน็ตให้โอนภาษีค่าสินสอด ค่าสิ่งของ

โอนเงินค่าภาษีและค่าประกันสิ่งของ
ก่อนไปรับของ จากวิศวกรชาวต่างชาติที่รู้จักผ่านเว็บหาคู่
หนุ่มที่คบหากันผ่าน Facebook
ขอแต่งงานกับสาวไทย
แจ้งว่าจะมอบเงินสินสอด 15 ล้านบาท แต่มีภาษีสี่หมื่นกว่าบาท
ถือเป็นการลงทุนเรื่อง "ความรัก" จ่ายภาษีไปให้กับแฟนหนุ่ม
โอนไปให้ เดี๋ยวเค้าก็โอนส่งเงินก้อนใหญ่ใส่เป็นพัสดุกลับมาให้
ติดปัญหา คือ โอนไปแล้ว หนุ่มไม่เอาเงินใส่กล่องส่งพัสดุกลับมา
ถือว่าผิดจริยธรรมระหว่างคนที่รักกันอย่างแรง
http://www.khaosod.co.th/ .. ?newsid=1454493054
ในข่าวเรียกหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้ว่า "กลุ่มมิจฉาชีพ"
บางกรณีพูดคุยกันทั้ง Line และโทรศัพท์ แล้วส่งเงินมาให้
แต่มีค่าใช้จ่าย ต้องหลายครั้ง
ครั้งแรก 12,800 ครั้งที่สอง 58,000 ครั้งที่สาม 35,000 ครั้งที่สี่ 120,000
ต.ย.7.2 - เกียรติ ศักดิ์ศรีนั้น มีแต่พอดีก็น่าจะพอ มีมาก ๆ แล้วเป็นทุกข์
ค้นสาเหตุการจากไปของดอกเตอร์
แล้วไปพบการเขียนบันทึกของผู้ก่อเหตุจาก google.com
ในบันทึกก่อนสิ้นชีพ พบหลายหน้า
ท่านบอกว่ากระทำไปเพราะถูกหยามหมิ่น เบียดเบียน หมิ่นเกียรติศักดิ์ศรี
ทิ้งท้ายด้วยคำว่า "คนเรา ฆ่าได้ หยามไม่ได้"
รายละเอียดเป็นการให้การฝ่ายเดียว
เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การเผยแพร่เอกสารจึงไม่ควรเกิดขึ้น
mthai.com
---
เรื่องของเกียรติศักดิ์ศรี ทำให้นึกถึงเพลง "กูเป็นนักศึกษา"
เนื้อเพลง
ทุกวันทุกวัน เห็นเขารีบออกไป แต่งตัวทันสมัย ขับรถซิ่ง
อื้อหืออ้าหา เทวดาฟ้าดิน กุ๊กกิ๊กดุ๊กดิ๊ก สะดิ้งมาเต็มคัน
ชาวบ้านยืนมอง แล้วอดใจไม่ไหว เอ่ยถามขึ้นทันใด ว่าไอ้หนุ่มเอ๋ย
* ( มึงเป็นใคร ) กูเป็นนักศึกษา นักล่าปริญญา ใฝ่ฝันขึ้นไปเป็นใหญ่
( แล้วยังไง ) กูจะรวยน่ะสิวะ ความรู้กูแน่นหนา กูจะมาเป็นนายมึง
รำพึงรำพัน น้อยใจวาสนา ไม่มีการศึกษา อนาคตสั่นไหว
จับกังคนงาน ยังฝันหวานเกินไป น้อยอกน้อยใจ ไม่ได้เป็นนักศึกษา
เข้าเธคเข้าบาร์ ดึ๊บดั๊บกันเข้าไป ชาติจะเป็นยังไง ไม่ใช่เรื่องนักศึกษา
( * )
ชาวบ้านถามว่า คุณจะทิ้งผมไปไหน ยากจนเข็ญใจ รอให้คุณนำพา
คุณขึ้นสวรรค์ ผมไม่เคยคิดอิจฉา ขอเถอะคุณจ๋า อย่าทิ้งผมไปไหน
( * )
( มึงเป็นใคร ) กูเป็นนักศึกษา นักล่าปริญญา ใฝ่ฝันขึ้นไปเป็นใหญ่
( แล้วยังไง ) กูจะรวยนะสิวะ ความรู้กูเหนือกว่า กูจะมาเป็นนายมึง
เพลง "กูเป็นนักศึกษา"

