|
#598 เปลี่ยนระบบปฏิบัติการไปตลอดชีวิต
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (User) ที่ใช้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี จะรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงว่าเราเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์กันบ่อย อย่างน้อยก็ต้องเปลี่ยนรุ่นตามกลยุทธ์ของซอฟต์แวร์แต่ละตัว เพราะถ้าใช้ซอฟต์แวร์รุ่นเดิมไปทั้งชีวิตแล้ว ผู้พัฒนาก็จะมีรายได้จากผู้ใช้เพียงครั้งเดียว ดังนั้นจะมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้น แล้วผู้ใช้ก็ต้องควักเงินไปซื้อรุ่นใหม่หรืออัพเกรด (Upgrade) ดังนั้นคงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนที่รวยที่สุดในโลก คือ คนที่ขายซอฟต์แวร์ เพราะผู้ใช้ต้องควักเงินจ่ายค่าซอฟต์แวร์ไปตลอดชีวิต บางคนต้องจ่ายค่าซอฟต์แวร์ให้กับอุปกรณ์ที่บ้าน ที่ทำงาน และแม้กับอุปกรณ์พกพา (Hand Held Computer)
ระบบปฏิบัติการเป็นซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนรุ่นบ่อย เพราะเปลี่ยนตามการพัฒนาของฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีที่ต่อพ่วง มีระบบความปลอดภัยแบบใหม่ มีความสามารถในการเชื่อมต่อที่ทำให้สะดวกกว่าเดิม มีระบบสัมผัส และการติดต่อกับผู้ใช้ที่ดีกว่าเดิม รองรับอุปกรณ์แบบใหม่ การพัฒนามีคนหลายกลุ่มแข่งกันช่วงชิงความได้เปรียบในตลาด ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อมนุษย์กับผู้ใช้ คือระบบปฏิบัติการ (Operation System) ซึ่งมีเพียงไม่กี่ค่ายที่ครองโลกอยู่ อันดับหนึ่งคือ วินโดว์สของบริษัทไมโครซอฟต์ ส่วนอุปกรณ์พกพาก็จะเป็นแอนดรอยของบริษัทกูเกิ้ล กับไอโอเอสของบริษัทแอพเปิ้ล
เมื่อมีการเปลี่ยนรุ่นของซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ก็ตาม ผู้ใช้ก็ต้องปรับตัวกะทันหัน หรือค่อยเป็นค่อยไป บางคนอาจเคยใช้เครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ แล้วเป็นเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ก่อนไปใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ แล้วปัจจุบันก็ถึงยุคของอุปกรณ์พกพา ที่มีทั้งสมาร์ทโฟน (Smartphone) และแท็บเล็ตพีซี (Tablet PC) ที่ใช้ได้ทั้งขณะอยู่บนรถ ทานอาหาร นั่งดูทีวี ประชุม หรือแม้ขณะนั่งเรียนหนังสือ การเปลี่ยนแปลงยังมีต่อไป และการมาใหม่ของอุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมทั้งโลกเข้าด้วยกันก็กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้ ทั้ง Internet Of Thing, Virtual Reality, Augmented Reality หรือ Hologram เป็นต้น ยุคต่อไปอาจไม่ใช่ยุคของบริษัทไมโครซอฟต์ก็ได้ เหมือนที่โกดัก หรือไอบีเอ็ม หรือโนเกีย หรือยาฮู้ที่เคยสูญเสียความเป็นเบอร์หนึ่งมาแล้ว
|
|