#421 ประสิทธิผลของยูทูป
การรับข่าวสารของมนุษย์ในปัจจุบันเปลี่ยนจากที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาก ข่าวสารแบบมัลติมีเดียถูกนำเสนอในหลายรูปแบบ เพราะปัจจัยเรื่องความเร็ว ความสะดวก ราคาของอุปกรณ์ทั้งรับและส่งลดลง เว็บไซต์ด้านข่าวสารแบบมัลติมีเดียที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ youtube.com จนมีการนำสถิติไปเปรียบเทียบกับการรับข่าวสารทางทีวี (Television) ซึ่งพบว่าผู้คนยังเลือกรับข่าวสารทางทีวีเป็นหลัก แต่มีคำถามตามมาว่าสถิติการดูทีวีของคนในปัจจุบันลดลงหรือไม่ และมีโอกาสเพียงใดที่การรับชมผ่านอุปกรณ์อื่นจะขึ้นมาแทนที่
มีองค์กรไม่น้อยเลือกใช้ youtube.com เป็นช่องทางในการสื่อสาร เพราะมีข่าวว่าผู้คนยุคใหม่เลือกรับข่าวสารจากช่องทางนี้จำนวนมาก อาทิ gangnam style รับชมไปมากกว่า 1800 ล้านครั้ง และ baby ft. Ludacris ของ Justin Bieber รับชมไปมากกว่า 900 ล้านครั้ง ส่วนเพลงของไทย อาทิ แน่นอก รับชมไปกว่า 70 ล้านครั้ง แต่คลิ๊ปข้างต้นมีเนื้อหาด้านความบันเทิงทั้งหมด ส่วนคลิ๊ปด้านข่าวเหตุการณ์ที่น่าสนใจก็จะมีการรับชมในหลักแสน ถ้าเป็นข่าวสารทั่วไปอาจรับชมเพียงไม่กี่ร้อย ถ้าเป็นบันทึกรายการทีวีอาจรับชมไม่กี่สิบครั้งเท่านั้น เพราะความนิยมต่อสื่อมัลติมีเดียขึ้นอยู่กับเนื้อหาของคลิ๊ปเป็นสำคัญ ล่าสุดมีคลิ๊ปของ Captain America ภาค 2 ที่เปิดตัวเพียง 2 วันมีผู้ชมไปแล้วถึง 11 ล้านครั้ง
ยกตัวอย่างคลิ๊ปรณรงค์ของหน่วยงานภาครัฐด้านการศึกษาที่พบว่าเปิดตัวทางทีวีไปแล้ว มียอดรับชมใน youtube.com เพียงไม่กี่ร้อย เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนโรงเรียนในประเทศที่มีกว่าสามหมื่นแห่งก็ถือว่าน้อยมาก หากพิจารณาเรื่องประสิทธิผลที่หมายถึงจำนวนการรับชม ก็น่าจะสรุปได้ว่าการลงทุนจัดทำคลิ๊ปดังกล่าวไม่อาจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือกลุ่มเป้าหมายไม่สนใจรับชมคลิ๊ปประเภทนี้ ตัวอย่างคลิ๊ปโฆษณาสินค้าก็มีอยู่ไม่น้อยที่มียอดชมเพียงหลักร้อย ประเทศไทยมี 77 จังหวัด หากประเมินว่าจังหวัดหนึ่งรับชมคลิ๊ปเพียง 10 คนเท่านั้นก็ถือว่าไม่มีประสิทธิผล หากคำนึงถึงประสิทธิภาพก็ต้องพิจารณากันต่อว่า ผู้ชมคลิ๊ปเหล่านั้นจะมีทัศนคติเชิงบวกหรือลบหลังรับชม เพราะมีหลายครั้งที่คลิ๊ปเหล่านั้นออกมาแล้วกลับทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นภาพลบก็เป็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับการใช้ประโยชน์จากสื่อมัลติมีเดียต่อกลุ่มเป้าหมายยุคนี้
ยกตัวอย่างคลิ๊ปรณรงค์ของหน่วยงานภาครัฐด้านการศึกษาที่พบว่าเปิดตัวทางทีวีไปแล้ว มียอดรับชมใน youtube.com เพียงไม่กี่ร้อย เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนโรงเรียนในประเทศที่มีกว่าสามหมื่นแห่งก็ถือว่าน้อยมาก หากพิจารณาเรื่องประสิทธิผลที่หมายถึงจำนวนการรับชม ก็น่าจะสรุปได้ว่าการลงทุนจัดทำคลิ๊ปดังกล่าวไม่อาจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือกลุ่มเป้าหมายไม่สนใจรับชมคลิ๊ปประเภทนี้ ตัวอย่างคลิ๊ปโฆษณาสินค้าก็มีอยู่ไม่น้อยที่มียอดชมเพียงหลักร้อย ประเทศไทยมี 77 จังหวัด หากประเมินว่าจังหวัดหนึ่งรับชมคลิ๊ปเพียง 10 คนเท่านั้นก็ถือว่าไม่มีประสิทธิผล หากคำนึงถึงประสิทธิภาพก็ต้องพิจารณากันต่อว่า ผู้ชมคลิ๊ปเหล่านั้นจะมีทัศนคติเชิงบวกหรือลบหลังรับชม เพราะมีหลายครั้งที่คลิ๊ปเหล่านั้นออกมาแล้วกลับทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นภาพลบก็เป็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับการใช้ประโยชน์จากสื่อมัลติมีเดียต่อกลุ่มเป้าหมายยุคนี้
http://www.youtube.com/user/Foremostforlife/
http://www.youtube.com/user/onesqaIT
http://www.youtube.com/user/onesqaIT
http://www.youtube.com/user/onesqaIT