ชาวบ้านมีคำถามในใจ "เป็นนักศึกษาแล้วไง"
ต.ย.7.3 - มีสาเหตุ จึงได้ มีผล
ตามข่าว เว็บไซต์หั่วซาน กำลังฟ้องร้อง ไซน่านิวส์ (Sina News) ที่พาดพิงว่า "เว็บไซต์เหล่านั้นทำกำไรในฐานะตัวกลาง" หากถามว่า ใครคือสาเหตุ ทำให้อู๋ หย่งหนิงถึงคราว ได้มีการพูดถึงสาเหตุ หลังทราบผล มักคาดไปตามประสบการณ์
กรณี - ลูกศิษย์ถามสาเหตุที่สอบตกจากอาจารย์ ที่ขาดไป 1.2
กรณี - ถามที่มา ที่ทำให้ อู๋ หย่งหนิง มีพฤติกรรมเสี่ยงตกตึก
กรณี - ถามที่มาของนาฬิกาหรู หลังถ่ายภาพหมู่
กรณี - เมษ มังกรบิน ยกล้อเฉี่ยว 18 ล้อ ล้มแขนหัก
ทุกเรื่องราวล้วนมีต้นเหตุ สาเหตุ หรือบุคคลต้นเหตุ หรือ กรณีนักศึกษาติดเกม ไม่เข้าเรียน ไม่ตั้งใจเรียน ไม่จดบันทึก ไม่ส่งการบ้าน มีสาเหตุมาจากอะไร ที่ทำให้นักศึกษามีพฤติกรรมเช่นนั้น ที่มีอิทธิพลต่อ การคิด การพูด การแสดงออก มักพบว่า มาจากบุคคลต้นเหตุ แล้วเขาเหล่านั้นคือใคร
Movie : Gifted - สะท้อนว่า ผลจะเป็นอย่างไร ย่อมเกิดแต่เหตุ
ต.ย.7.4 - โกงเงินคนในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง
เคยเห็นข่าว #เสือดำ กับ #นาฬิกา ในช่วงที่ผ่านมา
หรือ ลวงเช่ากระบะลงใต้ วางยาในกาแฟ ให้กินจนตายแล้วชิงรถ
หรือ ครูจอมทรัพย์ หรือหวย 30 ล้าน ต่างมีสิ่งที่เรียกว่า สืบสวนสอบสวน
และทำให้นึกถึงคนที่เค้าโกงเงิน ของคนใน #ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง
ที่ น.ศ. คณะมนุษย์ฯ ม.มหาสารคาม ทนไม่ได้
และในวิชาจริยธรรมฯ มีประเด็นเรื่องความเชื่อ
ในกระบวนการยุติธรรม ที่อาจเชื่อได้ไม่ถึง 100%
มีกรณีศึกษา กระบวนการสืบสวนสอบสวน ทำสำนวนส่งฟ้องศาล
ที่เป็นส่วนของ 1% หรือน้อยกว่า ที่ทำให้สำนวนคลาดเคลื่อน
เหตุเมื่อ 15 ก.พ.61 เรียกรับเงิน 20000 ของตำรวจที่ลำปาง
#8 กรณีศึกษาการใช้เครือข่ายสังคมในปัจจุบัน
ต.ย.8.1 - พ่อซื้อ iphone เพื่อให้ลูกนำไปโรงเรียน .. ไม่งั้น ก็ไม่ไป
อ่านข่าวของอินโดนีเซียใน stomp.com รายงานเรื่องน่าสะเทือนใจในครอบครัว ว่าพ่อวัยชรา ซึ่งมีอาชีพขายชาอยู่ริมถนน (street tea seller) ยอมควักเงินที่เก็บออมหลายหมื่น เพื่อซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ไอโฟน 6 พลัสให้ลูกสาว เพราะลูกสาวอับอายไม่ยอมไปโรงเรียน หากไม่มีมือถือรุ่นใหม่แบบเพื่อน ๆ
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงคำว่า กตัญญูกตเวที (Gratitude) นี่ถ้าลูกสาวเค้ามีคำนี้อยู่ในใจ แล้วมองความเป็นจริงของครอบครัว เรื่องแบบนี้คงไม่ปรากฎออกมาเป็นข่าว บางทีน้องเขาอาจมีอัตตา คือ ยืดมั่นถือมั่นในตัวเองน้อยไป แต่ไปยึดมั่นถือมั่นในคนอื่น ในสังคม ในค่านิยมของชาวบ้าน จนไปเบียดเบียนอัตตา หรือความมีตัวตนที่แท้จริงของตนให้ลดลงก็ได้ แล้วเคยอ่านข่าวว่า หนุ่มจีน ยอมขายไต เพื่อนำเงินไปซื้อไอโฟน อันที่จริงมีตัวอย่างทำนองนี้อีกมากในยุควัตถุนิยม ที่สื่อสังคมครอบงำชีวิตผู้คน [ข่าวสด]
ที่เชียงใหม่ ป.1 เทอมแรก 38000 บาท แต่ ป.1 ep เทอมแรก 72000 บาท
ต.ย.8.2 - รถเห็ดเผาะของพ่อค้าคว่ำ ชาวบ้านช่วยเก็บ
คำถาม : นักศึกษาอ่านข่าวเรื่องนี้เพิ่มเติม แล้วสะท้อนคิด ให้ฟังหน่อย
หลักข้อที่ 1 ความโลภ เคยเห็นพระท่านบอกว่าหนึ่งในกิเลส ความโลภ คือ อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน ภาพนี้เหมือนที่พระท่านว่าเลย แสดงว่าในบริเวณนั้นมีคนโลภ
หลักข้อที่ 2 เหมารวม อ่านอีกที คนลำปางนี่ ผมก็คนลำปางด้วย ญาติติโก โหติกาของผมมีเยอะด้วย ถ้าคนมีกิเลส เป็นคนไม่น่าคบ และพูดเหมารวมถึงคนทั้งจังหวัด นี่จะต้องเลิกคบตัวเองด้วยไหมนี่ เพราะไม่ชอบคบคนมีกิเลส ไม่ได้การล่ะ คงต้องคบตัวเองต่อไป ยังย้ายจิตสำนึกแบบ x-men ไม่ได้ สรุปว่าหลักข้อที่ 1 ไม่เป็นธรรมต่อผมเอง ขอคบตนเองต่อไปล่ะกัน
หลักข้อที่ 3 แบ่งแยก อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเราเก็บไว้ อะไรไม่เป็นประโยชน์ก็ leap frog ซะ คิดแบบหัวหน้าเลย และเหมือนที่ พุทธทาสพูดถึงคนส่วนมาก เลย
เห็ดเผาะ มักเป็นเห็ดที่ได้จากการเผาป่า หลังเผาป่าในภาคเหนือก็จะมีเห็ดออกบนดิน เห็ดตกดิน ก็เก็บมาขายได้ เจ้าของไม่ทิ้งหรอกครับ ใหม่ ๆ ลิตรละหลายร้อย ตอนนี้เหลือร้อยกว่า ๆ เก็บเห็ดเผาะตกข้างถนน ถุงนึงก็ 2 - 3 ร้อยแล้ว
ต.ย.8.3 - ตนเองสวยกว่า ก็บอกว่าสวยกว่า
สมัยนี้ทำอะไร ดีงาม ก็คิดว่าต้องโชว์ ตัวอย่างนี้มีการทบทวนวรรณกรรม เปรียบเทียบกับคนอื่นในสังคม แล้วถ่ายภาพเปรียบเทียบว่า "ตนเองสวยกว่า หลังตัดผมสั้นมา" แล้วโพสต์ข้อความประกอบภาพว่า "ผมสั้น สวยไม่จริงตัดไม่ได้นะ ดูความแตกต่าง" กรณีนี้ขาดจริยธรรม 2 ข้อในเบื้องต้น คือ 1) ความเคารพนับถือผู้อื่น (Consideration) 2) ความถ่อมตัว (Modesty) [blog]
บางคนสนใจคำว่า มากกว่า สวยกว่า จัดตงจัดเต็มอะไรเงี้ย หลังไปทำอะไรมา แล้วอยากให้ใคร ๆ ได้รู้ ได้เห็น มีความรู้สึกต่อตนเองในเชิงบวก ซึ่งการถูกเปรียบเทียบแบบนี้ ผู้ถูกเปรียบเทียบไม่ชอบ แล้วประเด็นนี้สังคมตัดสินว่า "ไม่ถูกต้อง" เพราะไม่มีใครชอบถูกพูดในทำนอง พอใจ น้อยกว่า ด้อยกว่า ต้องปรับปรุง หรือต้องปรับปรุงเร่งด่วน จนผู้เสียหายทางจิตใจ "รู้สึกรับไม่ได้" กับคำเปรียบเทียบเช่นนั้น เป็นเหตุให้คุณแม่ของผู้เสียหาย ไปแจ้งความดำเนินคดี "เอาเรื่องถึงที่สุด" คำว่า ขอโทษ ไม่เพียงพอ อยากให้เป็นตัวอย่างของผู้คนในสังคม ส่วนผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 มาตราใด ต้องไปอ่านดูกันครับ .. ชวนคิด
http://www.thaiall.com/article/law.htm
http://www.dailynews.co.th/regional/528806
https://www.youtube.com/watch?v=zFNOwf2Ou5o
https://www.youtube.com/watch?v=1BGrkTdY-tI
ชวนคิดเรื่อง แห่แชร์ อ.เศรษฐศาสตร์ สอนลูก "ลูกอย่าเผลอคิดว่า ตัวเองเป็นคนดีเป็นอันขาด"
ต.ย.8.4 - การุณยฆาตจากข่าว เห็นสุนัขนอนเจ็บ ถูกรถชน ตัดใจใช้ท่อนเหล็กทำการุณยฆาตในแบบของเขา
http://www.thaiall.com/blog/burin/8243/
http://www.posttoday.com/local/south/469769

สัตวแพทย์ฆ่าตัวตาย หลังกลุ่มคนรักสัตว์ประณาม การุณยฆาตสุนัขจรจัดล้นศูนย์พักพิง
http://www.manager.co.th/China/viewnews.aspx?NewsID=9590000054017

ที่ สวิตเซอร์แลนด์ พูดถึงสิทธิที่จะตาย (Right to Die) และการุณยฆาต (Mercy Killing)
กลุ่มเอ็กซิท เอ.ดี.เอ็ม.ดี. ช่วยการจบชีวิตตนเองได้ตายอย่างสงบหลายร้อยรายในแต่ละปี
http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/584910

ในไทยมีมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550
ได้บัญญัติให้บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุข
เพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้ โดยการดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาดังกล่าว
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
ในกฎกระทรวงสาธารณสุขลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553
http://www.gogood.in.th/upload/article/F_51_2.%E0%B8%A3
ต.ย.8.5- ความแตกต่างทางความคิด

