# 109 ไอทีในยุคหลานของหลาน
5 พฤศจิกายน 2550 - 11 พฤศจิกายน 2550
ในปัจจุบันใครต่อใครต่างบอกว่าไอที หรืออินเทอร์เน็ตสำคัญมาก ถึงขนาดว่าขาดไอทีเหมือนขาดใจ ไฟฟ้าดับเมื่อใดเป็นบ่นอุปกันไปทั้งโลก มนุษย์เราส่วนใหญ่ใช้ชีวิตพึ่งพิงพลังงานไฟฟ้าหล่อเลี้ยงอุปกรณ์ไอทีมากมาย อาทิ ยืนยันคำสั่งซื้อจากเน็ต ส่งงานอาจารย์ผ่านเน็ต รออีเมลแฟนสาว จองตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ เปิดแอร์ดับร้อน พิมพ์รายงานการประชุม ส่งยอดขายให้บริษัทแม่ ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม รูดบัตรเข้างานตอนเช้า ดูราคาหุ้นเตรียมขาย ใช้บริการรถไฟฟ้า จัดรายการวิทยุ นัดแชทกับกิ๊ก ค้นข้อมูลมาทำรายงาน เรียนหนังสือแบบออนไลน์ หรือการสื่อสารในทุกระบบ
ไอทีเสมือนดาบสองคม ในทุกสังคมต้องมีคนทุกรูปแบบคละเคล้ากันไป บางคนก็ใช้ไอทีเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตัว แต่บางคนอาจใช้ไอทีทำร้ายตนเองและผู้อื่น เรื่องประโยชน์ไม่ต้องพูดถึงมากนัก เพราะเป็นที่รู้กัน แต่สิ่งที่เป็นโทษต้องนำมาขยายเพื่อรณรงค์ให้เข้าใจและควบคุมไม่ให้เกิดขึ้น เช่น การใช้เพื่อการสื่อสารหรือบันเทิงจนเกินพอดี บางคนแชททั้งวันทั้งคืน งานการ หรือการเรียนไม่สนใจ บางคนติดเกมถึงกับเรียนไม่จบก็ยังไม่เลิกเล่นเกม บางคนต้องการได้รับการยอมรับจากเพศตรงข้ามด้วยการโชว์หวิวให้เพื่อนแปลกหน้าเข้ามาชื่นชมผ่านเว็บแคม ปลายกันยายน 2550 มีข่าววัยรุ่นไม่สวมกางเกงในก็ไม่แน่ใจว่ากระแสความนิยมนี้เข้ามาผ่านอินเทอร์เน็ต ผ่านภาพยนต์ ผ่านการ์ตูนญี่ปุ่น ผ่านเกมแต่งตัวตุ๊กตาสำหรับเด็กให้ดูเซ็กซี่ หรือความเสื่อมศรัทธาในศาสนาจนทำให้เกิดพฤติกรรมแบบนี้
ร้อยปีก่อนก็ยังหาหนังสืออ่านกันไม่ได้ ห้าสิบปีก่อนไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง สามสิบปีก่อนทีวีสียังไม่มี มาวันนี้คนไทยพกมือถือคนละเครื่อง การได้อะไรมาย่อมต้องเสียอะไรไป การได้เทคโนโลยีเข้ามาต้องใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานขับเคลื่อน ถ้าหลังจากวันพรุ่งนี้เชื้อเพลิงฟอสซิลหมดไปมนุษย์ต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน ไม่มีพลังงานจากน้ำมันหรือถ่านหิน น้ำในแม่น้ำก็ลดลงจากภาวะโลกร้อน ถ้าท่านและผมโชคดีมีพลังงานใช้ในช่วงชีวิตของเราอย่างไม่ขาดแคลน แต่ถ้าพลังงานหมดในยุคหลานของหลาน แล้วพวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าคนทั้งโลกตระหนักและสร้างภูมิคุ้มกันร่วมกันทั้งโลกตั้งแต่วันนี้ เชื่อว่าลูกหลานในยุคพลังงานสิ้นโลกจะมีชีวิตได้อย่างไม่ลำบากนัก แต่ถ้ามนุษย์ใช้ทรัพยากรบนโลกเหมือนฝูงตั๊กแตนลงทุ่งข้าวโพดอย่างทุกวันนี้ก็คงไม่เหลือพลังงานไว้ให้ลูกหลานไว้เปิดไฟในเวลากลางคืน เปิดแอร์ในหน้าร้อน หรือส่งอีเมลคุยกับเพื่อนข้ามประเทศเป็นแน่น
ร้อยปีก่อนก็ยังหาหนังสืออ่านกันไม่ได้ ห้าสิบปีก่อนไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง สามสิบปีก่อนทีวีสียังไม่มี มาวันนี้คนไทยพกมือถือคนละเครื่อง การได้อะไรมาย่อมต้องเสียอะไรไป การได้เทคโนโลยีเข้ามาต้องใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานขับเคลื่อน ถ้าหลังจากวันพรุ่งนี้เชื้อเพลิงฟอสซิลหมดไปมนุษย์ต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน ไม่มีพลังงานจากน้ำมันหรือถ่านหิน น้ำในแม่น้ำก็ลดลงจากภาวะโลกร้อน ถ้าท่านและผมโชคดีมีพลังงานใช้ในช่วงชีวิตของเราอย่างไม่ขาดแคลน แต่ถ้าพลังงานหมดในยุคหลานของหลาน แล้วพวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าคนทั้งโลกตระหนักและสร้างภูมิคุ้มกันร่วมกันทั้งโลกตั้งแต่วันนี้ เชื่อว่าลูกหลานในยุคพลังงานสิ้นโลกจะมีชีวิตได้อย่างไม่ลำบากนัก แต่ถ้ามนุษย์ใช้ทรัพยากรบนโลกเหมือนฝูงตั๊กแตนลงทุ่งข้าวโพดอย่างทุกวันนี้ก็คงไม่เหลือพลังงานไว้ให้ลูกหลานไว้เปิดไฟในเวลากลางคืน เปิดแอร์ในหน้าร้อน หรือส่งอีเมลคุยกับเพื่อนข้ามประเทศเป็นแน่น