เก็บเป็น กรณีศึกษา .. เมื่อเห็นการแสดงความคิดเห็นของผู้คน รวมถึงตนเอง ทำให้รู้ว่ากำลังคิด คิดเหมือนบ้าง คิดต่างบ้าง ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง มีความแตกต่างทางความคิดเยอะ ล่าสุด พม่าขอให้หยุดฉายละคร .. เห็นคนไทยเม้นแล้ว สนใจขึ้นมาเลย บอกได้เลยว่า บางคนชอบ และบางคนไม่ชอบ
ปกติแล้ว มนุษย์เรามักเลือกที่จะชอบ
เมื่อเล่าเรื่องของคนอื่น = ชอบ
เมื่อคนอื่นเล่าเรื่องเรา = ไม่ชอบ
---
โน๊ตพูดไว้ "คิดต่างเชิญทางอื่น" ในเดี่ยว 9
---
คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ก็พูดไว้ว่า
"ฟังเรื่องคนอื่นกำลังมีปัญหา ก็สงสารนะ
แต่ถ้าเป็นเรื่องตัวเอง จะทุกข์จนทนอยู่ไม่ได้เลย"
---
มีภาพยนตร์หลายเรื่องถูกห้ามฉาย
เพราะอาจมีเหตุผลว่าบิดเบือน
ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น
1. พม่า ขอให้หยุดฉาย เพลิงพระนาง
2. ไทย ห้ามฉาย Anna and the King
3. อาบัติ ที่ต้องปรับเนื้อหายกใหญ่ ด้วยเหตุผลเรื่องศรัทธา
ต.ย.8.6 - หลักเหมารวม หรือ หลักตัวแทน ต้องยึดความมีเหตุผล
มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่น่าชื่นชม .. แต่มีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ต้องตักเตือน
แล้ว อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ได้แสดงความเห็น
โดยใช้คำว่า ".. พี่น้องชาวลำปางครับ ตั้งแต่ดูไลฟ์พี่ตูนมา วันนี้ถือว่าป็นอีกวันที่แย่มาก ๆ ไม่ช่วยกันดูแลพี่ตูนเลย ทั้งวิ่งเข้ามาขวางขบวน กระชาก ดึง ฝ่าแถวเข้ามากอดรัด เอาของมาให้ถือ ให้แบก ให้เซ็น มึงรู้ไม๊ .. "
หลังโพสต์ ได้มีคนที่ใช้ หลักเหมารวม เข้าไปแสดงความเห็นต่อโพสต์ จนต้องลบโพสต์ก่อนหน้านี้
แล้ว อีเจี๋ยบ เลียบด่วน ก็ออกมาชี้แจงว่า ".. เพราะมีพวกที่ด่าแหลกเหมารวม คนทั้งจังหวัด .." และ ".. และไม่อยากให้มาแบ่งแยกจังหวัดโน้นนี้ ด่ากัน ทะเลาะกัน .."
กรณีนี้เห็นได้ว่า มี หลักความเป็นตัวแทน กับ หลักเหมารวม
คำเดียวกัน บางทีก็ใช้เป็นตัวแทน แต่บางทีบางคนก็ตีความเหมารวม ก็ขึ้นกับการตีความในแต่ละบุคคล
เหมือนคำว่า "ระบบการศึกษามันไม่ได้เรื่อง" อันนี้จะเหมารวม หรือ ตัวแทนดีนะ เพราะในระบบการศึกษา มีทั้งเรื่องครู การสอน การสอบ เนื้อหา โรงเรียน กระทรวง ซ๊ะป๊ะ เหมือนเรือจ้าง ที่มีทั้ง ตัวเรือ ลูกเรือ ผู้โดยสาร ระบบบริหารจัดการเรือจ้างแต่ละลำ หรือระบบเรือจ้างทั้งหมด
ต.ย.8.7 - ไม่โกงเวลาที่ทำงาน = มีความซื่อสัตย์สุจริต (Honesty)
มีเรื่องราวมากมายในสื่อสังคม ที่เข้าเกณฑ์
no comment, no share, no like, no post หรือ unfriend
กรณีนี้เกี่ยวข้องกับ ความตรงเวลา
สิ่งที่ทำได้ คือ ชวนร้องเพลงตอนเช้า หรือเปิดเพลงให้ฟังบ่อย ๆ
จะทำให้เป็นคนตรงต่อเวลา
เข้างานก่อนเวลา เลิกงานแล้ว ค่อยก้าวเท้าออกนอกประตู
เพลง ตรงต่อเวลา
ต.ย.8.8 - การแสดงความเห็นในสื่อสังคม เรื่องจำนวน ส.อบต.
19 ธ.ค.60 มีข่าวว่าเสนอร่างกฎหมาย มีผลให้ลด ส.อบต. เหลือหมู่บ้านละ 1 คน จากเดิมที่มีหมู่บ้านละ 2 คน เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินไปได้ 4.7 พันล้านต่อปี หากมีคนถามผมเรื่องความเหมาะสมของจำนวน ก็ตอบได้ทันทีเลยว่า "ไม่เห็นด้วย" เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก โดยใช้สามัญสำนึก สรุปว่าผมจะใช้ประเด็นนี้เป็นกรณีศึกษา เรื่องคุณธรรมจริยธรรมในสื่อสังคมได้เลย คำถามแบบนี้มีในสื่อสังคมมากมาย มีให้ผู้คนเข้าไปแลกเปลี่ยนกันได้ทุกวัน การร่วมแสดงความเห็นนั้น ขึ้นกับว่า "ใครฟัง" ถือเป็นเกณฑ์ประเมินคำตอบที่สำคัญมากที่สุด เมื่ออยู่ในสื่อสังคม (Social Media)

ก็เหมือนผลสำรวจที่ออกมาว่า อาชีพ Net idol ที่กำลังมาแรง ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตามว่างแรงแค่ใด
พบจากที่ Time Chuastapanasiri บอกว่า เด็กไทย จะเป็นเน็ตไอดอลกันหมด หรือไง
ถ้าเป็นคำถามนะครับ ผมก็ตอบได้ว่า "ไม่หมด" .. ตอบง่ายครับ
ต.ย.8.9 - ทีมคนเก่ง กับ ทีมคนดี .. ใครชนะ
หัวหน้าแชร์คลิปนี้มา มีนัยว่า "ให้ดูนะ"
ชอบหลายคำ .. หักมุมตลอด
เรื่อง คนเก่ง กับ คนดี แข่งกันไปเอาเงิน
.. ผลคือ คนดีตายเรียบ
.. เพราะ บริษัทมักเลือกคนเก่ง มากกว่าคนดี
.. มีการทักด้วย "ว่าหัวหน้าพายช้าว่ะ"
.. ใช้คุณธรรมนำความสามารถ
.. เงินแคบเกินกว่าจะเป็นกติกาทั้งหมดของชีวิต
ศึกษาเพิ่มเติม "www.สานต่อที่พ่อทำ.com"
https://www.youtube.com/watch?v=dWhqKpkQgwM
ต.ย.8.10 - Hate Speech - Aggresion in Social Media

อ้างอิง isranews.org
ความก้าวร้าว (Aggression) คือ พฤติกรรมที่มีเจตนาในการทำร้ายหรือทำลายผู้อื่น ด้วยวิธีที่แตกต่างเพื่อให้ผู้อื่นบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจ ซึ่งความก้าวร้าวมีในมนุษย์ทุกคน เพราะสัญชาตญาณความก้าวร้าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อยู่รอด ส่งผลให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากร จับคู่ และป้องกันอาณาเขต เมื่อมนุษย์ผู้เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นผู้มีปัญญา มีวิจารณญาณ มีความฉลาด เราก็เลือกที่จะไม่แสดงความก้าวร้าวทางตรง แต่อาจใช้บางอย่างเป็นตัวแทนของเรา (Avatar) เพื่อการแสดงออกในการเอาชนะที่สามารถยอมรับได้ เป็นการระบายความก้าวร้างอย่างสร้างสรรตามสัญชาติญาณ
อาทิ เห็นเค้าด่ากัน ก็สุขใจล่ะ เหมือนได้ร่วมวงเสวนา เมื่อขยับเข้าไปในเหตุการณ์เหล่านั้นใกล้ขึ้นอีกนิด บางคน ขอไลท์นิด บางคน ขอแชร์หน่อย บางคน ขอผสมโรง ด่าเค้าด้วยคน บางคน คิด hate speech คำใหม่ให้เลย บางคน ฉีกประเด็นเป็น subtree ใหม่ เช่น กรณีศึกษาน้องเมยเสียชีวิตระหว่างเรียน มีประเด็นแตกไปหลาย subtree ไปถึงรองนายกฯ และแก้วสรร หรือ กรณีศึกษาครูจอมทรัพย์ มีประเด็นแพะ แกะ ความยุติธรรม และการบริจาค หรือ กรณีศึกษา ดร.วันชัย ที่ นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการด้านสื่อ ชี้ว่า "ข่าวการถ่ายทอดสด การล้อมจับ/ฆ่าตัวตายของดร.วันชัย" สามารถ "เรียกเรตติ้งจากยอดผู้ชมได้" เพราะฉะนั้น ก็ เป็นไปตามนั้นนะครับ ว่า "เลือด ดราม่า และความรุนแรง" สามารถเอามาขายเป็นธุรกิจได้ ไม่ต้องมาดราม่าต่อนะครับ ว่าทำเพราะหน้าที่สื่อหรือไม่ หรือ อ้างเหตุผลอะไร วิจารณญาณสื่อ กับ กำไร ก็ชั่งน้ำหนักเอานะครับ
ต.ย.8.11 - โหลด ภาพโป๊ในที่ทำงาน /ในเวลาเรียน คือ ขาดความมีระเบียบวินัย
เรื่องโหลดภาพโป๊
ย่อมขัดต่อกฎระเบียบและข้อบังคับ ในสถานที่ต่าง ๆ อย่างแน่นอน ขณะประชุม แล้วโหลดภาพโป๊ ย่อมขัดกับวัตถุประสงค์ของการประชุม ขณะเรียนหนังสือ แล้วโหลดภาพโป๊ สมาธิคงกระเจิดกระเจิงไม่อยู่กับอาจารย์แล้ว ที่อังกฤษ มี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายก ถูกให้ออก เพราะมีกฎระเบียบในเรื่องเหล่านี้ หลังพบภาพลามกอนาจารในเครื่องคอมพิวเตอร์ ของรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ เมื่อปี 2008 (ปัจจุบัน 21 ธ.ค.2017) ถือว่าเป็นการทำผิดกฎระเบียบ ด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้รองนายกฯ จะออกมาปฏิเสธ แต่เค้าก็ไม่ฟัง
แล้วหวนนึกถึง ข่าวเมื่อ 4 ปีก่อน ที่มีการนั่งดูภาพโป๊ของนักการเมือง ส.ว. ในประเทศไทย เมื่อ 6 ก.ย.2013 ซึ่งนักการเมืองท่านก็มีเหตุผล และชี้แจงได้ ว่าไม่มีเจตนา และนักข่าวก็เรียกข่าวแบบนี้ว่า "ข่าวฉาว"

จะมีใครไหมนะ คิดว่า
คนอื่นดูภาพโป๊ .. ผิดใหญ่หลวง
เราดูภาพโป๊ .. ธรรมดา ชิลชิล
ต.ย.8.12 - เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม : ทางแยกเกาะคา
อ่านโพสต์ในกลุ่ม Lampang City
มีสมาชิก จำนวน 198,079 คน ณ 25 พ.ย. 2560 แล้วได้อ่านโพสต์ เล่าปัญหาเลี้ยวเข้า-ออก อ.เกาะคา หากมาจาก อ.เมือง เข้า อ.เกาะคา ต้องเลี้ยวขวา หากออกจาก อ.เกาะคาไป อ.สบปราบ ต้องเลี้ยวขวา ทำให้ต้องเลี้ยวตัดถนนเส้นหลักที่มาจาก อ.สบปราบ เข้า อ.เมือง การไม่รอกัน หรือรอนานจนทนไม่ได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เค้าเสนอให้มีไฟสัญญาณจราจร และผู้คนก็เข้าไปร่วมแลกเปลี่ยน comment กว่า 310 รายการ like กว่า 2.2K
เกือบทั้งหมดเห็นด้วยที่ควรมีสัญญาณจราจร แต่มีอยู่คนหนึ่ง เค้าตอบยาว ๆ มา 2 comment ทำให้เห็นได้ว่าตอนนี้มี 2 ทางเลือก ที่กรมทางหลวงต้องเลือก
1) ความปลอดภัยกับผู้ใช้เส้นทางเข้า-ออก อ.เกาะคา จ.ลำปาง ผลคือ คน อ.เกาะคา มีความปลอดภัย และสะดวก ไม่ต้องหยุดรอรถทางตรง แต่ คนผ่าน อ.เกาะคา ไป อ.เมือง จะไม่สะดวก เพราะหยุดรอไฟเขียว
2) ความสะดวกผู้ผ่าน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ผลคือ คนผ่าน อ.เกาะคา ไป อ.เมือง มีความสะดวก ไม่ต้องหยุดรอไฟเขียว แต่ คน อ.เกาะคา ไม่ปลอดภัย ไม่สะดวก และต้องหยุดรอรถทางตรง
[Siwatnidhikul Suwarojh ตอบมา 2 ครั้ง ยาว ๆ หน่อย ผมกด like ทั้ง 2 เลย]
ประเด็นสำคัญ คือ รถเข้า-ออก อ.เกาะคา มีน้อย จะมีมากเฉพาะในเวลาเร่งด่วน และ รถทางตรงเป็นเส้นหลัก เค้าไม่อยากหยุด และถ้ามีก็ต้องมีที่บ้านอื่นด้วย อันตรายพอ ๆ กัน อยากให้ใช้ความระมัดระวังแทนการใช้สัญญาณไฟจราจรมาควบคุม
อ่าน Comment ที่ ครั้งแรก และ ครั้งที่สอง
Comment อื่น ๆ : แนะนำทางเลือกอีกหลายทาง หากไม่มีสัญญาณจราจร
1. ทำทาง U-Turn ข้างหน้า
2. ทำทางลอด
3. ทำสะพานลอย
ต.ย.8.13 - พฤติกรรมมนุษย์ตาม ทฤษฎีเกี่ยวกับสัญชาตญาณ คือ หลีกหนีปัญหา
ข่าวเมื่อ 1 ธ.ค.60 เล่าถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน ก็มีพฤติกรรมของมนุษย์หลายฝ่ายในเหตุการณ์นี้ ที่สะท้อนถึงการใช้สัญชาตญาณ แยกแยะได้ดังนี้ 1) call center, 2) bank employee, 3) owner of a bank account, 4) viewer ฝ่ายแรกก็ต้องการหลอกให้ฝ่ายเหยื่อโอนเงินให้ตนโดยมิชอบ ส่วนฝ่ายที่สามก็รับจ้างเปิดบัญชี โดยทั้งหมดมีผู้ชมเข้าไปกดไลท์กดแชร์ จนเป็นบทความข่าวที่รับรู้กันทั่วไปในหมู่คนไทย คือ "คุมหนุ่มลำปางเจ้าของบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสาวแบงค์สอบ! สารภาพรับจ้างเปิดบัญชี" หรือ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์เจอตอ หลอกตุ๋น พนง.ธนาคารไทยพาณิชย์" โดยทุกคนเชื่อว่ากระแสข่าวนี้ จะทำให้คนไทยคิดได้ คือ 1) รับจ้างเปิดบัญชีน้อยลง 2) ถูกหลอกให้โอนเงินน้อยลง 3) ทำอาชีพปลอมเป็นนายร้อยนายพันน้อยลง การมีแก็งนี้อยู่ ก็สะท้อนว่าชาวแก็งทำสำเร็จ และมีผู้ถูกหลอกจริงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมักตัดสินใจตามสัญชาตญาณของการหลีกหนีปัญหาที่พาตนเองเข้าไปสู่ปัญหา หรือ "ยิ่งหนีปัญหา ยิ่งเจอปัญหา" ก็จะกระทำตามขั้นตอนที่ได้รับคำแนะนำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วก็ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในที่สุด
ต.ย.8.14 - เถ้าแก่ขาด ความเคารพนับถือผู้อื่น และ ความไม่เห็นแก่ตัว
ข่าวเถ้าแก่โรงปลาหมึก ไล่แรงงานไทย ไม่ให้อยู่ในห้อง ทั้งที่สภาพอากาศหนาวหนักมาก และมีการเตือนคนไทย ว่ามีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น จากสภาพอากาศที่เลวร้าย สะท้อนว่าเถ้าแก่ขาดจริยธรรม เรื่อง ความเคารพนับถือผู้อื่น (Consideration) และ ความไม่เห็นแก่ตัว (Selflessness)
ข่าวจากสื่อสังคม : https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_674099
ต.ย.8.15 - ความอุตสาหะ ของ dev. สาย Sleepless
มีนิสิตคนหนึ่งลงสเตตัสว่า "ยังไม่ได้นอน" รู้สึกชื่นชมนะครับ เพราะสะท้อนถึงความอุตสาหะ ความมุ่งมั่น และความไม่ย่อท้อ ผมตัดสินสเตตัสครั้งนั้น จากความเชื่อว่า ช่วงหลังสอบ หรือ กลางภาคการศึกษา นิสิตมีเวลาที่จะเรียนรู้เรื่องราวแบบ Self learning แล้วขณะโพสต์นั้น เค้าคงกำลังเรียนรู้ผ่าน การทดสอบโปรแกรมใหม่ ติดตั้งระบบใหม่ หรือแกะโปรแกรมอยู่ ตามฝันที่ได้ปักหมุดไว้ แต่พบปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ ติดขัดอยู่ ทำให้ไม่ได้หลับได้นอน เรียกว่า bug และยัง debug ไม่ผ่าน ปัญหาด้านพัฒนาโปรแกรมแบบนี้ มักค้นพบวิธีแก้ไขได้ใน Stack Overflow
ต.ย.8.16 - รวยจริง หรือขายฝัน
ระเทศไทยมีธุรกิจ MLM หรือ ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ทั้งหมด 1020 บริษัท ข้อมูลเมื่อ 5 ธันวาคม 2560 จาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดย ธุรกิจขายตรง คือ การทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ในลักษณะของการนำเสนอขายแบบบุคคลต่อบุคคล ซึ่งห่างจากที่ตั้งร้านค้าปลีกถาวร โดยบริษัทผู้ประกอบการนำเสนอโอกาสทางธุรกิจให้กับนักขายตรงอิสระ ผู้ขายตรงใช้การอธิบายหรือการสาธิตสินค้าเป็นกลยุทธ์หลักในการเสนอขาย แล้วรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม คือ ระบบขายตรงหลายชั้น ( Direct selling- Multi Level Marketing , MLM )

มีเรื่องชวนคิด เกี่ยวกับธุรกิจที่เป็นคำถามว่า "รวยจริง หรือ ขายฝัน" ดังนี้ ถ้ามีกลุ่มคนมาชวนปลูกพืช A บอกว่ารวย ๆ ใครก็รวย ๆ ภาคนู้น ภาคนี้ก็รวย มีทีมวิชาการ ทีมปล่อยกู้ ทีมปุ๋ย ทีมยา ทีมพันธุ์พืช ทีมรับซื้อ ชวนเราไปรวย และบอกว่าต้องปลูกเป็นกลุ่ม จะรวยกว่าปลูกคนเดียว เวลามาหนุนเป็นกลุ่ม ก็รวย ๆ เป็นกลุ่ม ชวนเพื่อนมาได้ ก็จะมียอดซื้อเข้ามา จึงมีส่วนลดให้ มีค่าเสียเวลาให้ ชวนมากได้มาก ชวนน้อยได้น้อย ถ้าสำเร็จก็เป็นศูนย์เรียนรู้ มีเงินหนุนอีก ทำเยอะ ได้เยอะ ลงทุนเยอะ ได้เยอะ พอเรารวย ๆ ก็เปิดเผยให้ใคร ๆ มาดูงาน แล้วให้เค้าไปทำแบบเรา เด๊ะ ๆ จะได้รวย ๆ กันหมด แต่ฝันนั้นเป็นจริงกับคนที่มุ่งมั่น คนที่ไม่มุ่งมั่นก็จะทุนหาย กำไรหด เวลาราคาในตลาดตก เราก็ตกด้วย

ปล. ไม่เกี่ยวกับธุรกิจขายฝันนะ เพราะนี่เป็นธุรกิจขายพืช A แบบผลิตเอง ขายเอง แต่กินเองไม่หมด และต้องมุ่งมั่น จึงจะไม่เป็นหนี้เป็นสิน
คำถาม คือ ถ้าไม่มุ่งมั่น และเป็นหนี้สิน ขอเงินคืนได้ไหม
ต.ย.8.17 - สธ.หวังสร้างศรัทธา สั่งห้ามหมอชาร์จแบต
"สธ.หวังสร้างศรัทธา สั่งห้ามหมอ-พยาบาลใช้ทรัพย์สินราชการ ห้ามชาร์จมือถือในที่ทำงาน" เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
เมื่อมีข่าวในสังคมมากระทบการรับรู้ของเรา เราก็จะมีปฏิกิริยาตอบกลับ ตามความเชื่อที่มีในแต่ละบุคคล แต่ปฏิกิริยาสะท้อนกลับของแต่ละคน อาจสะท้อนความเชื่อได้เพียงระดับหนึ่ง เพราะมีองค์ประกอบมากมาย ทำให้ประเมินสารที่ออกมา คลาดเคลื่อนไป ไม่ว่าจะเขียน พูด หรือพฤติกรรม ก็ตาม เพราะบางคนเก็บกด บางคนกลัวแสดงออก บางคนสื่อผ่านเขียน และพูดไม่เป็น
ต.ย.8.18 - ความเห็นแก่ตัว หรือ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง

ประเด็นชวนคิด
1. ชายที่สงสัย เค้าคิดอย่างไร
น่าจะคิดว่า ครูในอดีต
ดีกว่า ครูในปัจจุบัน จากที่อ่านนะ
เค้าจะเหมารวมครูทุกคน
และทุกพื้นที่ในประเทศรึเปล่านะ

2. ครูที่มีวุฒิ มีเครื่องมือ มีค่าจ้างสูง
สอนดี น้อยกว่าครูในอดีตที่สอนใต้ร่มไม้
เป็นกันทุกคนเลยเหรอ

3. เด็กชาย ใน คิดถึงวิทยา
ที่เลือกอาชีพของครอบครัว
เค้าอาจพอใจกับครูที่เรือนแพ
แล้วตั้งคำถามถึงครูในโรงเรียนรึเปล่า

4. เคยดูคลิป ระบบสอนปลาปีนต้นไม้
จึงเป็น ความผิดของระบบดังขุนเขา
ความผิดของเราดังเส้นผม .. รึเปล่านะ

5. เค้าตั้งใจเขียน
เพื่อ ชวนคิด หรือ ชวนเชื่อ
ว่าเป็นความผิดของกระทรวงศึกษาธิการ
จึงเป็น ความผิดของกระทรวงดังขุนเขา
ความผิดของเราดังเส้นผม .. รึเปล่านะ
ชวนคิดเรื่องการศึกษา อ่านจาก facebook.com
ผมแค่สงสัย?
เมื่อก่อนตอนผมเด็ก ๆ
ครูของผม ท่านเรียนจบ ป 3 จบ ปกศ เตี้ย ปกศ สูง
ท่านไม่ได้จบ ปริญญาตรี โท เอก ไม่ได้เป็นดอกเตอร์
ครูของผม ท่านไม่มีอบรม ไม่มี child center.
ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง , ยึดนักเรียนเป็นสำคัญ , backward design , bbl , plc , stem ฯลฯ
ครูของผม ท่านมีเงินเดือนน้อย ไม่กี่ร้อยบาท ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง
ไม่มีเงินวิทยฐานะ ไม่มีเงินค่าตอบแทน
ครูของผม ท่านไม่ได้มีตำแหน่ง ไม่มีวิทยฐานะใด ๆ
ไม่มี คศ 1 คศ 2 คศ 3 คศ4 ครูผู้ช่วย ครูชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ
ครูของผม มีเพียงชอล์ค กับ กระดานดำ
ไม่มีคอมพิวเตอร์ โน้ตบุค มือถือ จานดาวเทียม ทีวี อินเตอร์เน็ต ฯลฯ
ครูของผม มีห้องเป็นฝาผนังไม้ธรรมดา ใช้ร่มไม้ ลานดิน สนามหญ้าเป็นห้องเรียน
ไม่มีห้องสมุดอิเลคโทรนิค ไม่มีห้องคอมพิวเตอร์ ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้อง ๆ ๆ ๆ ๆ ฯลฯ
แต่ท่าน สอนนักเรียน ให้เป็นคน ดี มีปัญญา นำพาชีวีมีสุขในสังคม ได้เป็นใหญ่เป็นโต

แต่ ปัจจุบัน
ครู เรียนจบสูง จบปริญญาตรี โท เอก เป็นดอกเตอร์
ครู อบรมทุก ๆ อย่าง เกียรติบัตร โล่เกียรติคุณ ถ้วยรางวัลเต็มห้อง
ครู เงินเดือนเยอะ เงินประจำตำแหน่ง เงินวิทยฐานะ เงินค่าตอบแทน
ครู มีตำแหน่งสูงขึ้น
ครู มีไฮเทคโนโลยีทุก ๆ อย่าง
ครู มีห้องแอร์ ห้องปฏิบัติการต่าง ๆ มากมาย

แต่ นักเรียน อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ คิดคำนวน คิดวิเคราะห์สังเคราะห์แยกแยะไม่ได้
คุณธรรมจริยธรรมศีลธรรมเสื่อมหายไป

อดีต และ ปัจจุบัน สวนทางกัน ตรงกันข้ามกันทุก ๆ อย่าง!!!
ครูของผม ท่านไม่มีอะไรสักอย่าง สอนอย่างเดียว แต่ เด็กเก่งดีมีปัญญาพาชีวีมีสุข :)
ครูปัจจุบัน มีทุกอย่าง ทำทุกอย่าง แต่เด็กมีปัญหา :(
กระทรวงศึกษาธิการ ทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า?
ผมแค่ สงสัย!!!
ต.ย.8.19 - ลักลั่นย้อนแย้ง (Paradox)

ปล. โคนันบอก "ความจริงมีเพียงหนึ่ง"
ย้อนแย้ง (Paradox) หมายถึง สิ่งที่ขัดแย้งอยู่ในตัว
เช่น "อยากสัมผัสหนาว8องศาที่ลำปาง แต่อยากหิงไฟเพราะหนาวมาก"
หรือ "อยากส่วนตัว แต่ไม่อยากโดดเดี่ยว"
หรือ "อยากตั้งใจเรียนแล้วมีความสุข แต่อยากมีความสุขจากเล่นเกม"
หรือ "ตอนเรียนบอกคะแนนนิดไม่สำคัญ แต่พอสอบตกขอเพิ่มให้อีกนิด"
หรือ "แฟนเพจนักการเมืองเหมือนตั้งเพื่อเชียร์ แต่คนเข้าไปไม่เห็นเม้นท์เชียร์สักคน"
หรือ "อยากอายุยืน และมีความสุข แต่ชอบสูบบุหรี่วันละไม่เกิน 1 ซอง"
หรือ "อยากมุ่งมั่นตั้งใจเรียน แต่ไม่อยากอ่านหนังสือ ไม่อยากทำการบ้าน
ไม่อยากสอบ ไม่อยากเข้าเรียน และไม่อยากติดเอฟ"
หรือที่ เอพิเมนิเดส กล่าวว่า "ชาวครีตทุกคนเป็นคนโกหก"
ต.ย.8.20 - ตูน บอดี้สแลม ผู้เสียสละ ก้าวคนละก้าว

#รายชื่อ11โรงพยาบาล

#savetoon
เสียสละ (Sacrifice) หมายถึง ยินยอมให้แม้บางอย่างจะสูญไป เป็นหนึ่งในคุณลักษณะของจริยธรรม "กิจกรรมของพี่ตูน จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมาเสียสละ และทำกิจกรรมเพื่อสังคมกันมากขึ้น เห็นได้ชัดจากกระแสตอบรับกิจกรรมเสียสละของพี่ตูน ในสื่อสังคม"
แล้วพบว่า ตูน บอดี้สแลม ได้กระทำกิจกรรมเสียสละเพื่อสังคม ชื่อ "ก้าวคนละก้าว" มุ่งเน้นในเรื่องของการระดมทุน เพื่อยกระดับการรักษาของโรงพยาบาลศูนย์ ที่ต้องการความช่วยเหลือในหลายจังหวัด ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งหมด 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ
กิจกรรมเกิดขึ้นระหว่าง 1 พฤศจิกายน 2560 - 25 ธันวาคม 2560 โดยมีจุดเริ่มต้น จากสุดเขตแดนใต้ อำเภอ เบตง จังหวัดยะลา ไปจนถึง เหนือสุดแดนสยาม อำเภอแม่สาย จังหวัด เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กม. โดยวิ่งผ่าน 20 จังหวัด .. Blog @thaiabc.com และมี แฟนเพจโครงการ
ต.ย.8.21 - พิมพ์ผิด แล้วลาออก ควรเป็นเยี่ยงอย่างไหม

ข้อมูลจาก ข่าวเนชั่น
ก็อยากกดไลท์ กดแชร์ ที่ผู้ว่าฯ ลาออก
แต่ถ้าจะบอกให้นักศึกษาดูเป็นเยี่ยงอย่าง
.. ต้องขอคิดแป๊ปนึง
.. ว่าผิดอย่างนี้ควรลาออกทันทีหรือไม่

จึงตั้งใจจะเตรียมคำถาม ไว้ชวนเพื่อน เช็คตนเองกันหน่อย
1. ฐานความผิดในการพิมพ์เอกสารผิดจากกรณีนี้
ท่านคิดว่าลาออกจากราชการ สมควรกับความผิด หรือไม่
2. มีงานที่ผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบมากมาย
การเลือกรับผิดชอบที่พิมพ์เอกสารเตรียมรับนายกฯ ผิด แล้วลาออก
ย่อมทำให้สิ้นสุดความรับผิดชอบต่องานผู้ว่าฯ ในปัจจุบันและอนาคต
ท่านคิดว่าการแสดงความรับผิดชอบนี้ เลือกได้ดีที่สุด หรือไม่
3. ถ้ามีลูก มีหลาน มีศิษย์ ท่านจะอบรมสั่งสอน
ว่าหากพิมพ์เอกสารผิด และไม่ส่งผลกระทบใด ที่ร้ายแรง
แต่เพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติ
ท่านคิดว่าจะสอนใคร ให้ลาออกจากงานประจำ หรือไม่
4. ถ้าเป็นตัวอย่างที่ดี แล้วท่านไปพิมพ์เอกสารผิด และต้องการรับผิดชอบ
จึงลาออกจากงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ตอนอายุ 24 ปี
ท่านคิดว่าจะหางานใหม่ หรือไม่ หลังจากออกจากงานเดิมแล้ว
5. การเลือกที่จะลาออกของผู้ว่าฯ อาจมีเหตุผลมากมาย
ที่นำมาประกอบการพิจารณา
นอกจากคำว่า รับผิดชอบต่อการพิมพ์เอกสารผิด และรักษาชื่อเสียงเกียรติยศแล้ว
ท่านคิดว่าควรมีเหตุผลอะไรที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณา หรือไม่
ต.ย.8.22 - จะชัง หรือ จะรักเมืองไทย .. คนเขียนกำหนดได้
อ่านบทความนี้แล้วเห็น 2 อย่าง (Quote มา)
1. "เบื่อหน่ายเมืองไทย"
2. "สันดานพื้นฐานของคนไทย คือ ความเห็นแก่ตัว"

จึงหยิบมาเก็บไว้ เป็นกรณีศึกษา เรื่อง "hate speech" เพราะเคยคุยกับนักศึกษาว่า อย่าใช้คำว่า ส่วนใหญ่ เหมือนที่ เจี๊ยบพูดถึงตูน ว่า "ลำปางแย่มาก" แต่บทความนี้ไม่มี ส่วนใหญ่ เลย เค้าชื่นชม ฝรั่ง แต่ด่าคนไทย และเมืองไทย ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึก ชังคนไทย และเมืองไทย แสดงว่า สมใจคนเขียนแล้ว ต่างกับคลิป "i hate thailand" ที่เล่าถึงความมีน้ำใจของ สาวไทยผิวสีแทน ที่แบ่งปัน ไม่เห็นแก่ตัวต่อฝรั่ง จนฝรั่งแอบปิ้ง และไม่อยากจากเมืองไทย (อยู่ต่อเลยได้ไหม) .. ก็เป็นเรื่องเล่า 2 ขั้ว ระหว่าง เรื่องที่ทำให้ รัก/ชัง เมืองไทย
ข่าวเด็ด .. Hot news

มะพร้าว3ลูก ครูจอมทรัพย์ ครูปรีชา

ข่าวเด่น
mthai.com

ข่าวฮอตสุด
sanook.com

ข่าวเด่น
kapook.com

ข่าวเด่นออนไลน์
khaosod.co.th

ข่าวเด่นประเด็นร้อน
teenee.com
English is Fun : ให้ข้อคิด
English is Fun
ภาคผนวก
แหล่ง Download Fullpaper งานวิจัยสำหรับประชาชน
ThaiLIS เครือข่ายห้องสมุด
ค้นคำว่า "จริยธรรม" พบ 2253 รายการ ค้นเมื่อ 20 ม.ค. 2561 พบงานของ จงกลนี กิติยานันท์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน ปี 2559 เรื่อง ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของผู้บริหารการพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี
แฟ้มเดียวมี 144 หน้า
e-library ของ TRF
ค้นคำว่า "จริยธรรม" พบ 37 + 19 = 56 โครงการ ค้นเมื่อ 20 ม.ค. 2561 พบงานของ นงนภัส พันธ์พลกฤต, ฉัตรชัย ศิริกุลพันธ์ ปี 2558 เรื่อง การวิจัยและพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมจิตจริยธรรมของนักศึกษาอาชีวศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่
แฟ้มเดียวมี 238 หน้า
ศูนย์ข้อมูลการวิจัย วช.
ค้นคำว่า "จริยธรรม" พบ 1295 รายการ ค้นเมื่อ 20 ม.ค. 2561 พบงานของ ทินกร ชุณหภัทรกุล ปี 2560 เรื่อง การสร้างชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของเยาวชน 4 ภาค
แฟ้มรวมมี 189 หน้า
นิสิตอ่านงานวิจัย 5 บท แล้วมีคำถาม ายหนึ่ง (warayut) ลูกศิษย์ของผมส่งภาพเล็ก ๆ มาให้ 1 ภาพ แล้วแนบคำถามว่า "ทำไมได้ 1.46 ครับผม" สืบเนื่องจาก เคยให้ลูกศิษย์ไปค้นเรื่องเก่า ๆ มาอ่านอ้างอิง เค้าก็ไปหาอ่านนู่นนั่นนี่ วันนี้ลูกศิษย์เอาเรื่องที่ได้อ่าน กลับมาถามไถ่ ถามว่าทำไมได้ 1.46 คิดจากสิ่งที่เห็น ย้อนคำนวณดู คำตอบของผมได้ 1.53 ดันไม่ตรงกับที่เห็น จนสุดท้ายต้องพึ่ง อ.กู๋ สุดท้ายก็ตอบลูกศิษย์ได้ ว่า 1.464103 นั้น ได้มาจากแห่งหนตำบลใด (Football_chapter.pdf/title.pdf)
รุปว่า นายหนึ่ง อ่านงานวิจัย 5 บทในโครงการวิจัยเรื่อง "พฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอล : กรณีศึกษาประชาชนในเขตเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว" โดย พรภวิษย์ พันธุชนินทร์ งานนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา กรกฎาคม 2557
จริยธรรมตามปรัชญาขงจื้อ ลักจริยธรรมตามปรัชญาขงจื้อ คือ จงปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน หรือ จงอย่าปฏิบัติต่อผู้อื่นในสิ่งที่ท่านไม่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน ซึ่งคล้ายกับ ศาสนาพุทธ คือ "ทำความดี และ ละความชั่ว" และคล้ายกับ ศาสนาคริสเตียน คือ "จงปฎิบัติต่อผู้อื่นในสิ่งที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน" ซึ่งขงจื้อได้ยกตัวอย่างหลักจริยธรรมที่ท่านได้ยึดถือไว้ 4 ประการ
1. ปฏิบัติต่อบิดาดังที่ต้องการให้บุตรปฏิบัติต่อตน
2. รับใช้เจ้านายอย่างที่ต้องการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติต่อตน
3. รับใช้พี่ชายเหมือนที่ต้องการให้น้องชายปฏิบัติต่อตน
4. ปฏิบัติต่อเพื่อนดังที่ต้องการให้เพื่อนปฏิบัติต่อตน
จริยธรรมทางธุรกิจ [8]p.
PY336 จริยศาสตร์ บทที่ 11 จริยศาสตร์ของขงจื้อ หน้า 260
เว็บเพจที่น่าสนใจ
Journal: การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม กับการรับรู้เกี่ยวกับสังคมอยู่เย็นเป็นสุข : มีความสัมพันธ์กันในทางบวก #
รายงานวิจัยการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียน : ถามหลายด้านว่าโรงเรียนมีหรือไม่ #
รายงานวิจัยจริยธรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของนักเรียนมัธยม #
รายงานวิจัยของครู ป.5 ประเมินจริยธรรมการใช้คอมฯ ของนักเรียน #
รายงานวิจัยว่าพฤติกรรมคุณธรรมจริยธรรมที่ต้องพัฒนา : ถามผู้ใช้บัณฑิต และบัณฑิต เพื่อพัฒนาหลักสูตร #
โครงการ และสรุปผลกิจกรรม : พบว่าตาราง 2.5 มีหัวข้อที่ถามน.ศ.ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร #
แบบสอบถามเกี่ยวกับคุณธรรม : ถามถึงสภาพคุณธรรมในสังคมไทย และปัจจัยส่งเสริมคุณธรรม #
แบบสอบถามราชการ : พฤติกรรมใดสำคัญต่อจริยธรรมข้าราชการ #
แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะบัณฑิต : ตามลักษณะ 5 ด้าน #
เพลงที่แรง สังคมก้มหน้า : เป็นเพลงที่ไม่ถูกใจคนฟัง และมักไม่แชร์ต่อ #
หนังสือ จริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์

ISBN 974-92461-7-9
PDF:L/book_ethics
บุญสืบ โพธิ์ศรี และ อุทัยวรรณ ฉัตรสุวรรณ. (2547). จริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์. พิมพ์ครั้งที่ 1. เจริญรุ่งเรืองการพิมพ์ : นนทบุรี
เนื้อหาในหนังสือ ประกอบด้วย 9 บท ดังนี้
1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจริยธรรม
2. แนวคิดและทฤษฏีทางจริยธรรม
3. จริยธรรมตามแนวคิดในพระพุทธศาสนา
4. จริยธรรมในการประกอบอาชีพ
5. งานอาชีพคอมพิวเตอร์
6. บทบาทและหน้าที่ของนักคอมพิวเตอร์
7. บุคลิคภาพของนักคอมพิวเตอร์
8. การพัฒนาตนเองในงานอาชีพ
9. การพัฒนาจริยธรรมในงานอาชีพคอมพิวเตอร์
หนังสือ จริยธรรมทางธุรกิจ
กิ่งดาว จินดาเทวิน. (2555). จริยธรรมทางธุรกิจ. อุตรดิตถ์: คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. เป็นหนังสือใน โครงการตำราจัดพิมพ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวา ๒๕๕๕. ซึ่งมีทั้งหมด 185 หน้าใน 7 บท ดังนี้ 1) ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจริยธรรมทางธุรกิจ 2) แนวคิดและทฤษฏีจริยธรรม 3) จริยธรรมทางธุรกิจ 4) จริยธรรมผู้บริหาร 5) จริยธรรมและความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม 6) จริยธรรมกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 7) การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของนานาประเทศ
บว่า เคยมีการเผยแพร่ e-book ผ่าน uru.ac.th และ ebooks.in.th ซึ่งต่อมาพบว่า min51 ได้เผยแพร่หนังสือใน anyflip.com และพบในฐานข้อมูล OPAC ตามห้องสมุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่นิสิตนักศึกษา สามารถยืมอ่านจากสำนักหอสมุดในมหาวิทยาลัยของตนเองได้ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กิ่งดาว จินดาเทวิน เป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่มีประวัติใน ฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลงานวิจัยในระบบจำนวน 10 เรื่อง
ค้นใน yahoo.com ด้วย "จริยธรรมทางธุรกิจ flip"
รายวิชา
CPSC 313 : จริยธรรมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพคอมพิวเตอร์ (Ethics for Computer Professionals)
แนวคิดเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า กฎหมายว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความเป็นส่วนตัว อาชญากรรมผ่านสื่อทางคอมพิวเตอร์ กรณีศึกษาการใช้เครือข่ายสังคมในปัจจุบัน #
CPSC 415 : กฎหมาย ระเบียบ และจริยธรรมเชิงเทคโนโลยี (Technology Laws Regulations and Ethics)
นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐ แผนหลักและแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรัพย์สินทางปัญญา จริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคคลและสังคม ความรับผิดชอบของผู้นำองค์กรหรือผู้บริหารด้านเทคโนโลยีที่มีต่อเทคโนโลยีสารสนเทศ การนำทฤษฎีด้านจริยธรรมมาประยุกต์ในการใช้ข้อมูลข่าวสารด้านเทคโนโลยี จริยธรรม ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงและความเป็นเจ้าของข้อมูล เนื้อหาส่วนใหญ่นำเสนอโดยการใช้กรณีศึกษารวมไปถึงการศึกษาโดยส่วนตัว การมีจิตใจเที่ยงตรงยุติธรรม มีความยืดหยุ่น การสื่อสารทั่วโลกและการใช้อินเตอร์เน็ต การล้วงความลับข้อมูล
ประเด็นที่น่าสนใจ
1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจริยธรรมทางเทคโนโลยี
(Introduction to Ethics of Information Technology)
- คอมพิวเตอร์กับสังคมชุมชน
- ปัญหาสังคมจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
- ความหมาย ความสำคัญ และลักษณะของจริยธรรม
- ความหมายของจริยธรรมทางเทคโนโลยี
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและปัญหาด้านจริยธรรม
- ตัวอย่างปัญหาที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมทางเทคโนโลยี
+ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=832346
+ http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9490000112765
2. จริยธรรมของบุคคลและองค์กร (Individual and Organizational Ethics)
- ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคคลและองค์กร
- จริยธรรมทางเทคโนโลยีของบุคคลและองค์กร
3. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
- สิทธิในความเป็นส่วนตัว
- ผลกระทบของเทคโนโลยีกับความเป็นส่วนตัว
- ปัญหาและการป้องกันความเป็นส่วนตัว
4. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)
- สิทธิในความเป็นเจ้าของ
- ทรัพย์สินทางปัญญา
- ความลับทางการค้า ลิขสิทธิ์ และ สิทธิบัตร
- ฟรีแวร์ และซอฟท์แวร์แบบโอเพนท์ซอร์ท (Open source)
5. การเข้ารหัสข้อมูลและการลักลอบดักข้อมูล
(Encryption and Interception of Communication)
- การลักลอบดักข้อมูล และการดักฟัง (Data Interception)
- การใช้วิธีการเข้ารหัส (Cryptography)
- นโยบายการเข้ารหัสข้อมูล
6. ความเป็นอิสระของการสื่อสารในโลกไซเบอร์ (Freedom of Speech in Cyberspace)
- รูปแบบการสื่อสารในโลกยุคไซเบอร์
- การตรวจตราคำพูดที่ไม่เหมาะสมในโลกยุคไซเบอร์
- ชื่อลับในยุคไซเบอร์และการป้องกัน (นักเลงคีย์บอร์ด)
- ปัญหาและการป้องกัน Spam
7. อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Crime)
- การใช้คอมพิวเตอร์ในทางผิดกฎหมาย
- ชนิดของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
- การป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
+ ซอฟท์แวร์ยึดโทรศัพท์มือถือ (Cyber911)
8. คอมพิวเตอร์ในสถานที่ทำงาน (Computers in the Workplace)
- สภาพแวดล้องของการทำงานยุคไอที (IT Working Environment)
- ผลกระทบของคอมพิวเตอร์ต่อการจ้างงานและพนักงาน
9. จริยธรรมและความรับผิดชอบของผู้เชี่ยวชาญ
(Professional Ethics and Responsibilities)
- มุมมองทางด้านจริยธรรมของผู้เชี่ยวชาญ
- แนวทางด้านจริยธรรมของผู้เชี่ยวชาญ (cyber911)
+ การเลือกผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ใช่กรรมการจริยธรรมการวิจัย
+ จริยธรรมในแต่ละอาชีพ
10. ประเด็นของกฎหมายที่เกี่ยวกับจริยธรรมทางเทคโนโลยี
(Laws and Legal Aspects in Cyber Ethics)
- นโยบาย แผนหลักและแผนปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐ [4]
+ http://www.thaiall.com/ethics/egovernment.htm
+ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2545-2549
+ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2552-2556
+ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2557-2561
+ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กองทัพไทยฯ พ.ศ.2557-2561
- พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของข้าราชการ พ.ศ.2540
+ http://www2.diw.go.th/infomation/center/act2540.pdf
+ http://www.oic.go.th/content/act.htm
- พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544
+ http://www.etcommission.go.th/files/law/Electronic_Trans.pdf
- พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
+ หมวด 1 มาตรา 5-17 และหมวด 2 มาตรา 18-30
+ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับข้อมูล และเทคโนโลยีสารสนเทศ
+ ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สไลด์ จริยธรรมธุรกิจ ของ อ.ประสงค์ ผ่องภิรมย์

รหัสวิชา : 2201103
คำอธิบายรายวิชา - จริยธรรมธุรกิจ
แนวคิดที่มาของจริยธรรมในการทำธุรกิจตามหลักการศาสนาอิสลาม เหตุผลที่ธุรกิจต้องมีจริยธรรม การสร้างจริยธรรมในองค์กรธุรกิจ โดยเน้นจริยธรรมผู้บริหารและจริยธรรมของพนักงาน หลักธรรมาภิบาลในการจัดการธุรกิจ ความรับผิดชอบในการทำธุรกิจ ความรับผิดชอบต่อสังคม
สารบัญ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจริยธรรม
บทที่ 3 แนวคิดและที่มาของจริยธรรมธุรกิจ
บทที่ 4 เหตุที่องค์กรธุรกิจต้องมีจริยธรรม
บทที่ 5 การสร้างจริยธรรมในองค์กรธุรกิจ
บทที่ 6 หลักธรรมมาภิบาลในการจัดการธุรกิจ
บทที่ 7 ความรับผิดชอบในการทำธุรกิจ
บทที่ 8 ความรับผิดชอบต่อสังคม
เรื่องเล่าเร้าพลัง "มานะ สมรรถนะ และน้ำใจ"
รื่องน่าอ่าน ส่งเสริมความมีจริยธรรมนิสิตได้เป็นอย่างดี เด่นในเรื่อง มานะ สมรรถนะ และน้ำใจ ซึ่งเรื่อง ไล่ตงจิ้น บะหมี่น้ำหนึ่งชาม และ น็อตตัวละแสน ประสบการณ์แสนแพงของช่างเร่ร่อน แต่ละเรื่องต่างมีหลักคิดที่สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งสร้างสมรรถนะให้กับผู้เรียน สอดคล้องกับคำว่า สมรรถนะดิจิทัล (digital competency) และ หลักสูตรฐานสมรรถนะ (competency-based) ที่ยึดความสามารถของผู้เรียน ที่เรียนแล้วมีทักษะปฏิบัติได้จริงเป็นหลักเป็นฐาน
สุดยอด 4 เรื่องเล่าเร้าพลังใจ
1. ไล่ตงจิ้นลูกขอทานผู้ไม่ยอมแพ้:thaijo
2. น็อตตัวละแสน:สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
3. บะหมี่น้ำหนึ่งชาม:คลิปที่อ่านบทความ
4. เรือรั่วสีแดง:Club To Happiness
เรือรั่วสีแดง (hole in red boat) ายคนหนึ่งถูกขอให้ทาสีเรือ เขานำสีและพู่กันมาและเริ่มทาสีเรือ ให้เป็นสีแดงสดตามที่เจ้าของอยากได้ ขณะทาสีเขาสังเกตเห็นรูเล็ก ๆ ในตัวถัง และซ่อมแซมมันโดยไม่ได้บอกใคร เมื่อเขาทาสีเสร็จ เขาก็รับเงินและจากไป วันรุ่งขึ้นเจ้าของเรือมาหาช่างทาสี และยื่นเช็คให้เขาซึ่งมีมูลค่ามากมาย
ช่างทาสีรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า
"คุณจ่ายเงินให้ผมแล้ว สำหรับการทาสีเรือแล้วนี่นา"
"แต่นี่ไม่ใช่สำหรับงานทาสี มันเป็นค่าซ่อมรูในเรือต่างหาก"
"อา! แต่มันก็เป็นบริการเล็ก ๆ น้อย ๆ ... ไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินมากมายอะไรหรอกครับ"
"ช่างทาสีที่น่ารัก ผมอยากบอกอะไรคุณ อยากให้คุณรู้ว่า อะไรเกิดขึ้น ตอนที่ผมมาขอให้คุณทาสีเรือ ผมลืมพูดถึงรูรั่วที่ตัวถังเรือ เมื่อสีเรือแห้ง ลูก ๆ ของผมก็นำเรือไปตกปลา พวกเขาไม่รู้ว่ามีรูรั่ว ตอนนั้นผมไม่อยู่บ้าน เมื่อผมกลับมาและเห็นว่า พวกเขาเอาเรือของผมออกทะเลไป ชีวิตผมเหมือนพังทลายไป เพราะรู้ดีว่าเรือมีรอยรั่ว"
"คุณลองนึกภาพความปิติ ความโล่งใจและความสุขของผม เมื่อผมเห็นพวกเขานำเรือกลับจากการตกปลา จากนั้นผมก็ตรวจสอบเรือและพบว่าคุณซ่อมมันให้แล้ว!
คุณเห็นไหมว่าคุณทำอะไร
คุณทำมากกว่าการอุดรูรั่วของเรือ
คุณช่วยชีวิตลูกของผม เงินที่ผมให้ ไม่ได้มากมายอะไรไปกว่าการตอบแทน ที่คุณช่วยชีวิตลูกผม ด้วยสิ่งเล็กน้อย แต่มันมากมายและเป็นทั้งชีวิตของลูกและตัวผม"
ดังนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณเห็นรูรั่ว รอยร้าว การไม่นิ่งเฉย หาทางแก้ไขให้เขาหรือสิ่งเหล่านั้น คือ สิ่งที่ควรทำเป็นที่สุด คุณไม่มีทางรู้ว่าเมื่อใดที่มีคนต้องการเรา หรือเมื่อพระเจ้าทรงสร้างความประหลาดใจที่น่ายินดี ที่เราจะช่วยเหลือและให้ความสำคัญกับใครบางคน ระหว่างทางคุณอาจ ซ่อมรูรั่วรอยร้าวจำนวนมากสำหรับหลาย ๆ คน โดยไม่ทราบว่าคุณช่วยชีวิตได้กี่ชีวิต
จงสร้างความแตกต่าง....จงอย่านิ่งเฉย
เครดิต : Club To Happiness
ลบข่าว "นักศึกษา เครียด เรียนออนไลน์ถึงตี 4" ปัจจุบันมีการเสนอข่าวสารมากมายตามแหล่งข่าวที่ผู้สื่อข่าว นำเรื่องราวของผู้อื่นมาเล่าต่อ ซึ่งเนื้อข่าวอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย เป็นการดูหมิ่น ซึ่งวิธีดำเนินการเบื้องต้น คือ แจ้งไปยังแหล่งข่าวให้ช่วยลบ หรือดำเนินการแจ้งลบ ซึ่งหลายเว็บไซต์จะมีบริการแจ้งลบได้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่มีก็เสนอว่า 1) ส่งอีเมลถึงผู้ดูแลระบบ พร้อมอธิบายเหตุผล และอ้างอิงพรบ. หากยังเงียบไปก็อาจเป็นเพราะปัญหาในการสื่อสาร ก็ต้อง 2) โทรศัพท์ติดต่อไปจนพบผู้รับผิดชอบ เพื่อแจ้งขอความร่วมมือ กล่าวถึงการส่งรายละเอียดไปทางอีเมลก่อนหน้านี้
มีกรณีศึกษาข่าวเศร้า เมื่อ 31 มกราคม 2564 แล้วได้ค้นคำว่า "นักศึกษา เครียด เรียนออนไลน์ถึงตี 4" พบว่า หลายเว็บไซต์ได้ลบข้อมูลเชิงข่าวที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดได้ว่าเนื้อหาน่าจะผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 14 หรือ พรบ.อาญา มาตรา 326 ชวนพิจารณาเนื้อหาใน พรบ. ดังนี้
ระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ตาม มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง (๑) มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทำ ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้
าตรา 326* ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ *[มาตรา 326 แก้ไขโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535]
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499
หมวด 3 ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร

าตรา 264 ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
krisdika.go.th
เอกสารอ้างอิง #
[1] ดุจเดือน พันธุนาวิน, "รายงานการสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมในประเทศไทยและต่างประเทศ", ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม, 2550.
[2] พนิดา พานิชกุล, "จริยธรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ", บริษัทเคทีพี คอมพ์ แอนด์ คอนซัลท์ จำกัด, กรุงเทพฯ, 2553.
[3] สิทธิชัย ประสานวงศ์, "คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ", สำนักพิมพ์ซอฟท์เพรส, กรุงเทพฯ, 2556.
[4] สมชัย อักษรารักษ์ และอศินา พรวศิน, "Being e-Citizen by e-Government โฉมหน้าบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐเพื่อคนไทย", บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน), 2547.
[5] บุญสืบ โพธิ์ศรี และอุทัยวรรณ ฉัตรสุวรรณ, "จริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์", สำนักพิมพ์ ศูนย์ส่งเสริมอาชีวะ, 2547.
[6] ศิริพร เสริตานนท์, "ทักษะการคิดกับการแก้ปัญหาชีวิตประจำวัน", คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชั่น, 2556.
[7] ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล, "ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีการจัดการความรู้", บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด., กรุงเทพฯ, 2549.
[8] กิ่งดาว จินดาเทวิน, "จริยธรรมทางธุรกิจ", อุตรดิตถ์: คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏ, 2555.
[9] ชัยวัฒน์ อัตพัฒน์, "จริยศาสตร์", สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2540.
[10] ภรณี หลาวทอง, "จริยธรรมทางธุรกิจ", คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์, 2562.
Thaiall.com